effective communication1. Tone of v

effective communication
1. Tone of voice – try to raise and fall your voice as this is more pleasant than a dull
constant monotone.
2. Volume – try not to speak too loudly as this is most annoying to customers.
Speaking too quietly can also make it difficult for customers to hear you properly.
Try to match your voice volume to the person with whom you are speaking.
3. Speed – try not to speak fast or too slow.
4. Clarity – try not to mumble your words

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สารที่มีประสิทธิภาพ1. เสียง – พยายามยก และตกเสียงของคุณเช่นนี้เป็นที่สบายมากขึ้นกว่าน่าเบื่อmonotone คง2. ปริมาณ – พยายามที่ไม่พูดว่าเท่านี้น่ารำคาญมากที่สุดให้พูดเกินไปเงียบ ๆ สามารถยังทำให้ยากสำหรับลูกค้าจะได้ยินอย่างถูกต้องพยายามให้ตรงกับไดรฟ์ข้อมูลไปยังบุคคลที่คุณกำลังพูดเสียงของคุณ3. ความเร็ว – พยายามที่ไม่พูดเร็ว หรือมากเกินไปช้า4. ความชัดเจน – พยายามไม่ mumble คำของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
1 น้ำเสียง - พยายามที่จะยกระดับและตกเสียงของคุณเช่นนี้เป็นที่น่าพอใจมากกว่าน่าเบื่อ
เสียงเดียวคงที่.
2 ปริมาณ - พยายามที่จะไม่พูดเสียงดังเกินไปเช่นนี้เป็นที่น่ารำคาญที่สุดให้กับลูกค้า.
พูดอย่างเงียบเกินไปยังสามารถทำให้มันยากสำหรับลูกค้าที่จะได้ยินคุณอย่างถูกต้อง.
พยายามให้ตรงกับปริมาณเสียงของคุณกับคนที่คุณกำลังพูด.
3 ความเร็ว - พยายามที่จะไม่พูดเร็วหรือช้าเกินไป.
4 ชัดเจน - พยายามที่จะไม่พึมพำคำพูดของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
1 น้ำเสียงและพยายามที่จะยกและตกเสียงของคุณเป็นนี้เป็นที่น่ายินดีมากกว่าน่าเบื่อ
คงที่ โมโนโทน .
2 - ปริมาณ พยายามอย่าพูดดังเกินไปที่น่ารำคาญมากที่สุดให้กับลูกค้า .
พูดเงียบเกินไปสามารถทำให้มันยากสำหรับลูกค้าที่จะได้ยินคุณอย่างถูกต้อง .
พยายามที่จะตรงกับระดับเสียงของคุณเพื่อคนที่คุณจะพูด .
3- ความเร็ว พยายามไม่พูดเร็วหรือช้าเกินไป .
4 ความชัดเจนและพยายามที่จะไม่พูดพึมพำคำพูดของคุณ