Research and knowledge about dietar

Research and knowledge about dietary habits based nutrition commandments of the nine students to the hospital management. Faculty of Public Health and the Environment University of
copyrights (Knowledge and Food Consumption Behavior of Nine Food-Base Dietary Guidelines for Faculty of Health Students, Huachiew Chalermprakiet University) Advisor: Professor Rittichai. Techa rooms at Tim joy. This research aims to study knowledge. Nutrition and dietary habits by students of the ninth commandment Hospital Management
Faculty of Public Health and Environment. Burapha University This research is a survey research. The sample of students in hospital management. Faculty of Public Health and the Environment To conclude 218 stratified random sampling by 1. (Stratified random sampling) by grade and gender. By calculating the proportion of students in each grade by the total population. And the ratio calculated as the number of male and female students in each grade 2. Simple random sampling (Sample random sampling), and not by picking lottery ticket that night. There will be no repeat unit is selected. The instrument used for data collection was a questionnaire. (Questionnaire) through an examination content validity index of 3 experts have consistency between question is between 0:06 to 1:00 purposes confidence. The questionnaire about their knowledge about food and food additives, equal to 0.67 and a questionnaire about dietary habits, according to the Nutrition Act 9 which equals 0.774 storage since November 2558 questionnaires were returned of 100 statistical procedures used. 1. Descriptive statistics (Descriptive Statistics) to describe the characteristics of the population, including gender, age, grade level, the average income of the student residence, domicile by analyzing average (Mean), frequency (Frequencies), percentage (Percentage) and standard deviation (. Standard deviation) 2. Statistical Inference (Inferential Statistics) analyzed the relationship between personal factors. Knowledge of the principles of nutrition and dietary habits ninth commandment, use the chi-square
(Chi-square test, x2) The study found that 91.7 percent of female students aged 18-23 years old 20 to 55 years. The figure was 25.2 percent lived in a dorm of 177 people representing 81.2 studying in grade one of 59 people representing 27.1 average income per month over 5000 Baht 111 people, representing 50.9 percent. and is domiciled in the Northeast, 75 percent, 34.4 with the knowledge that vitamins and minerals are nutrients that the body can not be utilized. 93.6 per cent and with the knowledge that brown rice is more nutritious rice and glutinous rice. 93.6 per cent, followed by vegetables and fruit for those who only constipation. 89.0 percent and antioxidant commonly used in the food industry with fat and oil component. 80.3 per cent respectively have dietary habits that most routinely eat cooked food, clean with 61.0 percent of the dietary habits of nutrition constituted by nine factors are moderate. With an average of 2.00 to 2.99 79.4 percent Individual students No relation to dietary habits, according to the 9th commandment Nutrition statistically significant.Knowledge of the dietary intake of students. No relation to dietary habits, according to the 9th commandment Nutrition statistically significant.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานวิจัยและความรู้เกี่ยวกับอุปนิสัยใช้โภชนาการบัญญัติของนักเรียน 9 การจัดการโรงพยาบาล คณะสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมมหาวิทยาลัย ลิขสิทธิ์ (ความรู้และอาหารการใช้ลักษณะการทำงานของเก้าฐานอาหารอาหารสำหรับผู้แนวทางสำหรับคณะของสุขภาพนักเรียน มหาวิทยาลัยหัวเฉียว Chalermprakiet) ที่ปรึกษา: ศาสตราจารย์ Rittichai ห้อง Techa ทิมสุข งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้ พฤติกรรมโภชนาการและอาหารสำหรับผู้นักเรียนของบัญชา 9 บริหารโรงพยาบาล คณะสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม วิจัยนี้มหาวิทยาลัยบูรพาเป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ตัวอย่างของนักเรียนในการจัดการโรงพยาบาล คณะสาธารณสุขและในสภาพแวดล้อมเพื่อสรุป 218 stratified สุ่มตัวอย่างแบบสุ่ม 1 (Stratified สุ่มตัวอย่างแบบสุ่ม) ตามเกรดและเพศ โดยคำนวณสัดส่วนของนักเรียนในแต่ละเกรดโดยประชากร และอัตราส่วนคำนวณเป็นจำนวนนักเรียนชาย และหญิงในระดับชั้น 2 สุ่มสุ่มตัวอย่าง (ตัวอย่างสุ่มตัวอย่างแบบสุ่ม), และไม่ใช่โดยรับตั๋วสลากคืนง่าย จะเลือกหน่วยที่ไม่ซ้ำกัน เครื่องมือที่ใช้สำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม (สอบถาม) ผ่านการตรวจสอบเนื้อหาตั้งแต่ดัชนีผู้เชี่ยวชาญ 3 มี ความสอดคล้องระหว่างคำถามคือระหว่าง 0:06 1:00 เอนกประสงค์มั่นใจ แบบสอบถามเกี่ยวกับความรู้เกี่ยวกับอาหารและวัตถุเจือปนอาหาร เท่ากับ 0.67 และแบบสอบถามเกี่ยวกับอุปนิสัยการ ตาม 9 บัญญัติโภชนาการซึ่งเท่ากับ 0.774 เก็บข้อมูลตั้งแต่ 2558 พฤศจิกายนแบบสอบถามส่งคืนของวิธีการทางสถิติ 100 ใช้ 1. อธิบายสถิติ (สถิติพรรณนา) เพื่ออธิบายลักษณะของประชากร รวมเพศ อายุ ระดับชั้น รายได้เฉลี่ยของนักเรียน ตั้งถิ่นฐาน โดยการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย (ค่ามัชฌิม), ความถี่ (ความถี่), เปอร์เซ็นต์ (เปอร์เซ็นต์) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) 2 ข้อสถิติ (สถิติเพียงน้อยนิด) วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ความรู้เกี่ยวกับหลักโภชนาการและอุปนิสัยการบัญชา 9 ใช้ chi-square (Chi-square ทดสอบ x 2) การศึกษาพบว่า ร้อยละ 91.7 ของนักเรียนหญิงอายุ 18-23 ปีอายุ 20-55 ปี ตัวเลขเป็นร้อยละ 25.2 ที่อาศัยอยู่ในหอพัก 177 คนแทน 81.2 เรียนในเกรดหนึ่งคน 59 แสดงรายได้เฉลี่ย 27.1 ต่อเดือนกว่า 5000 บาท 111 คนที่ แสดงร้อยละ 50.9 และจะมีภูมิลำเนาในภาคอีสาน ร้อยละ 75, 34.4 ความรู้ว่า วิตามินและแร่ธาตุเป็นสารอาหารที่สามารถใช้ร่างกายไม่ 93.6 ร้อย และข้าวรู้สีน้ำตาลที่ได้มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าข้าวและข้าวเหนียว ร้อยละ 93.6 ตาม ด้วยผักและผลไม้สำหรับผู้ที่ท้องผูกเท่านั้น ร้อยละ 89.0 และสารต้านอนุมูลอิสระที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารที่มีส่วนประกอบไขมันและน้ำมัน ร้อยละ 80.3 มีอุปนิสัยที่สุดเป็นประจำกินอาหารที่ปรุงสุก สะอาดร้อยละ 61.0 ของอุปนิสัยของโภชนาการที่ทะลักจาก 9 ปัจจัยมีปานกลาง ตามลำดับ โดยเฉลี่ย 2.00-2.99 ร้อยละ 79.4 ศึกษา ไม่สัมพันธ์กับอาหารสำหรับผู้นิสัย ตามบัญชา 9 โภชนาการทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ ความรู้เกี่ยวกับการบริโภคอาหารของนักเรียน ไม่สัมพันธ์กับอุปนิสัย ตามบัญชา 9 โภชนาการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยและความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารตามโภชนาการบัญญัติเก้านักเรียนเพื่อการบริหารจัดการโรงพยาบาล คณะสาธารณสุขศาสตร์และมหาวิทยาลัยสิ่งแวดล้อมลิขสิทธิ์ (ความรู้และพฤติกรรมการบริโภคอาหารของเก้าแนวทางการบริโภคอาหารอาหารพื้นฐานสำหรับนักศึกษาคณะสาธารณสุขมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ) ที่ปรึกษา: ศาสตราจารย์ฤ
ห้องเตชะที่มีความสุขทิม การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้
โภชนาการและพฤติกรรมการบริโภคอาหารของนักเรียนของบัญญัติเก้าบริหารโรงพยาบาลคณะสาธารณสุขศาสตร์และสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยบูรพาวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนในการบริหารจัดการโรงพยาบาล คณะสาธารณสุขศาสตร์และสิ่งแวดล้อมเพื่อสรุป 218 สุ่มแบบแบ่งชั้นโดย 1. (การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น) โดยชั้นประถมศึกษาปีและเพศ โดยการคำนวณสัดส่วนของนักเรียนในแต่ละชั้นโดยประชากรทั้งหมด และอัตราการคำนวณกับจำนวนของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงในแต่ละชั้น 2. การสุ่มตัวอย่างแบบง่ายแบบสุ่ม (ตัวอย่างการสุ่ม) และไม่ได้โดยการเลือกสลากกินแบ่งในคืนนั้น จะไม่มีหน่วยซ้ำจะถูกเลือก เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม (แบบสอบถาม) ผ่านการตรวจสอบเนื้อหาดัชนีความถูกต้องของ 3 ผู้เชี่ยวชาญมีความสอดคล้องระหว่างคำถามคือระหว่าง 0:06-01:00 วัตถุประสงค์ความเชื่อมั่น แบบสอบถามเกี่ยวกับความรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับอาหารและสารอาหารเท่ากับ 0.67 และแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารตามพระราชบัญญัติโภชนาการ 9 ซึ่งเท่ากับ 0.774 จัดเก็บข้อมูลตั้งแต่พฤศจิกายน 2558 แบบสอบถามกลับมา 100 วิธีการทางสถิติที่ใช้ 1. สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) เพื่ออธิบายลักษณะของประชากรรวมทั้งเพศอายุระดับชั้นรายได้เฉลี่ยของที่อยู่อาศัยนักเรียนภูมิลำเนาโดยการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย (Mean) ความถี่ (ความถี่) ร้อยละ (ร้อยละ) และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (. ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) 2. สถิติอนุมาน (อนุมานสถิติ) การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล ความรู้เกี่ยวกับหลักการของโภชนาการและพฤติกรรมการบริโภคอาหารบัญญัติเก้าใช้ไคสแควร์
(ทดสอบ Chi-square, x2) จากการศึกษาพบว่าร้อยละ 91.7 ของนักเรียนหญิงอายุ 18-23 ปี 20-55 ปี ตัวเลขอยู่ที่ร้อยละ 25.2 อาศัยอยู่ในหอพักของ 177 คนที่เป็นตัวแทนของ 81.2 กำลังศึกษาอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีหนึ่งใน 59 คนที่เป็นตัวแทนของ 27.1 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนกว่า 5000 บาท 111 คนคิดเป็นร้อยละ 50.9 และมีภูมิลำเนาอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 75, 34.4 มีความรู้ว่าวิตามินและแร่ธาตุที่มีสารอาหารที่ร่างกายไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ ร้อยละ 93.6 และมีความรู้ว่าข้าวกล้องเป็นข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นและข้าวเหนียว ร้อยละ 93.6 ตามด้วยผักและผลไม้สำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูก ร้อยละ 89.0 และสารต้านอนุมูลอิสระที่ใช้กันทั่วไปในอุตสาหกรรมอาหารที่มีไขมันและส่วนประกอบน้ำมัน 80.3 ร้อยละตามลำดับมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่มากที่สุดเป็นประจำกินอาหารที่ปรุงสุกสะอาดที่มีร้อยละ 61.0 ของพฤติกรรมการบริโภคอาหารของโภชนาการประกอบด้วยเก้าปัจจัยอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยของ 2.00-2.99 ร้อยละ 79.4 นักเรียนส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารไม่เป็นไปตามพระบัญชา 9 โภชนาการ significant.Knowledge สถิติของการบริโภคอาหารของนักเรียน ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคอาหารตามที่บัญญัติ 9 โภชนาการนัยสำคัญทางสถิติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Je vais pisser.Je vais pisser.Je vais pisser.Je vais pisser.Je vais pisser.Je vais pisser.Je vais pisser.Je vais pisser.Je vais pisser.