Objective: Road traffic injuries (R

Objective: Road traffic injuries (RTIs) are a leading cause of disability and fatality globally. Motorcycle-related injuries,
mainly head injuries, and related deaths and disabilities are a significant contributor to the burden of disease in low- and
middle-income countries (LMICs). Helmets have been proven to be an effective way to reduce the risk of head injury. As
motorcycle use continually increases in Cambodia, head injuries and related deaths and disabilities are expected to rise.
This article aims to assess the current status of helmet use in Cambodia, as well as the knowledge, attitudes, and practices
among motorcyclists, in order to assist with better planning and implementation of injury prevention strategies.
Methods: Two separate methodologies were employed for this study. Helmet observations were conducted in Phnom
Penh, Kandal, Kampong Speu, Siem Reap, and Kampong Cham to assess the current status of helmet use during the day and
at night. Roadside knowledge, attitudes, and practice (KAP) interviews were also conducted in Phnom Penh, Kandal, and
Kampong Speu to determine the prevailing beliefs around helmet use in Cambodia.
Results: Based on observations, the proportion of helmet wearing across all study sites was 25 percent at night and 43
percent during the day among all motorcyclists. The observed proportion was up to 10 times higher among drivers compared
to passengers. The top 3 reasons for always wearing a helmet were lifesaving potential, legal duty, and police fines. Almost
60 percent of respondents said that their use or nonuse of a helmet depended on where they were driving. Helmet quality,
price, style, and color were important factors influencing the decision to purchase a helmet.
Conclusions: A paradox appears to exist in Cambodia; though awareness of the benefits of wearing a helmet is high,
actual helmet use remains low in the country. Daytime usage is higher than nighttime, and these proportions are significantly
higher among drivers compared to passengers. There is a continuing need to improve the proportion of all-day helmet
wearing, especially at night and among motorcycle passengers in Cambodia.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์: การบาดเจ็บการจราจรถนน (RTIs) ได้สาเหตุของความพิการและผิวทั่วโลก รถจักรยานยนต์บาดเจ็บบาด เจ็บส่วนใหญ่หัว และเสียชีวิตที่เกี่ยวข้อง และทุพพลภาพเป็นผู้บริจาคสำคัญภาระโรคในต่ำ และคอร์รัปชั่นประเทศ (LMICs) Helmets ได้รับการพิสูจน์จะเป็นวิธีมีประสิทธิภาพเพื่อลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่หัว เป็นรถจักรยานยนต์ใช้เพิ่มในกัมพูชา หัวบาดเจ็บ และเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าความพิการเพิ่มขึ้นบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินสถานะปัจจุบันของการใช้หมวกนิรภัยใน กัมพูชา ตลอดจนความรู้ ทัศนคติ และปฏิบัติในระบบ การช่วยเหลือ ด้วยดี การวางแผนและการดำเนินกลยุทธ์ป้องกันการบาดเจ็บวิธี: วิธีการแยกสองถูกลูกจ้างสำหรับการศึกษานี้ สังเกตหมวกได้ดำเนินการในพนมเปญพนมเปญ Kandal กำปง สปือกำปอง เสียมเรียบ และกำปองจามเพื่อประเมินสถานะปัจจุบันของการใช้หมวกนิรภัยในระหว่างวัน และตอนกลางคืน ริมถนนความรู้ ทัศนคติ และสัมภาษณ์ปฏิบัติ (กาบ) ได้นอกจากนี้ยังดำเนินการในพนมเปญ Kandal และกำปงสปือกำปองเพื่อกำหนดความเชื่อยึดรอบหมวกใช้ในกัมพูชาผลลัพธ์: ตามสังเกต สัดส่วนของหมวกที่สวมใส่ข้ามไซต์ทั้งหมดที่ศึกษามีร้อยละ 25 ที่คืนและ 43เปอร์เซ็นต์ระหว่างวันในระบบทั้งหมด พบสัดส่วนสูงถึง 10 เท่าระหว่างโปรแกรมควบคุมเปรียบเทียบผู้โดยสาร โรงแรมยอดนิยมใน 3 สาเหตุเสมอสวมหมวกกันน็อคได้ศักยภาพ lifesaving กฎหมายภาษี และค่าปรับตำรวจ เกือบ60 percent of respondents said that their use or nonuse of a helmet depended on where they were driving. Helmet quality,price, style, and color were important factors influencing the decision to purchase a helmet.Conclusions: A paradox appears to exist in Cambodia; though awareness of the benefits of wearing a helmet is high,actual helmet use remains low in the country. Daytime usage is higher than nighttime, and these proportions are significantlyhigher among drivers compared to passengers. There is a continuing need to improve the proportion of all-day helmetwearing, especially at night and among motorcycle passengers in Cambodia.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์: ถนนได้รับบาดเจ็บจราจร (RTIs) เป็นสาเหตุของความพิการและการเสียชีวิตทั่วโลก รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับ
ส่วนใหญ่บาดเจ็บที่ศีรษะและเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องและคนพิการเป็นผู้มีส่วนร่วมสำคัญในการรับภาระของโรคต่ำและใน
ประเทศที่มีรายได้ปานกลาง (LMICs) หมวกกันน็อกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่ศีรษะ ในขณะที่
การใช้รถจักรยานยนต์อย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นในประเทศกัมพูชา, การบาดเจ็บที่ศีรษะและเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องและความพิการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น.
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินสถานะปัจจุบันของการใช้หมวกกันน็อกในประเทศกัมพูชาเช่นเดียวกับความรู้ทัศนคติและการปฏิบัติ
ในหมู่ขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อที่จะ ช่วยเหลือในการวางแผนที่ดีและการดำเนินกลยุทธ์การป้องกันการบาดเจ็บ.
วิธีการ: สองวิธีแยกต่างหากที่ถูกว่าจ้างในการศึกษานี้ หมวกกันน็อคสังเกตได้ดำเนินการในกรุง
พนมเปญกันดาลกำปงสปือ, เสียมราฐและกำปงจามเพื่อประเมินสถานะปัจจุบันของการใช้หมวกกันน็อกในระหว่างวันและ
เวลากลางคืน ความรู้ Roadside ทัศนคติและการปฏิบัติ (KAP) สัมภาษณ์ยังอยู่ในกรุงพนมเปญกันดาลและ
กำ Speu เพื่อตรวจสอบความเชื่อที่เกิดขึ้นรอบการใช้หมวกกันน็อกในประเทศกัมพูชา.
ผลการศึกษา: ตามข้อสังเกตของสัดส่วนของการสวมใส่หมวกกันน็อกในเว็บไซต์การศึกษาทั้งหมดเป็น ร้อยละ 25 ในเวลากลางคืนและ 43
เปอร์เซ็นต์ในระหว่างวันท่ามกลางการขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้งหมด สังเกตสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าสูงในหมู่คนขับรถเมื่อเทียบ
กับผู้โดยสาร ด้านบน 3 เหตุผลที่มักจะสวมหมวกกันน็อคได้รับการช่วยชีวิตที่มีศักยภาพการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและมีการปรับตำรวจ เกือบ
ร้อยละ 60 ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าการใช้ของพวกเขาหรือ nonuse ของหมวกกันน็อคขึ้นอยู่กับการที่พวกเขากำลังขับรถ หมวกกันน็อคที่มีคุณภาพ,
ราคา, รูปแบบและสีที่เป็นปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจที่จะซื้อหมวกกันน็อก.
สรุป: ความขัดแย้งที่ดูเหมือนจะอยู่ในกัมพูชา แม้ว่าการรับรู้ถึงประโยชน์ของการสวมหมวกกันน็อคสูง
การใช้หมวกกันน็อกที่เกิดขึ้นจริงที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำในประเทศ การใช้งานในเวลากลางวันจะสูงกว่ากลางคืนและสัดส่วนเหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญ
สูงในหมู่คนขับรถเมื่อเทียบกับผู้โดยสาร มีความจำเป็นอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงสัดส่วนของหมวกกันน็อกทุกวันคือ
การสวมใส่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืนและในหมู่ผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ในประเทศกัมพูชา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ : การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน ( rtis ) สาเหตุของความพิการและการเสียชีวิตทั่วโลก รถจักรยานยนต์ที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บการบาดเจ็บ
ส่วนใหญ่หัว และเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับคนพิการ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ภาระของโรคต่ำ - และประเทศที่มีรายได้ปานกลาง (
lmics ) หมวกมีการพิสูจน์ว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่ศีรษะ โดย
รถจักรยานยนต์ใช้อย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นในกัมพูชา ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับคนพิการที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น .
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินสถานะปัจจุบันของหมวกนิรภัยใช้ในประเทศกัมพูชา รวมทั้งทัศนคติ ความรู้ และการปฏิบัติ
ระหว่างขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อให้ความช่วยเหลือกับการวางแผนที่ดีและการใช้กลยุทธ์การป้องกันการบาดเจ็บ .
วิธี :สองแยก วิธีการศึกษาที่ใช้ในการวิจัย การสังเกตการทดลองใน หมวกกันน็อค
กันดาลกัมปงสปือ , พนมเปญ เสียมเรียบ และกัมปงจาม เพื่อประเมินสภาพปัจจุบันของการใช้หมวกกันน็อคในระหว่างวันและ
ตอนกลางคืน ริมถนน ความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติ ( คับ ) สัมภาษณ์ยังดำเนินการในพนมเปญ กันดาล และ
กำปงสปือศึกษาแลกเปลี่ยนความเชื่อรอบหมวกใช้ในประเทศกัมพูชา
ผลจากการสังเกต มีการสวมหมวกนิรภัยในการศึกษาทั้งหมดเป็นร้อยละ 25 และร้อยละ 43
ตอนกลางคืนในระหว่างวันของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ . และมีสัดส่วนสูงถึง 10 เท่าของไดรเวอร์เมื่อเทียบ
ของผู้โดยสารด้านบน 3 เหตุผลที่มักจะสวมหมวกเป็นหมอที่มีศักยภาพ หน้าที่ตามกฎหมาย และตำรวจค่าปรับ เกือบ
60 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าพวกเขาใช้หรือใช้ของหมวกกันน็อคขึ้นอยู่กับที่พวกเขากำลังขับรถ หมวกกันน็อคคุณภาพ
ราคา รูปแบบ และ สีเป็นปัจจัยสําคัญที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อหมวกกันน็อก
สรุป : Paradox ปรากฏอยู่ในกัมพูชา ;แม้ว่าความตระหนักในประโยชน์ของการสวมใส่หมวกกันน็อคสูง
ใช้หมวกกันน็อกจริงยังคงต่ำในประเทศ ใช้กลางวันมากกว่ากลางคืน และสัดส่วนเหล่านี้จะแตกต่างกันระหว่างไดรเวอร์
สูงกว่าเมื่อเทียบกับผู้โดยสาร มีอย่างต่อเนื่องต้องการปรับปรุงสัดส่วนของทั้งวันหมวก
ใส่เฉพาะตอนกลางคืนของรถจักรยานยนต์และผู้โดยสารในกัมพูชา