อุบัติเหตุในเด็ก
อุบัติเหตุในเด็กนั้น มักเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เด็กเสียชีวิตหรือพิการ และยังทำให้เกิดผลร้ายต่อจิตใจพ่อแม่และทุกคนที่เกี่ยวข้องด้วย คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าอุบัติเหตุป้องกันไม่ได้ แต่ความจริงแล้วเราสามารถป้องกันได้
การเกิดอุบัติเหตุในเด็ก อาจแบ่งตามสถานที่เกิดเหตุและกิจกรรมที่เด็กทำได้ดังนี้
อุบัติเหตุในบ้าน
“บ้าน” เป็นสถานที่ซึ่งเด็กใช้ชีวิตอยู่มากเป็นอันดับหนึ่ง อุบัติเหตุจึงเกิดในบ้านได้บ่อย โดยเฉพาะในห้องนอน และห้องครัว ซึ่งมีอุปกรณ์ต่างๆที่เราเข้าใจว่าไม่เป็นพิษเป็นภัย แต่ความจริงแล้วอาจเกิดผลร้ายต่อเด็กได้
อุบัติเหตุในโรงเรียน
‘โรงเรียน’ ก็เช่นเดียวกับบ้าน คือต้องเป็นสถานที่ที่มีความปลอดภัยและมีจำนวนผู้ดูแลเด็กมากพอสมควร โดยเฉพาะถ้าเป็นเด็กเล็กฝากเลี้ยงหรืออนุบาล
อุบัติเหตุมักเกิดในสนามเด็กเล่นซึ่งไม่ได้มาตรฐาน ม้าหมุนอาจหมุนทับขาเด็กหัก ชิงช้าเป็นสิ่งที่ไม่ควรมีเพราะเด็กอาจแกว่งจนตกลงมา หรือแกว่งไปโดนเด็กอื่น ม้าลื่นถ้าสูงเกินไปเด็กอาจจะตกลงมาได้
อุบัติเหตุระหว่างการเดินทางไปกลับโรงเรียน เป็นเรื่องที่พบบ่อยอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้น เช่น โศกนาฏกรรมที่เด็กตกจากรถผุแล้วถูกรถทับตาย เด็กที่ถูกขังอบไว้ในรถตู้ติดฟิล์มจนถึงแก่ความตาย เด็กจมน้ำตายในโรงเรียนระหว่างว่ายน้ำ เด็กถูกรถชนตายขณะรถโรงเรียนไปส่งที่บ้าน เนื่องจากครูไม่ได้ดูแลพาเด็กเล็กๆข้ามถนน เราควรมีกฎหมายต่างๆควบคุมในเรื่องนี้อย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดความย่อหย่อนในการปฏิบัติ
อุบัติเหตุในการสัญจรไปมา
อุบัติเหตุในการเดินทางมักเกิดขึ้นได้บ่อยและเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กตายหรือพิการเช่นเดียวกัน โดยเด็กอาจเป็นผู้โดยสาร เป็นคนเดินเท้าหรือขับขี่จักรยาน
ในการโดยสารรถต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวหรือจักรยานยนต์ ควรมีมาตรการใช้เข็มขัดนิรภัย หรือใช้หมวกกันน็อกที่เข้มงวด โดยเฉพาะเข็มขัดนิรภัยนี้ควรฝึกให้ใช้ตั้งแต่เด็กยังเล็กๆ เพื่อให้เกิดความเคยชินและพ่อแม่ควรใช้เป็นแบบอย่างให้เด็กเห็นด้วย
อุบัติเหตุจากการเดินทางด้วยวิธีอื่น เช่น ทางน้ำ ควรจะระมัดระวังว่ามีชูชีพช่วยชีวิตครบสำหรับทุกคนหรือไม่ ถ้าไม่มีควรเตรียมไปเอง หรือไม่พาเด็กที่ว่ายน้ำไม่เป็นเดินทางโดยทางเรือ
วิธีการป้องกันอุบัติเหตุในเด็กเล็ก
การดูแลมิให้เด็กๆของเราได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุ เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันระแวดระวังโดยเริ่มตั้งแต่
การให้ความรู้แก่เด็ก
การให้การศึกษากับตัวเด็กมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเมื่อโตขึ้นเด็กจะได้เรียนรู้วิธีการที่จะอยู่รอดปลอดภัยด้วยตนเอง เด็กเล็กๆอายุ 1-2 ปี ที่สามารถเข้าใจคำห้ามได้ก็ควรให้เขาเรียนรู้ว่าไม่ควรเปิด-ปิดสวิตช์ไฟเมื่อตัวเปียก ไม่เอานิ้วแหย่ปลั๊กไฟ ไม่เล่นมีดหรือของมีคม
การออกกฎหมายและการควบคุมปราบปราม
ในกลุ่มประเทศที่เรียกขานตัวเองว่ากำลังจะเป็น “นิกส์” อาจกล่าวได้ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่อนุญาตให้ผู้ขับขี่รถยนต์ดื่มสุราได้ถ้าไม่มึนเมา ในประเทศอื่นๆแม้แต่เชโกสโลวะเกีย ซึ่งเป็นประเทศสังคมนิยม ยังมีกฎหมายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด และกำหนดบทลงโทษรุนแรงเอาไว้ด้วย เช่น ยึดใบอนุญาต 1 ปี
จะเห็นได้ว่าการป้องกันอุบัติเหตุนั้นต้องเกิดขึ้นก่อนที่ระดับจุลภาคคือหน่วยครอบครัวแล้วจึงมาถึงที่ระดับมหาภาคคือ สังคม และรัฐฯ แต่ถึงที่สุดแล้วทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องคุ้มครองเด็กๆ ซึ่งเป็นอนาคตของชาติและเป็นที่รักของเราทุกคน การเกิดอุบัติภัยต่างๆ สาเหตุส่วนใหญ่นั้นเกิดจากความประมาท ความโลภ ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมหลายครั้งในอดีต ความสูญเสียเหล่านั้นจึงควรเป็นบทเรียนอันมีค่าสำหรับอนาคต