ConclusionIn conclusion it should b

Conclusion
In conclusion it should be said that listening competence is
a complex skill that needs to be developed by practice.
Teachers should provide their learners with opportunities
to reflect on their listening processes and practices. The
role of the teacher is very important, as the teacher not only
guides the students through the process of listening, but
also motivates them and puts them in control of their learning.
The success of CLIL methodology in developing listening
skills is evident. In the language lesson listening materials
aim at developing language knowledge and skills and less
attention is devoted to developing cognitive skills, whereas
the material in a content lesson addresses thinking processes.
In a language lesson learners usually listen to different recorded
situations, which demonstrate how the foreign language is
used. Listening materials in the content lesson concentrate
on academic contexts, the focus is on the information. In a
CLIL environment both cognitive skills and language skills
are integrated and developed simultaneously. Studying the
subject, the learners improve their language proficiency.
Developing good listening skills is an inherent part of the
whole learning process. It cannot be taken apart and analyzed
as a separate skill without the general context of CLIL or
any other educational methodology. But as previous research
indicates (Liubinienė, 2008), from the language point of
view, CLIL students develop better oral communication skills,
they improve listening skills, they also develop reading
skills and academic writing, as well as acquire the skills of
presentation and develop ability to answer spontaneously
to questions. Thus they definitely improve both subject and
foreign language competence.
From the subject point of view, they gain better access to
subject-specific foreign language terminology, which leads
to easier comprehension of texts in the target language.
They acquire the skills of understanding the content with
the help of context or extra-linguistic information. This fact
increases learner motivation and prepares for future studies
and work.
If learners learn about the processes of listening they are
likely to become more autonomous in their attitudes and
behavior when presented with listening material. It is also
93
likely that they will seek listening opportunities more
readily, beyond the classroom, as they will view listening
as a process as opposed to a product. In this light, the
contribution of CLIL cannot be overestimated since learners
explore languages in a variety of cognitive and communicative
contexts.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทสรุปเบียดเบียน ก็ควรจะกล่าวว่า มีความสามารถฟังทักษะที่ซับซ้อนที่ต้องได้รับการพัฒนาโดยครูควรให้นักเรียน มีโอกาสเพื่อสะท้อนกระบวนการฟังและปฏิบัติตน ที่บทบาทของครูเป็นสิ่งสำคัญมาก เป็นครูไม่เพียงแนะนำนักเรียนผ่านกระบวนการฟัง แต่นอกจากนี้ยังได้แรงบันดาลใจ และทำให้ควบคุมการเรียนรู้ความสำเร็จของวิธี CLIL พัฒนาฟังทักษะจะเห็นได้ชัด ในบทเรียนภาษาฟังวัสดุมุ่งพัฒนาความรู้ภาษาและทักษะ และน้อยกว่าความทุ่มเทในการพัฒนาทักษะการรับรู้ ในขณะที่วัสดุในการสอนเนื้อหาเน้นกระบวนการคิดในการเรียนการสอนภาษามักฟังต่าง ๆ บันทึกไว้สถานการณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาษาต่างประเทศมีใช้ ฟังในเข้มข้นเนื้อหาบทเรียนในบริบททางวิชาการ โฟกัสอยู่บนข้อมูล ในการสภาพแวดล้อม CLIL รับรู้ทักษะและภาษาบูรณาการ และพัฒนากัน การศึกษาชื่อเรื่อง ผู้เรียนปรับปรุงทักษะทางภาษาของพวกเขาพัฒนาทักษะการฟังที่ดีเป็นส่วนโดยธรรมชาติของการกระบวนการเรียนรู้ทั้งหมด ไม่สามารถนำมาแยก และวิเคราะห์เป็นทักษะแยกต่างหากโดยไม่มีบริบททั่วไปของ CLIL หรือใด ๆ อื่น ๆ ศึกษาวิธีการ วิจัยแต่เป็นก่อนหน้านี้ระบุจุดภาษา (Liubinienė, 2008),ดู CLIL นักเรียนพัฒนาทักษะการสื่อสารปากดีพวกเขาพัฒนาทักษะการฟัง พวกเขายังพัฒนาอ่านทักษะและวิชาการเขียน เป็นทักษะได้รับนำเสนอ และพัฒนาความสามารถในการตอบธรรมชาติถาม ดังนั้น พวกเขาแน่นอนปรับปรุงทั้งเรื่อง และความสามารถภาษาต่างประเทศจากเรื่องมอง พวกเขาได้รับการเข้าถึงคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเฉพาะเรื่อง ซึ่งเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้นของข้อความในภาษาเป้าหมายพวกเขาได้รับทักษะความเข้าใจเนื้อหาที่มีวิธีใช้บริบทหรือข้อมูลพิเศษภาษาศาสตร์ ข้อเท็จจริงนี้เพิ่มแรงจูงใจของผู้เรียน และเตรียมสำหรับการศึกษาในอนาคตและทำงานถ้าผู้เรียนเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการของการฟัง เป็นแนวโน้มที่จะกลายเป็นเขตปกครองตนเองในทัศนคติของพวกเขา และพฤติกรรมเมื่อนำเสนอวัสดุฟัง มี93มีแนวโน้มว่า จะหาโอกาสฟังเพิ่มเติมนอกเหนือจากห้องเรียน พร้อม พวกเขาจะดูฟังเป็นกระบวนการตรงข้ามกับผลิตภัณฑ์ ในการนี้แสง การไม่สามารถ overestimated ของ CLIL ตั้งแต่เรียนภาษาในการสื่อสาร และรับรู้ได้บริบทการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุปโดยสรุปก็ควรจะกล่าวว่าความสามารถในการฟังเป็นทักษะที่ซับซ้อนที่จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาโดยการปฏิบัติ. ครูควรให้ผู้เรียนของพวกเขามีโอกาสที่จะสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการการฟังและการปฏิบัติของพวกเขา บทบาทของครูที่มีความสำคัญมากเป็นครูที่ไม่เพียง แต่ให้คำแนะนำนักเรียนผ่านกระบวนการของการฟังแต่ยังกระตุ้นให้พวกเขาและทำให้พวกเขาอยู่ในการควบคุมของการเรียนรู้ของพวกเขา. ความสำเร็จของวิธีการในการพัฒนา CLIL การฟังทักษะที่เห็นได้ชัด ในบทเรียนภาษาวัสดุฟังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความรู้ทางภาษาและทักษะและน้อยให้ความสนใจจะทุ่มเทให้กับการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในขณะที่วัสดุที่อยู่บทเรียนเนื้อหาความคิดกระบวนการ. ในบทเรียนภาษาผู้เรียนมักจะฟังบันทึกที่แตกต่างกันสถานการณ์ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาษาต่างประเทศที่มีการใช้ ฟังวัสดุในสมาธิบทเรียนเนื้อหาในบริบททางวิชาการให้ความสำคัญกับข้อมูลที่ ในสภาพแวดล้อมที่ CLIL ทั้งทักษะการเรียนรู้และทักษะการใช้ภาษามีการบูรณาการและการพัฒนาไปพร้อมๆ กัน การศึกษาเรื่องของผู้เรียนในการปรับปรุงความสามารถทางภาษาของพวกเขา. การพัฒนาทักษะการฟังที่ดีเป็นส่วนหนึ่งโดยธรรมชาติของกระบวนการเรียนรู้ทั้ง มันไม่สามารถนำออกจากกันและวิเคราะห์เป็นทักษะที่แยกจากกันโดยไม่มีบริบททั่วไปของ CLIL หรือวิธีการศึกษาอื่นๆ แต่เป็นงานวิจัยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็น (Liubinienė 2008) จากจุดภาษาของมุมมองของนักเรียนCLIL การพัฒนาที่ดีขึ้นทักษะการสื่อสารในช่องปากพวกเขาปรับปรุงทักษะการฟังพวกเขายังพัฒนาการอ่านและทักษะการเขียนเชิงวิชาการเช่นเดียวกับการได้เรียนรู้ทักษะของการนำเสนอและการพัฒนาความสามารถที่จะตอบได้เองคำถาม ดังนั้นพวกเขาแน่นอนปรับปรุงทั้งเรื่องและความสามารถภาษาต่างประเทศ. จากจุดเรื่องของมุมมองที่พวกเขาได้รับการเข้าถึงที่ดีกว่าเรื่องเฉพาะคำศัพท์ภาษาต่างประเทศซึ่งนำไปสู่การเข้าใจง่ายของข้อความในภาษาเป้าหมาย. พวกเขาได้เรียนรู้ทักษะในการทำความเข้าใจเนื้อหา ด้วยความช่วยเหลือของบริบทหรือข้อมูลพิเศษทางภาษา ความจริงเรื่องนี้เพิ่มแรงจูงใจในการเรียนรู้และเตรียมความพร้อมสำหรับการศึกษาในอนาคตและการทำงาน. หากผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการของการฟังที่พวกเขามีแนวโน้มที่จะกลายเป็นอิสระมากขึ้นในทัศนคติของพวกเขาและพฤติกรรมเมื่อนำเสนอด้วยวัสดุการฟัง นอกจากนี้ยังเป็น93 ว่าพวกเขาจะแสวงหาโอกาสฟังมากขึ้นได้อย่างง่ายดายนอกห้องเรียนที่พวกเขาจะฟังดูเป็นกระบวนการเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ ในแง่นี้การมีส่วนร่วมของ CLIL ไม่สามารถประเมินผู้เรียนตั้งแต่สำรวจภาษาในความหลากหลายของการคิดและการสื่อสารบริบท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุป
สรุป ควรกล่าวว่า การฟังเป็นทักษะความสามารถ
ซับซ้อนที่ต้องพัฒนา โดยฝึก ครูควรให้ผู้เรียนด้วย

เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสในการฟังของกระบวนการและวิธีปฏิบัติ ส่วนบทบาทของครูเป็นสิ่งสำคัญมาก เช่น ครูไม่เพียงแต่
คู่มือนักเรียน ผ่านกระบวนการของการฟัง แต่
ยังกระตุ้นให้พวกเขาและทำให้พวกเขาในการควบคุมการเรียนของตน clil
ความสำเร็จของวิธีการในการพัฒนาทักษะการฟัง
เห็นได้ชัด . ในภาษาบทเรียนการฟังวัสดุ
มุ่งพัฒนาความรู้และทักษะภาษาและความสนใจน้อย
ทุ่มเทเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ และวัสดุในเนื้อหาบทเรียน

ที่อยู่กระบวนการคิด .ในภาษาบทเรียน ผู้เรียนมักจะฟังที่แตกต่างกันบันทึก
สถานการณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาษาต่างประเทศ
ใช้ . ฟังเพลงวัสดุในเนื้อหาบทเรียนสมาธิ
ในบริบททางวิชาการ โดยเน้นข้อมูล ในสภาพแวดล้อมทั้งทางปัญญาและทักษะ clil

มีการบูรณาการ และพัฒนาทักษะทางภาษาไปพร้อมๆ กัน ศึกษา
หัวเรื่องผู้เรียนพัฒนาความสามารถทางภาษาของตนเอง พัฒนาทักษะการฟังที่ดี

ทั้งหมดให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ มันไม่สามารถนำมาวิเคราะห์
เป็นทักษะแยกโดยไม่มีบริบททั่วไปของ clil หรือ
วิธีการการศึกษาใด ๆอื่น ๆ แต่เป็น
งานวิจัยก่อนหน้านี้แสดง ( liubinien municipalities . kgm , 2008 ) จากจุดภาษา
มุมมองนักเรียน clil พัฒนาขึ้นในช่องปากทักษะการสื่อสาร ,
พวกเขาพัฒนาทักษะการฟัง , พวกเขายังพัฒนาทักษะการอ่าน
และการเขียนเชิงวิชาการ รวมทั้งทักษะในการนำเสนอและพัฒนาความสามารถที่จะตอบ

จะได้ถาม ดังนั้นพวกเขาต้องปรับปรุงทั้งเรื่องความสามารถด้านภาษาต่างประเทศและ
.
จากจุดของมุมมองของพวกเขาได้รับการเข้าถึงที่ดีกว่า

,เรื่องเฉพาะภาษาต่างประเทศคำศัพท์ เพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น ซึ่งนัก
ข้อความในภาษาเป้าหมาย พวกเขาได้รับทักษะความเข้าใจ

เนื้อหาด้วยความช่วยเหลือของบริบทหรือข้อมูลภาษาพิเศษ นี้ความเป็นจริง
เพิ่มแรงจูงใจผู้เรียนและเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตการศึกษา

ถ้าผู้เรียนเรียนและทำงาน เกี่ยวกับกระบวนการของการฟังพวกเขา
แนวโน้มที่จะกลายเป็นอิสระมากขึ้นในทัศนคติและพฤติกรรมเมื่อมีการฟังวัสดุ นอกจากนี้
93
มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะแสวงหาโอกาสในการฟังมากขึ้น
พร้อม นอกห้องเรียน ขณะที่พวกเขาจะดูฟัง
เป็นกระบวนการไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ ในเรื่องนี้ ผลงานของ clil ไม่สามารถ overestimated

เพราะผู้เรียนศึกษาภาษาในความหลากหลายของการคิดและการสื่อสาร
บริบท .