BMX Racing เป็นการขี่แบบแข่งความเร็

BMX Racing
เป็นการขี่แบบแข่งความเร็วในระยะสั้นๆ รูปแบบลักษณะของสนามแข่งจะออกแบบให้มีทางโค้งสลับกันไป และมีเนินสำหรับกระโดด เช่นเดียวกับสนามของ Motocoss จักรยาน BMX Racing ได้เอามาในบ้านเราเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นเป็นที่นิยมมาก แล้วก็ได้เงียบหาไปจากวงการเมื่อช่วง 10ปีที่ผ่านมา แต่ในปัจจุบันนี้ จักรยานBMX racing กำลังกลับมาเป็นที่นิยม
เริ่มมีการจัดแข่งขันมากขึ้น คนที่เคยเลิกไป ก็เริ่มจะกลับมาปัดฝุ่นจักรยานคันเก่า หันมาปั่น BMX กันอีกครั้ง
ในการแข่งขันจักรยานBMX Racing จะแข่งรุ่นการแข่งขันตามอายุและตามความสามารถ มีการเก็บคะแนนสะสมแต่ละสนาม การแข่งขันในหนึ่งรัน โดยปกติจะปล่อยตัวมากที่สุด 8 คัน แล้วหาผู้ชนะในแต่ละรันเข้ารอบต่อไป ขึ้นอยู่กับกติกาในการจัดแข่งขันในสนามนั้นๆ
ลักษณะของจักรยานBMX RACING ช่วงของรถจะยาวกว่า BMX ประเภทอื่น เพื่อช่วยเพิ่มหน้าสัมผัสกับพื้นสนาม ทำให้ยึดเกาะสนามได้ดี ทำให้ง่ายต่อการกระโดดขึ้น ลง เนิน รูปร่างของตัวรถจะออกแนวทันสมัยรูปทรงออกแบบมาตามหลักวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่รูปทรงธรรมดาก็ยังเป็นที่นิยมอยู่
ทักษะของการขี่จักรยานประเภท Racing โดยหลักๆก็จะเน้นการกระโดดเนิน การเข้าแบงก์ และการเร่งความเร็ว สำหรับท่านที่ไม่เคยขี่ Racing มาก่อนก็ไม่ควรไปลองกระโดดเนินเองนะครับ เพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ บางคนที่เคยเห็นจากโทรทัศน์เห็นว่าง่ายๆ แต่ที่จริงแล้วก็อาจไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ควรจะศึกษาหรือขอคำแนะนำจากผู้ที่ขี่อยู่ก่อนแล้ว แล้วก่อนลงสนามทุกครั้งก็ควรจะใส่อุปกรณ์ป้องกันด้วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แข่ง BMX
เป็นการขี่แบบแข่งความเร็วในระยะสั้น ๆ รูปแบบลักษณะของสนามแข่งจะออกแบบให้มีทางโค้งสลับกันไปและมีเนินสำหรับกระโดดเช่นเดียวกับสนามของ Motocoss จักรยาน BMX แข่งปีที่แล้วได้เอามาในบ้านเราเมื่อประมาณ 20 แล้วก็ได้เงียบหาไปจากวงการเมื่อช่วง 10ปีที่ผ่านมา แต่ในปัจจุบันนี้ จักรยานBMX แข่งกำลังกลับมาเป็นที่นิยม
เริ่มมีการจัดแข่งขันมากขึ้นคนที่เคยเลิกไปก็เริ่มจะกลับมาปัดฝุ่นจักรยานคันเก่าหันมาปั่น BMX กันอีกครั้ง
ในการแข่งขันจักรยานBMX แข่งจะแข่งรุ่นการแข่งขันตามอายุและตามความสามารถมีการเก็บคะแนนสะสมแต่ละสนามการแข่งขันในหนึ่งรันโดยปกติจะปล่อยตัวมากที่สุด 8 คันแล้วหาผู้ชนะในแต่ละรันเข้ารอบต่อไป ลักษณะของจักรยานBMX แข่งช่วงของรถจะยาวกว่า BMX ประเภทอื่นเพื่อช่วยเพิ่มหน้าสัมผัสกับพื้นสนามทำให้ยึดเกาะสนามได้ดีทำให้ง่ายต่อการกระโดดขึ้นลงเนิน เพื่อช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่รูปทรงธรรมดาก็ยังเป็นที่นิยมอยู่
ทักษะของการขี่จักรยานประเภทแข่งโดยหลักๆก็จะเน้นการกระโดดเนินการเข้าแบงก์และการเร่งความเร็วสำหรับท่านที่ไม่เคยขี่แข่งมาก่อนก็ไม่ควรไปลองกระโดดเนินเองนะครับเพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ แต่ที่จริงแล้วก็อาจไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดควรจะศึกษาหรือขอคำแนะนำจากผู้ที่ขี่อยู่ก่อนแล้วแล้วก่อนลงสนามทุกครั้งก็ควรจะใส่อุปกรณ์ป้องกันด้วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บีเอ็ม
และมีเนินสำหรับกระโดดเช่นเดียวกับสนามของ Motocoss จักรยานบีเอ็มแข่งได้เอามาในบ้านเราเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วซึ่งตอนนั้นเป็นที่นิยมมาก 10 ปีที่ผ่านมา แต่ในปัจจุบันนี้จักรยานแข่งบีเอ็ม
คนที่เคยเลิกไป หันมาปั่นบีเอ็มกันอีกครั้ง
ในการแข่งขันจักรยานบีเอ็มแข่งรถ มีการเก็บคะแนนสะสมแต่ละสนามการแข่งขันในหนึ่งรันโดยปกติจะปล่อยตัวมากที่สุด 8 คัน
RACING ช่วงของรถจะยาวกว่าบีเอ็มประเภทอื่น ทำให้ยึดเกาะสนามได้ดีทำให้ง่ายต่อการกระโดดขึ้นลงเนิน
แข่งรถโดยหลัก ๆ ก็จะเน้นการกระโดดเนินการเข้าแบงก์และการเร่งความเร็วสำหรับท่านที่ไม่เคยขี่แข่งรถ เพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แข่งรถ
เป็นการขี่แบบแข่งความเร็วในระยะสั้นๆรูปแบบลักษณะของสนามแข่งจะออกแบบให้มีทางโค้งสลับกันไปและมีเนินสำหรับกระโดดเช่นเดียวกับสนามของ motocoss จักรยานแข่งรถได้เอามาในบ้านเราเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้วแล้วก็ได้เงียบหาไปจากวงการเมื่อช่วง 10 ปีที่ผ่านมาแต่ในปัจจุบันนี้จักรยานแข่งรถกำลังกลับมาเป็นที่นิยม
เริ่มมีการจัดแข่งขันมากขึ้นคนที่เคยเลิกไปก็เริ่มจะกลับมาปัดฝุ่นจักรยานคันเก่าหันมาปั่น BMX กันอีกครั้ง
ในการแข่งขันจักรยานแข่งรถจะแข่งรุ่นการแข่งขันตามอายุและตามความสามารถมีการเก็บคะแนนสะสมแต่ละสนามการแข่งขันในหนึ่งรันโดยปกติจะปล่อยตัวมากที่สุด 8 บริเวณส่วนซักล้างด้านนอกแล้วหาผู้ชนะในแต่ละรันเข้ารอบต่อไปลักษณะของจักรยานแข่งรถช่วงของรถจะยาวกว่า BMX ประเภทอื่นเพื่อช่วยเพิ่มหน้าสัมผัสกับพื้นสนามทำให้ยึดเกาะสนามได้ดีทำให้ง่ายต่อการกระโดดขึ้นลงเนินเพื่อช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพมากขึ้นแต่รูปทรงธรรมดาก็ยังเป็นที่นิยมอยู่
ทักษะของการขี่จักรยานประเภทแข่งโดยหลักๆก็จะเน้นการกระโดดเนินการเข้าแบงก์และการเร่งความเร็วสำหรับท่านที่ไม่เคยขี่แข่งมาก่อนก็ไม่ควรไปลองกระโดดเนินเองนะครับเพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้แต่ที่จริงแล้วก็อาจไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดควรจะศึกษาหรือขอคำแนะนำจากผู้ที่ขี่อยู่ก่อนแล้วแล้วก่อนลงสนามทุกครั้งก็ควรจะใส่อุปกรณ์ป้องกันด้วย