Maternal outcomes associated with a

Maternal outcomes associated with abruptio placentae
Findings from logistic regression model for maternal
outcomes associated with abruptio placentae are illustrated
in Table 3. Compared with women without abruption,
those with abruptio placentae had increased risk of
antepartum haemorrhage (OR 11.5; 95 % CI 6.3–21.2),
postpartum haemorrhage (OR 17.9; 95 % CI 8.8–36.4),
caesarean section delivery (OR 5.6; 95 % CI 3.6–8.8) and
need for blood transfusions (OR 9.6; 95 % CI 6.5–14.1).
Similarly, women with abruptio placentae were more
likely to have prolonged hospital stay (OR 3.5; 95 %
CI 1.4–8.6) compared with those who had no abruptio
placentae. Furthermore, abruptio placentae increased
women’s likelihood of having been referred during labour
(OR 3.8, 95 % CI 1.5–9.2). Our data also show that, women
whose pregnancies were complicated by abruptio placentae
had increased risks of altered liver function (OR 5.3, 95 %
CI 1.3–21.6) and (OR 1.6; 95 % CI 1.5–1.8). There were
four maternal deaths which were related to postpartum
haemorrhage, corresponding to case fatality rate of 3.6 %
(6/112). Moreover, patients with abruptio placentae had
increased odds for induced labour as well as being
transferred to intensive care unit, but the association
did not reach statistical significance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลของมารดาที่เกี่ยวข้องกับการลอก placentae
ผลจากรูปแบบการถดถอยโลจิสติกสำหรับมารดาผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับ placentae ลอกจะแสดงในตารางที่3 เมื่อเทียบกับผู้หญิงโดยไม่ต้อง abruption, ผู้ที่มี placentae ลอกได้เพิ่มความเสี่ยงของอาการตกเลือดantepartum (หรือ 11.5; 95% CI 6.3-21.2 ) ตกเลือดหลังคลอด (หรือ 17.9; 95% CI 8.8-36.4) ส่งมอบส่วนซีซาร์ (OR 5.6; 95% CI 3.6-8.8) และความจำเป็นในการถ่ายเลือด(หรือ 9.6. 95% CI 6.5-14.1) ในทำนองเดียวกันผู้หญิง กับ placentae ลอกได้มากขึ้นแนวโน้มที่จะมีเวลานานพักในโรงพยาบาล (OR 3.5; 95% CI 1.4-8.6) เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่เคยลอกplacentae นอกจากนี้ placentae ลอกเพิ่มขึ้นน่าจะเป็นของผู้หญิงที่ได้รับการเรียกในระหว่างแรงงาน(หรือ 3.8, 95% CI 1.5-9.2) ข้อมูลของเรายังแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่มีการตั้งครรภ์ที่ได้รับความซับซ้อนโดย placentae ลอกได้เพิ่มความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงการทำงานของตับ(OR 5.3, 95% CI 1.3-21.6) และ (หรือ 1.6; 95% CI 1.5-1.8) มีสี่การตายของมารดาซึ่งมีความสัมพันธ์กับหลังคลอดอาการตกเลือดที่สอดคล้องกับกรณีการเสียชีวิตอัตรา3.6% (6/112) นอกจากนี้ผู้ป่วยที่มีลอก placentae ได้ราคาต่อรองเพิ่มขึ้นสำหรับการเหนี่ยวนำให้เกิดการใช้แรงงานเช่นเดียวกับการถ่ายโอนไปยังหน่วยดูแลเข้มแต่สมาคมไม่ถึงนัยสำคัญทางสถิติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลของมารดามีความสัมพันธ์กับรกลอกตัวก่อนกำหนด
ผลจากการวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกเพื่อผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับแม่

ในมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นภาพประกอบ ตาราง 3 เมื่อเทียบกับผู้หญิงโดยไม่ตัด
ผู้ , รกลอกตัวก่อนกำหนดได้เพิ่มความเสี่ยงของการตกเลือดก่อนคลอด
( หรือ 11.5 ; 95% CI 6.3 – 5.0 ) ,
หลังคลอดการตกเลือด ( หรือปี ; 95% CI 8.8 - 36.4 )
คลอดทางหน้าท้อง ( หรือ 5.6 ; 95% CI 3.6 – 8.8 ) และ
ต้องการการถ่ายเลือด ( หรือ 9.6 ; 95% CI 6.5 ( 14.1 ) .
ฉันใด หญิงรกลอกตัวก่อนกำหนด (
น่าจะอยู่โรงพยาบาลนาน ( หรือ 3.5 ; 95% CI 1.4
– 8.6 ) เมื่อเทียบกับผู้ ไม่รกในครรภ์ abruptio

นอกจากนี้ รกลอกตัวก่อนกำหนดเพิ่มขึ้น
โอกาสผู้หญิงต้องถูกเรียกระหว่างแรงงาน
( หรือ 3.8 ,95% CI 1.5 – 9.2 ) ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงที่มีการตั้งครรภ์
ซับซ้อนโดยรกลอกตัวก่อนกำหนด
มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเปลี่ยนแปลงการทำงานของตับ ( หรือ 5.3 , 95% CI 1.3
– 21.6 ) และ ( หรือ 1.6 ; 95% CI 1.5 - 1.8 ) มี
4 แม่ซึ่งเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการตกเลือดหลังคลอด
สอดคล้องกับกรณีการเสียชีวิตในอัตรา 3.6 %
( 6 / 112 ) นอกจากนี้ผู้ป่วยรกลอกตัวก่อนกำหนดได้
ราคาที่เพิ่มขึ้นสำหรับการแรงงาน รวมทั้งถูก
ย้ายไป ICU แต่สมาคม
ไม่ถึงนัยสำคัญทางสถิติ