Many studies deal with the use of s

Many studies deal with the use of simulations for scientific discovery learning, when the main task of the learner is to infer the characteristics of the model underlying the simulation (a recent review is presented by de Jong & van Joolingen, 1998). These studies deal with the problems encount-ered in simulationbased learning, with supplementary methods of supporting the learners’ discovery process and with the difficulties of evaluating and differentiating the specific outcomes. Simulation-based learning is usually regarded as an alternative approach to expository instruction or to real hands-on lab exploration, while the studies compare the outcomes of one approach over the other. In the domain of electric circuits, no difference was found between simulation-based learning and expository teaching or hands-on activities, though in the detailed analysis students from the simulation groups seemed to show more advanced mental models (Carlsen & Andre, 1992; Chambers et al., 1994). Various studies indicate that providing learners with specific assignments in combination with the simulation may have a beneficial effect on the learning outcome. The aim of this study was to examine the role of a simulation as a potential aid that may help students to bridge the gap between theory and reality in the case of electric circuits. For this purpose, simulation was used as an intermediate medium, in conjunction with a both the real phenomenon and its diagrammatic representation (Ronen & Eliahu, 1997a).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาจำนวนมากที่จัดการกับการใช้สถานการณ์จำลองการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เมื่อเป็นงานหลักของผู้เรียนจะ เข้าใจลักษณะของรูปแบบพื้นฐานการจำลอง (รีวิวล่าแสดง โดย de Jong & van Joolingen, 1998) การศึกษาเหล่านี้จัดการกับ encount-ered ปัญหาใน simulationbased การเรียนรู้ กับวิธีเสริมสนับสนุนกระบวนการค้นหาของผู้เรียน และความยาก ของการประเมินผลเฉพาะแตกต่าง แบบจำลองสถานการณ์การเรียนรู้มักจะถือเป็นวิธีการเลือกสอน expository หรือ สำรวจห้องปฏิบัติการภาคปฏิบัติจริง ในขณะที่การศึกษาเปรียบเทียบผลของวิธีการหนึ่งมากกว่าอีก ในโดเมนของวงจรไฟฟ้า ความแตกต่างไม่พบระหว่างแบบจำลองสถานการณ์การเรียนรู้ และการสอน expository หรือ กิจกรรม แม้ว่าในการวิเคราะห์รายละเอียด นักเรียนจากกลุ่มจำลองดูเหมือนจะ แสดงแบบจำลองจิตขั้นสูง (Carlsen และ Andre, 1992 แชมเบอร์ et al. 1994) ศึกษาต่าง ๆ บ่งชี้ว่า การให้ผู้เรียน มีการกำหนดเฉพาะร่วมกับการจำลองอาจมีผลประโยชน์ในผลการเรียนรู้ จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการ ตรวจสอบบทบาทของแบบจำลองเป็นเครื่องช่วยที่มีศักยภาพที่อาจช่วยนักเรียนให้ช่องว่างระหว่างทฤษฎีและความเป็นจริงในกรณีของวงจรไฟฟ้า สำหรับวัตถุประสงค์นี้ จำลองใช้เป็นสื่อกลาง ร่วมกับทั้งสองจริงปรากฏการณ์และการแสดงภาพตัดผ่าน (อ่าน & Eliahu, 1997a)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาหลายจัดการกับการใช้แบบจำลองสำหรับการเรียนรู้ค้นพบทางวิทยาศาสตร์เมื่องานหลักของผู้เรียนคือการสรุปลักษณะของรูปแบบที่อยู่ภายใต้การจำลองข้อมูล (การตรวจสอบล่าสุดถูกนำเสนอโดยเดอยองและรถตู้ Joolingen, 1998) การศึกษาเหล่านี้จัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น encount-ered ในการเรียนรู้ simulationbased ด้วยวิธีการเสริมในการสนับสนุนกระบวนการการค้นพบของผู้เรียนและมีความยากลำบากในการประเมินและความแตกต่างของผลที่เฉพาะเจาะจง จำลองการเรียนรู้ที่ใช้มักจะถือได้ว่าเป็นวิธีทางเลือกในการเรียนการสอนเกี่ยวกับการชี้แจงหรือมือในการสำรวจห้องปฏิบัติการจริงขณะที่การศึกษาเปรียบเทียบผลของวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่งในช่วงอื่น ๆ ประสิทธิภาพของวงจรไฟฟ้าไม่พบความแตกต่างระหว่างการเรียนรู้การจำลองที่ใช้และการเรียนการสอนเกี่ยวกับการชี้แจงหรือมือในกิจกรรมแม้ว่าในนักเรียนวิเคราะห์รายละเอียดจากกลุ่มจำลองดูเหมือนจะแสดงแบบจำลองทางจิตที่สูงขึ้น (เพื่อประสบความสำเร็จและอังเดร 1992; Chambers et al., 1994) การศึกษาต่างๆแสดงให้เห็นว่าการให้ผู้เรียนมีการมอบหมายงานที่เฉพาะเจาะจงในการรวมกันกับการจำลองอาจมีผลประโยชน์ในผลการเรียนรู้ จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้เพื่อตรวจสอบบทบาทของการจำลองที่เป็นตัวช่วยที่มีศักยภาพที่อาจช่วยให้นักเรียนที่จะลดช่องว่างระหว่างทฤษฎีและความเป็นจริงในกรณีของวงจรไฟฟ้าที่ เพื่อจุดประสงค์นี้จำลองถูกนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการร่วมกับทั้งสองปรากฏการณ์จริงและการเป็นตัวแทนของแผนภาพ (Ronen & Eliahu, 1997a)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลายการศึกษาที่จัดการกับการใช้จำลองเพื่อการเรียนรู้โดยการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ เมื่อภารกิจหลักของผู้เรียนคือการอนุมานลักษณะของแบบจำลองอ้างอิงการตรวจทานล่าสุดที่นำเสนอโดย de Jong และรถตู้ joolingen , 1998 ) การศึกษาเหล่านี้จัดการกับปัญหา simulationbased นเคานท์รด ในการเรียนรู้ ด้วยวิธีการเสริมกระบวนการสนับสนุนการค้นพบของผู้เรียน และปัญหาของการประเมินและความแตกต่างของผลที่เฉพาะเจาะจง เรียนรู้จากการจำลองมักจะถือเป็นทางเลือกเพื่อการสอนภาษาไทย หรือสำรวจแล็บภาคปฏิบัติจริงในขณะที่การศึกษาเปรียบเทียบผลของวิธีการหนึ่งมากกว่าอื่น ๆ ในโดเมนของวงจรไฟฟ้า แต่ไม่พบความแตกต่างระหว่างการจำลองการเรียนรู้และกิจกรรมการสอนภาษาไทย หรือที่เกี่ยวข้อง แต่ในรายละเอียดการวิเคราะห์นักเรียนจากกลุ่มจำลองดูเหมือนจะแสดงจิตแบบขั้นสูง ( คาร์ลเซิ่น & Andre , 1992 ; ห้อง et al . , 1994 ) การศึกษาต่างๆ พบว่า การให้ผู้เรียนกับงานที่มอบหมายเฉพาะในการรวมกันกับการจำลองอาจมีผลประโยชน์ต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อศึกษาบทบาทของการเป็นผู้ช่วยที่อาจเกิดขึ้นที่อาจช่วยให้นักเรียนที่จะเชื่อมช่องว่างระหว่างทฤษฎีและความเป็นจริงในกรณีของวงจรไฟฟ้า สำหรับวัตถุประสงค์นี้ จำลอง ถูกใช้เป็นสื่อกลางในร่วมกับทั้งจริงและเป็นตัวแทนของปรากฏการณ์เกี่ยวกับแปลน ( Ronen & eliahu 1997a , )