If you already enjoy the taste of t

If you already enjoy the taste of the yellow banana, and looking for other kinds of bananas, you could try the red one. The most popular variety of bananas around the world is the Cavendish banana (the full-yellow large ones) but the red bananas are not far behind and are very popular in North American countries as well as in Asian countries. These bananas have fruit similar to the classic banana, but with an even richer taste reminiscent of a mixture of banana and raspberry.
Red bananas are very good for you, and in this article we will tell you why.
Prevent Kidney Stones
Red bananas are rich in potassium, which is essential for regular working of the body. Potassium prevents the formation of kidney stones, heart disease and cancer. It also helps in calcium retention that improves bone health. Children and elderly people should regularly eat red bananas. This is because children need more calcium than in adults for proper development of the bones and growth. On the other hand, aged people tend to lose calcium, as they grow older. Hence, people above the fifties should eat red bananas daily.
Good source of dietary fiber
A red banana can provide close to 5% of your daily requirement of dietary fiber. In countries like India, it’s quite common to eat bananas after a lunch or dinner, to help aid with the proper excretion of the food. Bananas are recommended for people who have issues with their bowel movement or constipation.
Skin Benefits of Red Banana
Red banana has nutrients like vitamin C and B-6 that are essential for skin. These nutrients help in keeping the skin tight and elastic. The high content of antioxidants present in red banana prevents aging of the skin. These antioxidants protect the skin from oxygen free radicals that cause wrinkles. Banana has about 75 per cent water by weight. Thus, banana helps skin and prevents it from drying and peeling off. So, if you want to look younger with a glowing skin, you must include red banana in your daily meal plan. Use it in a face pack to get better results:
Mash one red banana.
Add one teaspoon honey and one teaspoon lemon juice.
Mix well and apply on face and neck.
Leave it for 15 to 20 minutes.
Wash with lukewarm water.
Good source of dietary fiber
A red banana can provide close to 5% of your daily requirement of dietary fiber. In countries like India, it’s quite common to eat bananas after a lunch or dinner, to help aid with the proper excretion of the food. Bananas are recommended for people who have issues with their bowel movement or constipation.
Cures Ulcers
This is actually the only raw fruit that may be consumed without having stress in over-chronic circumstances. It may also help decrease the level of acidity, and decreases irritation as well. Bananas promote the cell growth within the inner stomach lining to generate a heavier mucous (that safeguards against acid). Furthermore, bananas consist of protease inhibitors, which help remove bacteria within the stomach that are considered the main cause of ulcers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ถ้าคุณแล้วเพลิดเพลินกับรสชาติของกล้วยสีเหลือง และค้นหาชนิดอื่น ๆ ของกล้วย คุณสามารถลองหนึ่งสีแดง กล้วยทั่วโลกมากมายหลากหลายแบบที่นิยมมากที่สุดคือ กล้วยหอมคาเวนดิช (เต็มสีเหลืองขนาดใหญ่คน) แต่กล้วยแดงมีไม่มาก และเป็นที่นิยมมากในประเทศอเมริกาเหนือเช่นในประเทศเอเชีย กล้วยเหล่านี้มีผลคล้ายกับกล้วยคลาสสิก แต่กับข้อแม้ยิ่งขึ้นรสชาติของส่วนผสมของกล้วยและราสเบอร์รี่กล้วยสีแดงจะดีมากสำหรับคุณ และในบทความนี้ เราจะบอกทำไมป้องกันนิ่วในไตกล้วยสีแดงอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานปกติของร่างกาย โพแทสเซียมช่วยป้องกันการก่อตัวของนิ่วในไต โรคหัวใจ และมะเร็ง มันยังช่วยในการเก็บแคลเซียมที่ช่วยปรับปรุงสุขภาพกระดูก เด็กและผู้สูงอายุเป็นประจำควรกินกล้วยแดง นี้เป็น เพราะเด็กต้องการแคลเซียมมากขึ้นกว่าในผู้ใหญ่สำหรับการพัฒนากระดูกและเติบโตที่เหมาะสม บนมืออื่น ๆ ผู้สูงอายุมักจะ สูญเสียแคลเซียม ตามที่พวกเขาโตขึ้น ดังนั้น ผู้แบกควรรับประทานแดงกล้วยทุกวันแหล่งที่ดีของใยอาหารกล้วยแดงสามารถให้เกือบ 5% ของความต้องการประจำวันใยอาหาร ในประเทศเช่นอินเดีย โดยปกติจะกินกล้วยหลังอาหารกลางวันหรืออาหารค่ำ การช่วยเหลือช่วยเหลือ ด้วยการขับถ่ายที่เหมาะสมของอาหาร กล้วยจะแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของลำไส้หรือท้องผูกผิวประโยชน์ของกล้วยแดงกล้วยแดงมีสารอาหารเช่นวิตามิน C และ B-6 ที่จำเป็นสำหรับผิว สารอาหารเหล่านี้ช่วยทำให้ผิวแน่น และยืดหยุ่น เนื้อหาที่สูงของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในกล้วยแดงป้องกันริ้วรอยของผิว เหล่านี้สารต้านอนุมูลอิสระปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระของออกซิเจนที่ทำให้เกิดริ้วรอย กล้วยได้ประมาณ 75 ร้อยน้ำ โดยน้ำหนัก ดังนั้น กล้วยผิว และป้องกันไม่ให้แห้ง และปอกเปลือกออก ดังนั้น ถ้าคุณต้องการดูอ่อนกว่าวัย ด้วยผิวเรืองแสง คุณต้องมีแดงกล้วยในมื้ออาหารของคุณทุกวัน ใช้ในชุดหน้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า:คลุกเคล้าเข้ากล้วยแดงหนึ่งเพิ่มน้ำผึ้งหนึ่งช้อนชาและน้ำผลไม้หนึ่งช้อนชามะนาวส่วนผสม และใช้บนใบหน้าและลำคอทิ้งไว้ 15-20 นาทีล้างออก ด้วยน้ำอุ่นแหล่งที่ดีของใยอาหารกล้วยแดงสามารถให้เกือบ 5% ของความต้องการประจำวันใยอาหาร ในประเทศเช่นอินเดีย โดยปกติจะกินกล้วยหลังอาหารกลางวันหรืออาหารค่ำ การช่วยเหลือช่วยเหลือ ด้วยการขับถ่ายที่เหมาะสมของอาหาร กล้วยจะแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของลำไส้หรือท้องผูกรักษาแผลนี้เป็นจริงผลไม้ดิบเท่านั้นที่อาจใช้ได้โดยไม่มีความเครียดในกรณีเรื้อรังมากกว่า นอกจากนี้มันยังช่วยลดระดับของกรด และการระคายเคืองลดลงเช่นกัน กล้วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ในเยื่อบุภายในกระเพาะอาหารการสร้างเมือกหนักกว่า (ที่ป้องกันจากกรด) นอกจากนี้ กล้วยประกอบด้วยรตีเอส ซึ่งช่วยกำจัดแบคทีเรียในกระเพาะอาหารที่เป็นสาเหตุหลักของแผล ด้วย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หากคุณจะสนุกแล้วรสชาติของกล้วยสีเหลืองและกำลังมองหาชนิดอื่น ๆ ของกล้วย, คุณอาจจะลองสีแดงหนึ่ง ความหลากหลายที่นิยมมากที่สุดของกล้วยทั่วโลกเป็นกล้วยคาเวนดิช (เต็มสีเหลืองขนาดใหญ่) แต่กล้วยสีแดงอยู่ไม่ไกลที่อยู่เบื้องหลังและเป็นที่นิยมมากในประเทศในทวีปอเมริกาเหนือเช่นเดียวกับในประเทศแถบเอเชีย กล้วยเหล่านี้มีผลไม้คล้ายกับกล้วยหอมคลาสสิก แต่มีรสชาติที่หลากหลายยิ่งขึ้นชวนให้นึกถึงส่วนผสมของกล้วยและราสเบอร์รี่.
กล้วยสีแดงเป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับคุณและในบทความนี้เราจะบอกคุณว่าทำไม.
ป้องกันนิ่วในไต
กล้วยแดงที่อุดมไปด้วย โพแทสเซียมซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานปกติของร่างกาย โพแทสเซียมช่วยป้องกันการก่อตัวของนิ่วในไต, โรคหัวใจและโรคมะเร็ง นอกจากนี้ยังช่วยในการเก็บรักษาแคลเซียมที่ช่วยเพิ่มการดูแลสุขภาพกระดูก เด็กและผู้สูงอายุเป็นประจำควรกินกล้วยสีแดง นี้เป็นเพราะเด็กต้องการแคลเซียมมากขึ้นกว่าในผู้ใหญ่สำหรับการพัฒนาที่เหมาะสมของกระดูกและการเจริญเติบโต บนมืออื่น ๆ , คนอายุมีแนวโน้มที่จะสูญเสียแคลเซียมเช่นที่พวกเขาโตขึ้น ดังนั้นคนข้างต้นยุคควรกินกล้วยสีแดงทุกวัน.
แหล่งที่ดีของใยอาหาร
กล้วยสีแดงสามารถให้ใกล้เคียงกับ 5% ของความต้องการในชีวิตประจำวันของคุณของใยอาหาร ในประเทศเช่นอินเดียก็ค่อนข้างธรรมดาที่จะกินกล้วยหลังจากรับประทานอาหารกลางวันหรืออาหารเย็นที่จะช่วยให้ความช่วยเหลือกับการขับถ่ายที่เหมาะสมของอาหาร กล้วยมีการแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของลำไส้หรือท้องผูกของพวกเขา.
ประโยชน์ของผิวหนังแดงกล้วย
แดงกล้วยมีสารอาหารเช่นวิตามินซีและบี 6 ที่มีความจำเป็นสำหรับผิว สารอาหารเหล่านี้ช่วยในการรักษาผิวแน่นและยืดหยุ่น เนื้อหาที่สูงของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในกล้วยสีแดงจะช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยของผิว สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระของออกซิเจนที่ก่อให้เกิดริ้วรอย กล้วยมีประมาณ 75 ต่อน้ำร้อยละโดยน้ำหนัก ดังนั้นกล้วยจะช่วยให้ผิวและป้องกันไม่ให้มันจากการอบแห้งและลอกออก ดังนั้นถ้าคุณต้องการที่จะดูอ่อนกว่าวัยด้วยชุดบำรุงผิวที่เร่าร้อนคุณต้องมีกล้วยสีแดงในแผนอาหารของคุณทุกวัน ใช้มันในแพ็คใบหน้าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า:
Mash กล้วยหนึ่งสีแดง.
เพิ่มน้ำผึ้งช้อนชาหนึ่งและน้ำผลไม้ช้อนชามะนาว.
ผสมให้เข้ากันและนำไปใช้บนใบหน้าและลำคอ.
ทิ้งไว้ 15 ถึง 20 นาที.
ล้างด้วยน้ำอุ่น.
แหล่งที่ดี ใยอาหาร
กล้วยสีแดงสามารถให้ใกล้เคียงกับ 5% ของความต้องการในชีวิตประจำวันของคุณของใยอาหาร ในประเทศเช่นอินเดียก็ค่อนข้างธรรมดาที่จะกินกล้วยหลังจากรับประทานอาหารกลางวันหรืออาหารเย็นที่จะช่วยให้ความช่วยเหลือกับการขับถ่ายที่เหมาะสมของอาหาร กล้วยมีการแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของลำไส้หรือท้องผูกของพวกเขา.
รักษาแผล
นี้เป็นจริงเพียงผลไม้ดิบที่อาจนำมาบริโภคได้โดยไม่ต้องมีความเครียดในสถานการณ์มากกว่าเรื้อรัง นอกจากนี้ยังอาจช่วยลดระดับของความเป็นกรดและลดการระคายเคืองเช่นกัน กล้วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ที่อยู่ภายในเยื่อบุกระเพาะอาหารภายในเพื่อสร้างเมือกหนัก (ซึ่งป้องกันการ Acid) นอกจากนี้กล้วยประกอบด้วยน้ำย่อยโปรตีนที่ช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในกระเพาะอาหารที่มีการพิจารณาสาเหตุหลักของการเกิดแผล