During his stay in Thailand after r

During his stay in Thailand after receiving his C.P.H. in 1921, Prince Mahidol was appointed Director-General of the University Department, Ministry of Education. In that capacity, he upgraded the teaching of biology, physics, and chemistry through curricula development, acquisition of up-to-date equipment, and construction of laboratories and classrooms. Prince Mahidol generously supplemented government budget with his own personal fund, as well as secured donations from members of the Royal Family. But it was in his capacity as Chairman of the Committee to establish the Siriraj School of Medicine that Prince Mahidol demonstrated his capability and farsightedness as an educational planner, as well as his efficiency as an institutional builder.

After he returned home with his well-earned M.D. in 1928, Prince Mahidol taught preventive and social medicine to final year medical students at Siriraj Medical School and then worked as a resident doctor at McCormick Hospital in Chiang Mai and performed operations alongside Dr. E.C. Cord, Director of the hospital. As ever, Prince Mahidol did much more than was required in attending his patients, taking care of needy patients at all hours of the day and night, and even, according to records, donating his own blood for them.

Prince Mahidol’s initiatives and efforts produced a most remarkable and lasting impact on the advancement of modern medicine and public health in Thailand such that he was subsequently honoured with the title of “Father of Modern Medicine and Public Health of Thailand”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เขาพักในประเทศไทยหลังจากได้รับ C.P.H. ของเขาในปี 1921 ปรินซ์มหิดลถูกแต่งตั้งอธิบดีกรมมหาวิทยาลัย กระทรวงศึกษาธิการ ในการผลิต เขาปรับสอนชีววิทยา ฟิสิกส์ และเคมีผ่านการพัฒนาหลักสูตร ซื้ออุปกรณ์ที่ทันสมัย และการก่อสร้างห้องปฏิบัติการและห้องเรียน มหิดลเจ้าตัวเสริมงบประมาณรัฐบาลกับกองทุนส่วนบุคคลของเขาเอง ตลอดจนปลอดภัยบริจาคจากสมาชิกของพระบรมวงศานุวงศ์ แต่ก็ของเขากำลังเป็นประธานกรรมการสร้างศิริราชโรงเรียนแพทยศาสตร์มหิดลเจ้าสาธิตของเขาความสามารถและน้ำเน่าเป็นผู้วางแผนการศึกษา รวมทั้งประสิทธิภาพของเขาเป็นการสร้างสถาบัน

หลังจากที่เขากลับบ้าน ด้วยนพ.เขาได้รับเชิญใน 1928 ปรินซ์มหิดลสอนเวชศาสตร์ป้องกัน และสังคมนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายที่โรงเรียนแพทย์ศิริราชแล้วทำงานเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลแมคคอร์มิคเชียงใหม่ และทำการดำเนินการควบคู่ไปกับดร. E.C. สาย ผู้อำนวยการโรงพยาบาล เช่นเคย ปรินซ์มหิดลได้มากกว่าที่ถูกต้องในการเข้าร่วมของผู้ป่วย ดูแลผู้ป่วยที่ยากจนทั้งหมดชั่วโมงของวันและคืน และแม้กระทั่ง ตามระเบียน บริจาคเลือดของเขาเองนั้น

เจ้ามหิดลริเริ่มและความพยายามผลิตโดดเด่นมากที่สุด และยั่งยืนผลกระทบต่อความก้าวหน้าของการแพทย์สมัยใหม่และสาธารณสุขในประเทศไทยเช่นที่เขาได้รับการยกย่องในเวลาต่อมา มีชื่อของ "บิดาแห่งยาและสาธารณสุขของไทย"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระหว่างที่เขาอยู่ในประเทศไทยหลังจากที่ได้รับ CPH ของเขาในปี 1921 สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลได้รับการแต่งตั้งอธิบดีกรมมหาวิทยาลัยกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะที่เขาปรับการเรียนการสอนชีววิทยาฟิสิกส์และเคมีที่ผ่านการพัฒนาหลักสูตรการซื้อกิจการของอุปกรณ์ up-to-วันที่และการก่อสร้างของห้องปฏิบัติการและห้องเรียน สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลงบประมาณของรัฐบาลอย่างไม่เห็นแก่ตัวด้วยการเสริมกองทุนส่วนบุคคลของตัวเองเช่นเดียวกับการบริจาคปลอดภัยจากสมาชิกของพระราชวงศ์ แต่มันก็อยู่ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการที่จะสร้างศิริราชโรงเรียนแพทย์ที่สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเขาและสายตายาวในฐานะที่เป็นผู้วางแผนการศึกษาเช่นเดียวกับที่มีประสิทธิภาพของเขาในฐานะที่เป็นสถาบันสร้างหลังจากที่เขากลับมาบ้านพร้อมกับของเขาสมควรจะได้ MD ในปี ค.ศ. 1928 สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลสอนเวชศาสตร์ป้องกันและสังคมเพื่อนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายที่โรงเรียนแพทย์ศิริราชแล้วทำงานเป็นแพทย์ประจำที่โรงพยาบาลแมคในจังหวัดเชียงใหม่และดำเนินการควบคู่ไปกับการดำเนินงานของ ดร. EC สายผู้อำนวยการโรงพยาบาล เช่นเคยสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลได้มากขึ้นกว่าที่ถูกต้องในการเข้าร่วมผู้ป่วยของเขา, การดูแลผู้ป่วยที่ยากจนที่ทุกชั่วโมงของวันและคืนและยังตามบันทึกการบริจาคเลือดของตัวเองสำหรับพวกเขาริเริ่มสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลและความพยายามในการผลิต ผลกระทบที่น่าทึ่งมากที่สุดและยาวนานในความก้าวหน้าของการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขในประเทศไทยเช่นที่เขาได้รับเกียรติต่อมาด้วยชื่อของ "พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของประเทศไทย"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในระหว่างที่เขาอยู่ในไทย หลังจากได้รับ c.p.h. ของเขาในปี 1921 สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ได้รับการแต่งตั้งอธิบดีกรมมหาวิทยาลัย กระทรวงศึกษาธิการ ในความจุที่เขาปรับการสอนชีววิทยา ฟิสิกส์ และเคมี โดยการพัฒนาหลักสูตร การจัดหาอุปกรณ์ที่ทันสมัย และการสร้างห้องปฏิบัติการ และห้องเรียนสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล เพื่อเสริมงบประมาณกับกองทุนส่วนบุคคลของเขาเอง รวมทั้งมีการบริจาคจากสมาชิกของพระราชวงศ์ แต่มันอยู่ในความสามารถของเขาในฐานะประธานคณะกรรมการจัดตั้งโรงเรียนแพทย์ศิริราชว่า สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล แสดงความสามารถของเขา และสายตายาวเป็นผู้วางแผนทางการศึกษา ตลอดจนประสิทธิภาพของเขาเป็น

สร้างสถาบันหลังจากที่เขากลับมาบ้านด้วย 1 ได้รับได้ดีใน 1928 , สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลสอนเวชศาสตร์ป้องกันและสังคมให้นักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายในโรงเรียนแพทย์ศิริราชและจากนั้นทำงานเป็นหมอฝึกหัดที่ โรงพยาบาลแมคคอร์มิค เชียงใหม่ และผ่าตัดกับ ดร. อีซีสาย ผู้อำนวยการโรงพยาบาล เท่าที่เคย , สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลได้มากขึ้นกว่าที่ใช้ในการเข้าร่วมผู้ป่วยของเขาการดูแลผู้ป่วยที่ขัดสนที่ทุกชั่วโมงของวันและคืน และแม้ตามประวัติ บริจาค เลือดของเขาเองสำหรับพวกเขา .

ของสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ความคิดริเริ่มและความพยายามสร้างผลกระทบที่โดดเด่นที่สุดและยั่งยืนในความก้าวหน้าของการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขในประเทศไทย เช่นที่เขาและเป็นเกียรติกับชื่อของ " บิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของประเทศไทย”