Behavioral Science ApproachThere ar

Behavioral Science Approach

There are a number of individuals who have developed their theories based on the individual, not the organization. These behavioralists include Bakke, Barnard, and Argyris. Their theories concerned the relationship between the individual and the organization. Abraham Maslow, possibly the most famous behavioralist, developed his Hierarchy of Needs. His theory suggested a pyramidal structure of human needs that every individual seeks to have met. These needs move from basic physiological needs, such as the need for air, food, and water, to safety needs, social needs, esteem needs, and the need for self-actualization. Maslow’s Hierarchy of Needs is important in that organizations must help to provide employees with the ability to satisfy their needs so that they can become more productive employees.

Perhaps less known than Maslow but equally important to the behaviorist theory was Douglas McGregor, who suggested 2 what he called “theories” concerning the relationship between an individual in a supervisory job and workers. In his theory, known as McGregor’s theory of X and Y, McGregor suggests that a Theory X manager is one who thinks that all workers are lazy, that they have no interest in the success of the organization, and that they have a strong dislike for work. To achieve any productivity, a manager or supervisor must control and threaten workers. Theory X suggests that workers must continually be directed and, further, that they actually desire the constant supervision of an authority figure. They must constantly be prodded and have no desire to see the organization succeed.

Theory Y suggests the opposite, namely, that workers want the company or organization to succeed and that physical or mental effort in work is natural and is desirable by employees. Some 21 years after McGregor’s publication of his theory of X and Y, professor William Ouchi developed his Theory Z, which is considered to be a cornerstone of Japanese industry. This theory suggests that to obtain maximum productivity from workers, they must be given a sense of ownership in the organization. They must feel that they are important and worthy and, further, that their ideas and suggestions are considered by management.

Frederick Herzberg is famous for developing what he called a two-factor theory of motivation. He distinguished factors know as hygiene factors – factors that cause or prevent job dissatisfaction – and motivation factors – factors that cause job satisfaction. Hygiene factors include company policies and administration, working conditions, and salary. According to Herzberg, these factors do not contribute to job satisfaction, but the absence of them causes job dissatisfaction. Motivation factors allow for a sense of job satisfaction among workers. Motivating factors include a sense of achievement, recognition by the organization, and the potential for growth and advancement in the organization.

Rensis Likert is known as a participatory management theorist. He devised a 4-part system of stages of management consisting of exploitative, authoritarian, benevolent, and participative. The Likert system further developed McGregor’s theory of X and Y and approaches Ouchi’s theory Z in suggesting that the best managers are participative: They include workers in the decision-making process.

- See more at: http://www.elearnportal.com/courses/education/introduction-to-educational-administration/introduction-to-educational-administration-behavioral-science-approach#sthash.ufw7pN6D.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนวทางพฤติกรรมศาสตร์มีจำนวนผู้ที่ได้พัฒนาทฤษฎีของพวกเขาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล องค์กรที่ไม่ Behavioralists เหล่านี้ได้แก่ Bakke, Barnard และ Argyris ทฤษฎีของพวกเขาเกี่ยวข้องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและองค์กร อับราฮัมมาสโลว์ อาจจะมีชื่อเสียงมากที่สุด behavioralist พัฒนาของลำดับชั้นของความต้องการ ทฤษฎีของเขาแนะนำโครงสร้างแบบ pyramidal ต้องมนุษย์ที่ทุกบุคคลที่ได้รู้จัก ความต้องการเหล่านี้ย้ายจากพื้นฐานสรีรวิทยาความต้องการ เช่นต้องการอากาศ อาหาร และน้ำ ความปลอดภัย สังคมต้องการ ความต้องการ และความจำเป็นสำหรับ self-actualization ของมาสโลว์ลำดับชั้นของความต้องเป็นสิ่งสำคัญที่องค์กรต้องช่วยให้พนักงานสามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถกลายเป็นพนักงานมากขึ้นบางทีน้อยรู้จักกว่ามาสโลว์ แต่สิ่งสำคัญการที่ behaviorist ทฤษฎีได้ดักลาสแม็คเกรเกอร์ ผู้แนะนำ 2 ที่เขาเรียกว่า "ทฤษฎี" เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในงานประกาศงาน ในทฤษฎีของเขา เป็นของเกรเกอร์ทฤษฎี X และ Y แม็คเกรเกอร์แนะนำผู้จัดการทฤษฎี X ว่าคนที่คิดว่า ทุกคนจะขี้เกียจ ว่า พวกเขามีไม่สนใจในความสำเร็จขององค์กร และพวกเขามีไม่ชอบแข็งแรงสำหรับทำงาน เพื่อให้บรรลุประสิทธิภาพใด ๆ ผู้จัดการหรือหัวหน้างานต้องควบคุม และคุกคามแรงงาน ทฤษฎี X ชี้ให้เห็นว่า ผู้ปฏิบัติงานต้องนำอย่างต่อเนื่อง และ ต่อ ไป ว่า พวกเขาจริงต้องดูแลคงที่ของการมีอำนาจ พวกเขาต้องได้ prodded ตลอดเวลา และมีความปรารถนาไม่เห็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จ ทฤษฎี Y แนะนำตรงข้าม คือ ที่แรงงานต้องการบริษัท หรือองค์กรจะประสบความสำเร็จ และความพยายามที่กาย หรือจิตใจในการทำงานเป็นธรรมชาติ และต้องการพนักงาน ปี 21 หลังจากเผยแพร่ทฤษฎีของเขาของเกรเกอร์ X และ Y ศาสตราจารย์ William อันพัฒนาเขา Z ทฤษฎี ซึ่งถือเป็นรากฐานของอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ทฤษฎีนี้ชี้ให้เห็นว่า เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดจากผู้ปฏิบัติงาน ให้ความรู้สึกเป็นเจ้าของในองค์กร พวกเขาต้องรู้สึกว่า จะสำคัญ และสมควร และ เพิ่มเติม พิจารณาว่า ความคิดและคำแนะนำของพวกเขา โดยการจัดการ เฟรเดอริก Herzberg คือสถานพัฒนาสิ่งที่เขาเรียกทฤษฎีสองปัจจัยของแรงจูงใจ เขาแตกต่างปัจจัยรู้ปัจจัยอนามัย –ปัจจัยที่ก่อให้เกิด หรือป้องกันความไม่พอใจงาน – และปัจจัยแรงจูงใจปัจจัยที่ทำให้เกิดความพึงพอใจในงาน ปัจจัยสุขอนามัยรวมถึงนโยบายของบริษัท และดูแล สภาพการทำงาน และเงินเดือน ตาม Herzberg ปัจจัยเหล่านี้ไม่สนับสนุนงานความพึงพอใจ แต่ความไม่พอใจงานเป็นสาเหตุของการขาดงานของพวกเขา ปัจจัยแรงจูงใจให้สำหรับความรู้สึกของความพึงพอใจในงานระหว่างผู้ปฏิบัติงาน ปัจจัยจูงใจได้แก่ความสำเร็จ การรับรู้องค์กร และศักยภาพในการเจริญเติบโตและก้าวหน้าในองค์กรRensis Likert เรียกว่า theorist จัดการแบบมีส่วนร่วม เขาคิดค้นระบบ 4 ส่วนขั้นตอนของการจัดการประกอบด้วยเผชิญ ประเทศ กลาย และ participative ระบบ Likert เพิ่มเติมพัฒนาของเกรเกอร์ทฤษฎี X และ Y และยื่นของอันทฤษฎี Z ในการแนะนำดีผู้จัดการ participative: รวมงานในกระบวนการตัดสินใจ-ดูเพิ่มเติมได้ที่: http://www.elearnportal.com/courses/education/introduction-to-educational-administration/introduction-to-educational-administration-behavioral-science-approach#sthash.ufw7pN6D.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พฤติกรรมศาสตร์วิธีมีจำนวนของบุคคลที่ได้รับการพัฒนาทฤษฎีของพวกเขาขึ้นอยู่กับบุคคลที่ไม่ได้องค์กร behavioralists เหล่านี้รวมถึง Bakke บาร์นาร์ดและ Argyris ทฤษฎีของพวกเขาที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและองค์กร อับราฮัมมาสโลว์อาจ behavioralist ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาพัฒนาลำดับชั้นของความต้องการ ทฤษฎีของเขาชี้ให้เห็นโครงสร้างเสี้ยมของความต้องการของมนุษย์ที่ทุกคนพยายามที่จะได้พบกับ ความต้องการเหล่านี้ย้ายจากความต้องการทางสรีรวิทยาพื้นฐานเช่นความจำเป็นสำหรับอากาศอาหารและน้ำเพื่อตอบสนองความต้องการด้านความปลอดภัย, ความต้องการของสังคมต้องการความภาคภูมิใจและความจำเป็นใน actualization ตนเอง ลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์มีความสำคัญในองค์กรที่ต้องช่วยเพื่อให้พนักงานที่มีความสามารถในการตอบสนองความต้องการของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถกลายเป็นพนักงานที่มีประสิทธิผลมากขึ้น. อาจจะรู้จักกันน้อยกว่า Maslow แต่ความสำคัญเท่าเทียมกันกับทฤษฎี behaviorist เป็นดักลาสเกรเกอร์ที่เสนอ 2 สิ่งที่ เขาเรียกว่า "ทฤษฎี" ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในงานกำกับดูแลและคนงาน ในทางทฤษฎีของเขาที่รู้จักกันเป็นทฤษฎีคเกรเกอร์ของ X และ Y เกรเกอร์แสดงให้เห็นว่าผู้จัดการทฤษฎี X คือคนที่คิดว่าคนงานทุกคนที่ขี้เกียจว่าพวกเขามีความสนใจในความสำเร็จขององค์กรไม่ได้และว่าพวกเขามีไม่ชอบอย่างแรงสำหรับ ทำงาน เพื่อให้ได้ผลผลิตใด ๆ ที่ผู้จัดการหรือหัวหน้างานจะต้องควบคุมและขู่คนงาน ทฤษฎี X แสดงให้เห็นว่าคนงานอย่างต่อเนื่องจะต้องกำกับและต่อไปที่พวกเขาจริงต้องการดูแลอย่างต่อเนื่องของตัวเลขผู้มีอำนาจ พวกเขาอย่างต่อเนื่องจะต้องแหย่และมีความปรารถนาที่จะเห็นองค์กรที่ไม่ประสบความสำเร็จ. ทฤษฎี Y แสดงให้เห็นตรงข้ามคือว่าคนงานต้องการ บริษัท หรือองค์กรจะประสบความสำเร็จและความพยายามทางร่างกายหรือจิตใจในการทำงานเป็นไปตามธรรมชาติและเป็นที่พึงปรารถนาของพนักงาน บางคน 21 ปีหลังจากที่ตีพิมพ์เกรเกอร์ของทฤษฎีของเขา X และ Y ศาสตราจารย์วิลเลียม Ouchi พัฒนาทฤษฎีของเขา Z ซึ่งจะถือเป็นรากฐานที่สำคัญของอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ทฤษฎีนี้แสดงให้เห็นว่าเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงสุดจากคนที่พวกเขาจะต้องได้รับความรู้สึกของความเป็นเจ้าของในองค์กร พวกเขาจะต้องรู้สึกว่าพวกเขามีความสำคัญและคุ้มค่าและต่อว่าความคิดและข้อเสนอแนะของพวกเขาได้รับการพิจารณาโดยผู้บริหาร. เฟรเดอริ Herzberg มีชื่อเสียงในการพัฒนาสิ่งที่เขาเรียกว่าทฤษฎีสองปัจจัยของแรงจูงใจ เขาประสบความสำเร็จปัจจัยรู้ว่าเป็นปัจจัยสุขอนามัย - ปัจจัยที่ก่อให้เกิดหรือป้องกันความไม่พอใจในการทำงาน - และปัจจัยจูงใจ - ปัจจัยที่ก่อให้เกิดความพึงพอใจในงาน ปัจจัยสุขอนามัยรวมถึงนโยบายของ บริษัท และการบริหารสภาพการทำงานและเงินเดือน ตาม Herzberg ปัจจัยเหล่านี้จะไม่นำไปสู่ความพึงพอใจในงาน แต่ตัวตนของพวกเขาทำให้เกิดความไม่พอใจในการทำงาน ปัจจัยที่สร้างแรงจูงใจให้สำหรับความรู้สึกของความพึงพอใจในการทำงานของคนงาน ปัจจัยที่สร้างแรงจูงใจรวมถึงความรู้สึกของความสำเร็จที่ได้รับการยอมรับจากองค์กรและศักยภาพในการเจริญเติบโตและความก้าวหน้าในองค์กร. Rensis Likert เป็นที่รู้จักกันในฐานะที่เป็นนักทฤษฎีการจัดการแบบมีส่วนร่วม เขาวางแผนระบบ 4 ส่วนหนึ่งของขั้นตอนของการจัดการประกอบด้วยขูดรีดเผด็จการใจดีและมีส่วนร่วม ระบบ Likert พัฒนาต่อทฤษฎีของเกรเกอร์ของ X และ Y และ Z แนวทางทฤษฎี Ouchi ในบอกว่าผู้จัดการที่ดีที่สุดคือการมีส่วนร่วม: พวกเขารวมถึงคนงานในกระบวนการตัดสินใจ. - ดูเพิ่มเติมได้ที่:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พฤติกรรมศาสตร์แนวทาง

มีจำนวนของบุคคลที่มีการพัฒนาทฤษฎีของเขาบนพื้นฐานของแต่ละบุคคล ไม่ใช่องค์กร เหล่านี้รวมถึง Bakke Barnard และ behavioralists , กีริส . ทฤษฎีของพวกเขาที่เกี่ยวข้อง ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและองค์กร อับราฮัม มาสโลว์ อาจจะ behavioralist ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาพัฒนาลำดับชั้นของความต้องการทฤษฎีของเขาได้เสนอโครงสร้างเสี้ยมของความต้องการของมนุษย์ทุกแต่ละคนพยายามที่จะได้เจอกัน ความต้องการเหล่านี้ย้ายจากความต้องการพื้นฐาน เช่น ความต้องการอากาศ อาหาร น้ำ ความต้องการความปลอดภัย ความต้องการทางสังคม ความต้องการศักดิ์ศรี และความต้องการเข้าใจตนเอง .ลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์สำคัญที่องค์กรจะช่วยให้พนักงานที่มีความสามารถเพื่อตอบสนองความต้องการของพวกเขาเพื่อให้พวกเขาสามารถกลายเป็นพนักงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

บางทีรู้จักกันน้อยกว่า แต่ที่สำคัญคือทฤษฎีมาสโลว์ behaviorist คือดักลาส แมคเกรเกอร์ ,ใครแนะนำอะไรเขา เรียกว่า " ทฤษฎี " ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในงานนิเทศและคนงาน ในทฤษฎีของเขา เรียกว่า ทฤษฎีของ McGregor ของ X และ Y , แมคเกรเกอร์แสดงให้เห็นว่าทฤษฎี x ผู้จัดการ คือ ผู้ที่คิดว่า คนงานทั้งหมดจะขี้เกียจ ที่พวกเขามีความสนใจในความสำเร็จขององค์กร และพวกเขามีไม่ชอบที่แข็งแกร่งสำหรับการทำงานเพื่อให้บรรลุใด ๆ ประสิทธิภาพ ผู้จัดการ หรือหัวหน้างาน ต้องควบคุมและข่มขู่คนงาน ทฤษฎีแสดงให้เห็นว่าแรงงานยังคงต้องถูกกำกับและเพิ่มเติมว่าพวกเขาจริงต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่องของตัวเลขอำนาจ . พวกเขาตลอดเวลาต้องแหย่ และมีความปรารถนาที่จะเห็นองค์กรที่ประสบความสำเร็จ ทฤษฎี

Y บ่งบอกตรงกันข้าม คือคนต้องการของ บริษัท หรือองค์กรให้ประสบความสำเร็จ และความพยายามที่ร่างกายหรือจิตใจในการทำงาน คือ ธรรมชาติ และเป็นที่พึงปรารถนาของพนักงาน บาง 21 ปีหลังจากเกอร์ของสิ่งพิมพ์ของทฤษฎีของเขาของ X และ Y , ศาสตราจารย์วิลเลียม ชิพัฒนาทฤษฎีของเขา Z ซึ่งถือว่าเป็นเสาหลักของอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ทฤษฎีนี้เสนอว่าเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด จากคนงานพวกเขาจะต้องได้รับความรู้สึกของความเป็นเจ้าของในองค์กร พวกเขาจะรู้สึกว่าพวกเขามีความสำคัญ และมีคุณค่า และ เพิ่มเติมว่า ความคิดและข้อเสนอแนะของพวกเขาจะพิจารณาโดยการจัดการ

สมเด็จ ) มีชื่อเสียงในการพัฒนาสิ่งที่เขาเรียกว่าทฤษฎีสองปัจจัยของแรงจูงใจเขามีชื่อเสียงว่าเป็นปัจจัยจูงใจปัจจัย ( ปัจจัยที่ทำให้ไม่พอใจหรือป้องกัน–งาน และปัจจัยจูงใจ และปัจจัยที่ก่อให้เกิดความพึงพอใจ ปัจจัยอนามัย ได้แก่ นโยบายและการบริหารงาน บริษัท การทำงาน และเงินเดือน ตามใน ปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้มีส่วนร่วมกับความพึงพอใจในงาน แต่ไม่มีงานของพวกเขาก่อให้เกิดความไม่พอใจปัจจัยจูงใจที่ให้ความรู้สึกของความพึงพอใจในงานของพนักงาน ปัจจัยกระตุ้น ได้แก่ ความรู้สึก การยอมรับจากองค์กร และศักยภาพในการเติบโตและก้าวหน้าในองค์กร

เรนซิส ไลเคิร์ตเรียกว่ามีส่วนร่วมการจัดการนักทฤษฎี เขาวางแผนระบบ 4-part ขั้นตอนของการจัดการประกอบด้วยในแบบ , มีเมตตา ,และแบบมีส่วนร่วม . ระบบคนพัฒนาต่อไป McGregor ทฤษฎี x และ y และวิธีการเอาชี่ทฤษฎี Z ในบอกว่าผู้จัดการที่ดีที่สุดคือการมีส่วนร่วม : พวกเขารวมถึงแรงงานในกระบวนการตัดสินใจ

- ดูเพิ่มเติมที่ : http://www.elearnportal .ดอทคอม / หลักสูตร / การศึกษา / ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการบริหารการศึกษา / ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการบริหารการศึกษาพฤติกรรมศาสตร์แนวทาง# sthash.ufw7pn6d.dpuf