Urease is a key enzyme that leads t

Urease is a key enzyme that leads to calcite precipitation and is produced in significant amounts in media containing urea and calcium sources (Stocks-Fischer et al., 1999; Muynck et al., 2010).All isolated strains produced amounts of urease. Among the isolates, the bacterial mixtures showed the highest levels of urease activity (29.2 mM), followed by KJ-47 (27.5 mM), KJ-46 (24.7 mM),B-21 (24.7 mM), and B-22 (21.7 mM) (Fig. 1). The highest calcite production was observed in KJ-47 (17.6 mg/mL), followed by B-22 (17.2 mg/mL), bacterial mixtures (A3, 15.0 mg/mL), KJ-46(14.0 mg/mL), and B-21 (12.5 mg/mL). Compared with the single culture, the bacterial mixtures has many advantages because ureahydrolysis rates were higher in it and the pH values of the bacterialmixtures increased more rapidly than those of the different singlecultures (data not shown). Urease producing bacteria can promote calcium carbonate precipitation by hydrolyzing urea, and producing ammonium and bicarbonate ions, there by, increasing the pH and accelerating chemical reactions (Achal and Pan, 2011).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เอนไซม์เป็นเอนไซม์สำคัญที่นำไปสู่การตกตะกอนของแคลไซต์ และผลิตในปริมาณที่สำคัญในสื่อที่ประกอบด้วยยูเรียและแคลเซียมแหล่ง (Fischer หุ้น et al. 1999 Muynck et al. 2010) ทุกสายพันธุ์ที่แยกผลิตปริมาณของเอนไซม์ ระหว่างแยก ผสมเชื้อแบคทีเรียพบว่าระดับสูงสุดของกิจกรรมเอนไซม์ (29.2 mM), ตาม ด้วย KJ-47 (27.5 mM), KJ-46 (24.7 มม.), B-21 (24.7 มม.), และ B-22 (21.7 มม.) (รูปที่ 1) การผลิตแคลไซต์สูงสุดถูกตรวจสอบใน KJ-47 (17.6 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร), ตาม ด้วย B-22 (17.2 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร), แบคทีเรียผสม (A3, 15.0 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร), KJ 46(14.0 mg/mL), B-21 (12.5 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร) เมื่อเทียบกับวัฒนธรรมเดี่ยว ผสมแบคทีเรียมีประโยชน์มากเนื่องจาก ureahydrolysis ราคาถูกมันสูงกว่า และค่า pH ของ bacterialmixtures ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าของ singlecultures แตกต่างกัน (ไม่ได้แสดงข้อมูล) เอนไซม์ผลิตแบคทีเรียที่สามารถส่งเสริมแคลเซียมคาร์บอเนตตกตะกอน โดย hydrolyzing ยูเรีย และผลิตแอมโมเนียและไบคาร์บอเนตไอออน มี โดย การเพิ่มค่า pH และเร่งปฏิกิริยาเคมี (Achal และกระทะ 2011)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยูรีเอสเป็นเอนไซม์ที่สำคัญที่จะนำไปสู่การตกตะกอนแคลเซียมคาร์บอเนตและมีการผลิตในปริมาณที่มีนัยสำคัญในสื่อที่มียูเรียและแคลเซียมแหล่งที่มา (หุ้น-ฟิชเชอร์, et al, 1999;.. Muynck et al, 2010) ได้โดยง่ายสายพันธุ์ที่แยกผลิตจำนวน urease ท่ามกลางสายพันธุ์ที่ผสมแบคทีเรียแสดงให้เห็นว่าผู้บริหารระดับสูงของกิจกรรม urease (29.2 มิลลิเมตร) ตามด้วย KJ-47 (27.5 มิลลิเมตร) KJ-46 (24.7 มิลลิเมตร), B-21 (24.7 มิลลิเมตร) และ B-22 ( 21.7 มิลลิเมตร) (รูปที่ 1). การผลิตแคลเซียมคาร์บอเนตสูงสุดพบว่าใน KJ-47 (17.6 mg / ml) ตามด้วย B-22 (17.2 มิลลิกรัม / มิลลิลิตร) ผสมแบคทีเรีย (A3, 15.0 mg / ml) KJ-46 (14.0 mg / ml) B-21 (12.5 mg / ml) เมื่อเทียบกับวัฒนธรรมเดี่ยวผสมแบคทีเรียมีข้อดีเนื่องจากอัตรา ureahydrolysis สูงในนั้นและค่าพีเอชของ bacterialmixtures เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า singlecultures ที่แตกต่างกัน (ไม่ได้แสดงข้อมูล) urease แบคทีเรียที่ผลิตสามารถส่งเสริมแคลเซียมคาร์บอเนตตกตะกอนโดยการไฮโดรไลซ์ยูเรียและแอมโมเนียมและการผลิตไบคาร์บอเนตไอออนโดยมีการเพิ่มค่า pH และเร่งปฏิกิริยาเคมี (Achal และแพน 2011)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นเอนไซม์ที่มีกุญแจที่นำไปสู่การตกตะกอนแคลไซด์และผลิตในจํานวนมากในสื่อที่มียูเรียและแคลเซียมแหล่ง ( หุ้น Fischer et al . , 1999 ; muynck et al . , 2010 ) ทุกแยกสายพันธุ์ที่ผลิตจำนวนมากที่มี . ระหว่างสายพันธุ์ผสมแบคทีเรียพบว่าระดับสูงของกิจกรรมที่มี ( 2 มม. ) , ตามด้วย kj-47 ( 27.5 มิลลิเมตร ) , kj-46 ( 24.7 มม. ) , b-21 ( 24.7 มม. ) และ b-22 ( 21.7 ม.ม. ) ( รูปที่ 1 ) การผลิตแร่แคลไซต์พบสูงสุดใน kj-47 ( 17.6 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ตามด้วย b-22 ( 17.2 mg / ml ) , เชื้อผสม ( A3 , 15.0 mg / ml ) kj-46 ( 14.0 mg / ml ) และ b-21 ( 12.5 mg / ml ) เปรียบเทียบกับวัฒนธรรมเดี่ยวผสมแบคทีเรียที่มีประโยชน์มาก เพราะอัตรา ureahydrolysis สูงขึ้นใน มัน และ ค่า pH ของ bacterialmixtures เพิ่มขึ้นเร็วกว่าของ singlecultures แตกต่างกัน ( ข้อมูลไม่แสดง ) ที่มีแบคทีเรียที่ผลิตสามารถส่งเสริมแคลเซียมคาร์บอเนตตกตะกอนโดยการย่อยยูเรียและการผลิตแอมโมเนียไบคาร์บอเนตไอออน และ มี โดย เพิ่ม และการเร่งปฏิกิริยาทางเคมี ( ชาล เมฮ์และกระทะ , 2011 )