DNA barcoding using the mtDNA COI g

DNA barcoding using the mtDNA COI gene is a powerful tool
for identifying fish species when there is a lack of morphological
data. This method has been broadly used for taxonomy, species
delimitation, population and phylogeographic analyses, egg and
larvae detection, and industrial applications [25,19,26,27]. It could
also provide useful information on the phylogenetic relationships
of sharks [28]. The non-monophyly of Carcharhiniformes has
been observed with a different combination of molecular marke

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้ยีน COI mtDNA โค้ดีเอ็นเอเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการระบุเมื่อมีการขาดของพันธุ์ปลาข้อมูล วิธีการนี้ทั่วไปใช้สำหรับการจำแนกประเภท ชนิดกำหนดเขต ประชากร และ วิเคราะห์ phylogeographic ไข่ และตรวจหาตัวอ่อน และประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรม [25,19,26,27] มันสามารถนอกจากนี้ยัง ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สัมพันธ์ phylogeneticของฉลาม [28] ไม่ใช่-monophyly ของ Carcharhiniformes มีการสังเกตความแตกต่างของ marke โมเลกุล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บาร์โค้ดดีเอ็นเอโดยใช้ยีน COI mtDNA เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการระบุสายพันธุ์ปลาเมื่อมีการขาดของก้านข้อมูล วิธีการนี้ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางสำหรับอนุกรมวิธานชนิดปริมาณประชากรและการวิเคราะห์ phylogeographic ไข่และการตรวจหาตัวอ่อนและงานอุตสาหกรรม[25,19,26,27] มันอาจจะยังให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสายวิวัฒนาการของปลาฉลาม[28] ไม่ใช่ monophyly ของ Carcharhiniformes ได้รับการปฏิบัติที่มีการผสมผสานที่แตกต่างกันของโมเลกุลmarke

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดีเอ็นเอ barcoding โดยใช้ยีนแสดงผมเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการระบุสายพันธุ์ของปลา
เมื่อมีการขาดข้อมูลทาง

วิธีนี้ได้ถูกใช้อย่างกว้างขวางสำหรับอนุกรมวิธาน ชนิด
จำนวน ประชากรและ phylogeographic การวิเคราะห์ , ไข่และตัวอ่อน และการตรวจหา
, [ 25,19,26,27 ] อุตสาหกรรม มันสามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อ

ยืนยันความสัมพันธ์ฉลาม [ 28 ] ไม่ monophyly ของอันดับปลาฉลามครีบดำได้
ถูกสังเกตด้วยการรวมกันที่แตกต่างกันของโมเลกุลเครื่องหมาย