1) The crack area density (Dc) is t

1) The crack area density (Dc) is the ratio of the crack area (A) to the
total surface area of the soil specimen (At), which is considered as
one of the most important indicators of the extent of cracking
(Xiong et al., 2008).
Dc ¼ A=At ð1Þ
2) The averaged width of cracks (AW) is defined as:
AW ¼ A=Lt; ð2Þ
where Lt is total length of cracks,which are assumed to be in slender
rectangle shape.
3) The crack connectivity index (CI) is defined as (Liu et al., 2008):
CI ¼ Nj=
Nj þ Ne ð3Þ
where Nj is the number of junctions and Ne is the number of end
points of the cracks. The range of CI is between 0 and 1 in which 0
means no intersected cracks and 1 means that all the cracks are
intersected without any end points.
4) The fractal dimension (FD) indicates the complexity of crack shape
(Liu et al., 2008),which ranges from 1 to 2, with larger value indicating
more complex cracks. The box-counting algorithm was used to
estimate fractal dimension of the cracks:
FD ¼ −logðbox countÞ= logðbox sizeÞ ð4Þ
where the box count is the number of box that is counted.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1) รอยแตกที่ตั้งความหนาแน่น (Dc) คือ อัตราส่วนของบริเวณรอยแตก (A)พื้นที่ผิวของตัวอย่างดินทั้งหมด (ที่), ซึ่งถือเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่สุดของขอบเขตของการถอดรหัสอย่างใดอย่างหนึ่ง(หยง et al., 2008)Dc ¼ A =ที่ ð1Þ2) ความกว้างเฉลี่ยของรอยแตก (AW) ถูกกำหนดให้เป็น:กม. ¼ A = Lt ð2Þรวมความยาวของรอยแตก ซึ่งจะอยู่ในสเลนเดอร์ Ltรูปสี่เหลี่ยม3) ดาวน์โหลดเชื่อมต่อดัชนี (CI) ถูกกำหนดเป็น (หลิว et al., 2008):CI ¼ Nj = Nj þมุ ð3Þจำนวน junctions และ Ne Nj คือ จำนวนของจุดสิ้นสุดจุดรอยแตก ช่วง CI อยู่ระหว่าง 0 และ 1 ใน 0 ที่หมายถึง รอยแตกที่ไม่ intersected และ 1 หมายความว่าที่รอยแตกทั้งหมดระดับ โดยไม่มีจุดใด ๆ4 ความซับซ้อนของรูปร่างรอยแตกบ่งชี้มิติ)เศษส่วน (FD)(หลิว et al., 2008), ที่ช่วงจาก 1 ไป 2 แสดงค่าขนาดใหญ่รอยแตกที่ซับซ้อน มีใช้อัลกอริทึมการนับกล่องประเมินมิติเศษส่วนของรอยแตก:FD ¼ −logðbox countÞ logðbox sizeÞ ð4Þ =จำนวนกล่องจำนวนกล่องที่จะนับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1) ความหนาแน่นของพื้นที่แตก (DC) คืออัตราส่วนของพื้นที่แตก (A)
ไปยังพื้นที่ผิวทั้งหมดของชิ้นงานดิน(ที่)
ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดของขอบเขตของการแตก
(Xiong et .. อัล 2008)
Dc ¼ A = ð1Þที่
2) ความกว้างเฉลี่ยของรอยแตก (AW) หมายถึง:
AW ¼ A = แอล; ð2Þที่แอลมีความยาวรวมของรอยแตกซึ่งจะถือว่าเป็นในเรียวรูปร่างสี่เหลี่ยม. 3) ดัชนีการเชื่อมต่อที่แตก (CI) หมายถึง (Liu et al, 2008).? CI ¼ Nj = Nj þ Ne? ð3Þที่ Nj คือจำนวนของทางแยกและทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นจำนวนของการสิ้นสุดจุดที่รอยแตก ช่วงของ CI อยู่ระหว่าง 0 และ 1 ที่ 0 หมายถึงไม่มีรอยแตก intersected และ 1 หมายความว่ารอยแตกทั้งหมดจะถูกตัดโดยไม่ต้องจุดสิ้นสุดใดๆ . 4) มิติเศษส่วน (FD) หมายถึงความซับซ้อนของรูปทรงที่แตก(Liu et al., 2008) ซึ่งช่วง 1-2 มีมูลค่าขนาดใหญ่แสดงให้เห็นรอยแตกที่ซับซ้อนมากขึ้น อัลกอริทึมกล่องนับถูกใช้ในการประเมินมิติเศษส่วนของรอยแตก: FD ¼-logðboxcountÞ = logðboxsizeÞð4Þที่นับกล่องเป็นจำนวนช่องที่จะนับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 ) พื้นที่ร้าวความหนาแน่น ( DC ) มีอัตราส่วนของพื้นที่แตก ( A )
รวมพื้นที่ผิวของตัวอย่างดิน ( ที่ ) ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่สุด

( ของขอบเขตของการสง et al . , 2008 ) .
DC ¼ = ที่ð 1 Þ
2 ) เฉลี่ยความกว้างของรอยแตก ( AW ) หมายถึง :
โอ้ว¼ = lt ; ð 2 Þ
ที่ไหนมันคือความยาวของรอยแตก ซึ่งจะถือว่าเป็นในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเรียว

3 ) รอยร้าวการเชื่อมต่อดัชนี ( CI ) หมายถึง ( Liu et al . , 2008 ) :
CI ¼ NJ =
NJ þเน่  ð 3 Þ
ที่ NJ จำนวน junctions และ NE เป็นจํานวนจบ
จุดรอยแตก ช่วงสาย ระหว่าง 0 และ 1 ซึ่ง 0
หมายถึงไม่มีหางแตกและ 1 หมายถึงรอยแตกทั้งหมดมีหางไม่มีจุดสิ้นสุด
.
4 ) มิติเศษส่วน ( FD ) แสดงความซับซ้อนของ
รูปร่างแตก( Liu et al . , 2008 ) ซึ่งช่วงจาก 1 ไป 2 , ที่มีค่าบ่งชี้
รอยแตกที่ซับซ้อนมากขึ้น กล่องนับขั้นตอนวิธีที่ใช้ค่า

มิติเศษส่วนของรอยแตก :
FD ¼− log ðกล่องนับÞ = เข้าสู่ระบบðกล่องขนาดÞð 4 Þ
ที่กล่องนับเป็นจำนวนกล่องที่นับ