ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เอเชียได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจ การแปล - ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เอเชียได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจ ไทย วิธีการพูด

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เอเชียไ

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เอเชียได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้นตามลำดับ ดังคำกล่าวที่ว่า “เอเชียเปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำของโลก” มูลค่าการส่งออกและนำเข้าของเอเชียคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของมูลค่าการส่งออกและนำเข้ารวมของโลก ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเอเชียกำลังก้าวเข้ามาเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกตัวใหม่ ถนนทุกสายกำลังมุ่งหน้าสู่เอเชียไม่ว่าจะเป็นการค้า การลงทุน รวมถึงเงินทุน เรียกได้ว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุคสมัยแห่งเอเชียอย่างแท้จริง

ประเทศไทยเป็นหนึ่งประเทศที่ทั่วโลกกำลังจับตามอง ซึ่งประเทศไทยเองควรต้องรู้จักใช้ประโยชน์จากยุคสมัยแห่งเอเชียให้เต็มประสิทธิภาพ แนวทางหนึ่งที่จะผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยได้อย่างเต็มที่ คือการรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดขนาดใหญ่ได้มากขึ้น

ก่อนที่ผู้เขียนจะได้นำเสนอทัศนะเกี่ยวกับอนาคตประเทศไทยสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) นั้น ผู้เขียนขออนุญาตอธิบายรายละเอียดความเป็นมานับตั้งแต่การก่อตั้งอาเซียน หรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of Southeast Asian Nations : ASEAN) จนได้วิวัฒนาการมาสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อเป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจให้แก่ผู้อ่านมากยิ่งขึ้น

AEC เกิดขึ้นจากการก่อตั้งอาเซียน หรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of Southeast Asian Nations : ASEAN) ตั้งแต่ปี 2510 ตามปฏิญญาอาเซียน หรือปฏิญญากรุงเทพฯ โดยทิศทางการวางแผนด้านเศรษฐกิจของอาเซียนเริ่มชัดเจนมากขึ้นหลังจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2519 โดยผู้นำอาเซียน 5 ประเทศ ได้ลงนามร่วมกันในเอกสารสำคัญ 2 ฉบับได้แก่ Declaration of ASEAN และ Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia ที่ระบุความร่วมมือทางเศรษฐกิจหลายด้านเพื่อการดำเนินการต่อไป ต่อมาในช่วงปี 2521- 2540 อาเซียนได้ขยายความร่วมมือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ความตกลงที่สำคัญที่สุดคือ การจัดตั้ง “เขตการค้าเสรีอาเซียน” (ASEAN Free Trade Area : AFTA) การเจรจาเพื่อตกลงจัดทำเขตการค้าเสรีได้ทำให้เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและยังขยายออกไปนอกภูมิภาค วิวัฒนาการนี้ได้ดำเนินต่อมาจนถึงปัจจุบัน

จุดเปลี่ยนสำคัญสำคัญสำหรับการจำตั้ง AEC เกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี 2541 - 254 เนื่องจากได้เกิดวิกฤตการเศรษฐกิจโลกถดถอยอย่างรุนแรง ทำให้อาเซียนจำเป็นต้องวางแผนดำเนินงานด้านเศรษฐกิจให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความสามารถในการแข็งขันของภูมิภาค ผู้นำอาเซียนจึงได้เห็นชอบต่อแผนปฏิบัติฮานอย (Hanoi Plan of Action) ในปี 2541 เพื่อใช้เป็นแผนการดำเนินงานให้บรรลุวิสัยทัศน์อาเซียน ประกอบกับกระแสความเจริญด้านเทคโนโลยีโลกาภิวัฒน์ และความล่าช้าในการเจรจาพหุภาคีจอง WTO ทำให้อาเซียนเข้าสู่การเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรีกับประเทศต่าง ๆ ทั้งในและนอกภูมิภาคตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น นอกจากนี้ประเทศจีนและอินเดียเข้ามามีบทบาทอย่างมากในภูมิภาคในช่วง 3-5 ปี ที่ผ่านมาและเป็นแหล่งดึงดูดในด้านเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอาเซียนแต่ละประเทศที่มีเศรษฐกิจเล็กมาก

ด้วยเหตุดังกล่าวจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อาเซียนต้องเร่งดำเนินการรวมกลุ่มภายในระหว่างประเทศสมาชิกให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อนำไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในลักษณะคล้ายคลึงกับประชาคมเศรษฐกิจยุโรป(European Economic Community: EEC) ผู้นำอาเซียนในขณะนั้น จึงได้ประกาศให้การรวมกลุ่มต้องเสร็จสิ้นภายในปี 2563 ตามแถลงการณ์บาหลี ฉบับที่ 2 (Bali Concord II) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2546 กระทั่งในปี 2550 ผู้นำอาเซียนได้เร่งรัดเป้าหมายของการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จากเดิมที่กำหนดเป้าหมายไว้ในปี 2563 เป็นปี 2558 เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไปและได้ลงนามในกฎบัตรและปฏิญญาว่าด้วยแผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community Blueprint) ซึ่งจะเป็นแผนงานสำหรับการดำเนินการตามพันธกรณีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่การจัดตั้ง AEC ต่อไป เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2550

AEC Blueprint

AEC Blueprint มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อกำหนดทิศทางและแผนงาน ในด้านเศรษฐกิจที่จะต้องดำเนินการให้ชัดเจนตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด จนบรรลุเป้าหมายของ AEC ในปี 2558 (ค.ศ.2015) และสร้างพันธะสัญญาระหว่างประเทศสมาชิกที่จะดำเนินการไปสู่เป้าหมายดังกล่าวร่วมกัน ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก กล่าวคือ

การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว (Single market and Production base) : ให้การเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน แรงงานและเงินทุนอย่างเสรีมากขึ้น โดยมีเป้าหมายคือ ลดอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดในด้านต่าง ๆ ลงและเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นให้กับบุคคล/นิติบุคคลสัญชาติอาเซียน
การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของอาเซียน : โดยใช้มาตรการยกเลิกภาษีสินค้าให้กับประเทศสมาชิกอาเซียน ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเสมอภาค : เพื่อเป็นการลดช่องว่าวของระดับการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิกทั้งเก่าและใหม่ พร้อมทั้งสนับสนุน SMEs และร่วมมือกันในโครงการต่างๆ เช่น ความร่วมมือด้านการเกษตร อาหารและป่าไม้ ทรัพย์สินทางปัญญา การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและ เทคโนโลยีสารสนเทศ ความร่วมมือด้านพลังงาน เป็นต้น
การบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก : ส่งเสริมการรวมกลุ่มเข้ากับประชาคมโลก ด้านนโยบายเศรษฐกิจของอาเซียนกับประเทศภายนอกภูมิภาค
ประโยชน์และผลกระทบของประเทศไทยจาก AEC Blueprint

ปัจจุบันอาเซียนนับเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับหนึ่งของไทยมากกว่า EU หรือ US หรือญี่ปุ่น และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในด้านการค้าและการลงทุนอาเซียนจัดเป็นตลาดสำคัญและมีศักยภาพ ด้วยประชากรราว 600 ล้านคน มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ รวมกันกว่า 1.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นกลุ่มทางเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่กลุ่มหนึ่งของโลก

ประโยชน์จาก AEC Blueprint ต่อประเทศไทย
สร้างตลาดขนาดใหญ่เพื่อขยายโอกาสด้านการค้าและการลงทุน ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเพิ่มการจ้างงานของประชาชนภายในประเทศ จากการขยายตัวด้านการค้าและการลงทุน เ
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเอเชียได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้นตามลำดับดังคำกล่าวที่ว่า "เอเชียเปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำของโลก" มูลค่าการส่งออกและนำเข้าของเอเชียคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของมูลค่าการส่งออกและนำเข้ารวมของโลกทำให้หลายฝ่ายมองว่าเอเชียกำลังก้าวเข้ามาเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกตัวใหม่ถนนทุกสายกำลังมุ่งหน้าสู่เอเชียไม่ว่าจะเป็นการค้าการลงทุนรวมถึงเงินทุนเรียกได้ว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุคสมัยแห่งเอเชียอย่างแท้จริง ประเทศไทยเป็นหนึ่งประเทศที่ทั่วโลกกำลังจับตามองซึ่งประเทศไทยเองควรต้องรู้จักใช้ประโยชน์จากยุคสมัยแห่งเอเชียให้เต็มประสิทธิภาพแนวทางหนึ่งที่จะผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยได้อย่างเต็มที่คือการรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน: AEC) ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดขนาดใหญ่ได้มากขึ้น ก่อนที่ผู้เขียนจะได้นำเสนอทัศนะเกี่ยวกับอนาคตประเทศไทยสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) นั้นผู้เขียนขออนุญาตอธิบายรายละเอียดความเป็นมานับตั้งแต่การก่อตั้งอาเซียนหรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: อาเซียน) จนได้วิวัฒนาการมาสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเพื่อเป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจให้แก่ผู้อ่านมากยิ่งขึ้น สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือเกิดขึ้นจากการก่อตั้งอาเซียนของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: อาเซียน) ตั้งแต่ปี 2510 ตามปฏิญญาอาเซียนหรือปฏิญญากรุงเทพฯ โดยทิศทางการวางแผนด้านเศรษฐกิจของอาเซียนเริ่มชัดเจนมากขึ้นหลังจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๑๙ โดยผู้นำอาเซียน 5 ประเทศได้ลงนามร่วมกันในเอกสารสำคัญ 2 ฉบับได้แก่รายงานของอาเซียนและสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ระบุความร่วมมือทางเศรษฐกิจหลายด้านเพื่อการดำเนินการต่อไปอาเซียนได้ขยายความต่อมาในช่วงปี 2521-2540ร่วมมือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นความตกลงที่สำคัญที่สุดคือการจัดตั้ง "เขตการค้าเสรีอาเซียน" (ASEAN Free Trade Area: AFTA) การเจรจาเพื่อตกลงจัดทำเขตการค้าเสรีได้ทำให้เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและยังขยายออกไปนอกภูมิภาควิวัฒนาการนี้ได้ดำเนินต่อมาจนถึงปัจจุบัน จุดเปลี่ยนสำคัญสำคัญสำหรับการจำตั้ง AEC 2541 254 เกิดขึ้นในช่วงระหว่างปีเนื่องจากได้เกิดวิกฤตการเศรษฐกิจโลกถดถอยอย่างรุนแรงทำให้อาเซียนจำเป็นต้องวางแผนดำเนินงานด้านเศรษฐกิจให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความสามารถในการแข็งขันของภูมิภาคผู้นำอาเซียนจึงได้เห็นชอบต่อแผนปฏิบัติฮานอย (ฮานอยแผนปฏิบัติการ) ในปี 2541 เพื่อใช้เป็นแผนการดำเนินงานให้บรรลุวิสัยทัศน์อาเซียนประกอบกับกระแสความเจริญด้านเทคโนโลยีโลกาภิวัฒน์และความล่าช้าในการเจรจาพหุภาคีจององค์การทำให้อาเซียนเข้าสู่การเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ ทั้งในและนอกภูมิภาคตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นนอกจากนี้ประเทศจีนและอินเดียเข้ามามีบทบาทอย่างมากในภูมิภาคในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมาและเป็นแหล่งดึงดูดในด้านเศรษฐกิจสำคัญซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอาเซียนแต่ละประเทศที่มีเศรษฐกิจเล็กมาก ด้วยเหตุดังกล่าวจึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อาเซียนต้องเร่งดำเนินการรวมกลุ่มภายในระหว่างประเทศสมาชิกให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อนำไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในลักษณะคล้ายคลึงกับประชาคมเศรษฐกิจยุโรป (ประชาคมเศรษฐกิจยุโรป: EEC) ผู้นำอาเซียนในขณะนั้นจึงได้ปรฉบับที่ตามแถลงการณ์บาหลีะกาศให้การรวมกลุ่มต้องเสร็จสิ้นภายในปี 2563 2 (บาหลีคอนคอร์ด II) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ๒๕๔๖ กระทั่งในปี 2550 ผู้นำอาเซียนได้เร่งรัดเป้าหมายของการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจากเดิมที่กำหนดเป้าหมายไว้ในปี 2563 เป็นปี 2558 เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไปและได้ลงนามในกฎบัตรและปฏิญญาว่าด้วยแผนงานการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (พิมพ์เขียวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน) ซึ่งจะเป็นแผนงานสำหรับการดำเนินการตามพันธกรณีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสู่การจัดตั้ง AEC ต่อไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2550พิมพ์เขียว AEC ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนพิมพ์เขียวมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อกำหนดทิศทางและแผนงานในด้านเศรษฐกิจที่จะต้องดำเนินการให้ชัดเจนตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดจนบรรลุเป้าหมายของ AEC ในปี 2558 (ค.ศ.2015) และสร้างพันธะสัญญาระหว่างประเทศสมาชิกที่จะดำเนินการไปสู่เป้าหมายดังกล่าวร่วมกันประกอบด้วย 4 ส่วนหลักกล่าวคือการเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว (ตลาดเดียวและฐานการผลิต): ให้การเคลื่อนย้ายสินค้าบริการการลงทุนแรงงานและเงินทุนอย่างเสรีมากขึ้นโดยมีเป้าหมายคือลดอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดในด้านต่างๆ ลงและเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นให้กับบุคคล/นิติบุคคลสัญชาติอาเซียนการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของอาเซียน: โดยใช้มาตรการยกเลิกภาษีสินค้าให้กับประเทศสมาชิกอาเซียนตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเสมอภาค: เพื่อเป็นการลดช่องว่าวของระดับการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิกทั้งเก่าและใหม่พร้อมทั้งสนับสนุน Sme และร่วมมือกันในโครงการต่าง ๆ เช่นความร่วมมือด้านการเกษตรอาหารและป่าไม้ทรัพย์สินทางปัญญาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศความร่วมมือด้านพลังงานเป็นต้นการบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก: ส่งเสริมการรวมกลุ่มเข้ากับประชาคมโลกด้านนโยบายเศรษฐกิจของอาเซียนกับประเทศภายนอกภูมิภาคพิมพ์เขียว AEC ประโยชน์และผลกระทบของประเทศไทยจาก ปัจจุบันอาเซียนนับเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับหนึ่งของไทยมากกว่ายุโรปหรือสหรัฐอเมริกาหรือญี่ปุ่นและมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องในด้านการค้าและการลงทุนอาเซียนจัดเป็นตลาดสำคัญและมีศักยภาพด้วยประชากรราว 600 ล้านคนมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติรวมกันกว่า 1.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐนับเป็นกลุ่มทางเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่กลุ่มหนึ่งของโลกต่อประเทศไทยพิมพ์เขียวประโยชน์จาก AECสร้างตลาดขนาดใหญ่เพื่อขยายโอกาสด้านการค้าและการลงทุนทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกิดการเพิ่มการจ้างงานของประชาชนภายในประเทศจากการขยายตัวด้านการค้าและการลงทุนเ
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ดังคำกล่าวที่ว่า 1 ใน 4 การลงทุนรวมถึงเงินทุน (ASEAN Economic Community: AEC) (AEC) นั้น หรือ (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: ASEAN) เกิดขึ้นจากการก่อตั้งอาเซียนหรือ (สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: ASEAN) ตั้งแต่ปี 2510 ตามปฏิญญาอาเซียนหรือปฏิญญากรุงเทพฯ 2519 โดยผู้นำอาเซียน 5 ประเทศได้ลงนามร่วมกันในเอกสารสำคัญ 2 ฉบับ ได้แก่ ปฏิญญาอาเซียนและสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อมาในช่วงปี 2521- 2540 ความตกลงที่สำคัญที่สุดคือการจัดตั้ง "เขตการค้าเสรีอาเซียน" (ASEAN เขตการค้าเสรี AFTA) ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี 2541 - 254 (ฮานอยแผนปฏิบัติการ) ในปี 2541 และความล่าช้าในการเจรจาพหุภาคีจององค์การการค้าโลก ๆ 3-5 ปี ประชาคมเศรษฐกิจ: EEC) ผู้นำอาเซียนในขณะนั้น 2563 ตามแถลงการณ์บาหลีฉบับที่ 2 (Bali Concord II) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2546 กระทั่งในปี 2550 จากเดิมที่กำหนดเป้าหมายไว้ในปี 2563 เป็นปี 2558 (ASEAN Economic Community Blueprint) ๆ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนต่อไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2550 AEC Blueprint AEC Blueprint จนบรรลุเป้าหมายของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 (ค.ศ. 2015) ประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก (ตลาดเดียวและฐานการผลิต): ให้การเคลื่อนย้ายสินค้าบริการการลงทุนแรงงานและเงินทุนอย่างเสรีมากขึ้นโดยมีเป้าหมายคือ ๆ : : พร้อมทั้งสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และร่วมมือกันในโครงการต่างๆเช่นความร่วมมือด้านการเกษตรอาหารและป่าไม้ทรัพย์สินทางปัญญา เทคโนโลยีสารสนเทศความร่วมมือด้านพลังงาน : ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สหภาพยุโรปหรือสหรัฐอเมริกาหรือญี่ปุ่นและมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยประชากรราว 600 ล้านคนมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติรวมกันกว่า 1.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ พิมพ์เขียวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เ
























การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเอเชียได้ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้นตามลำดับดังคำกล่าวที่ว่า " เอเชียเปรียบเสมือนอู่ข้าวอู่น้ำของโลก " มูลค่าการส่งออกและนำเข้าของเอเชียคิดเป็นสัดส่วนราว 1 the 4ทำให้หลายฝ่ายมองว่าเอเชียกำลังก้าวเข้ามาเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของโลกตัวใหม่ถนนทุกสายกำลังมุ่งหน้าสู่เอเชียไม่ว่าจะเป็นการค้าการลงทุนรวมถึงเงินทุน

ประเทศไทยเป็นหนึ่งประเทศที่ทั่วโลกกำลังจับตามองซึ่งประเทศไทยเองควรต้องรู้จักใช้ประโยชน์จากยุคสมัยแห่งเอเชียให้เต็มประสิทธิภาพแนวทางหนึ่งที่จะผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยได้อย่างเต็มที่( ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน :AEC ) ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดขนาดใหญ่ได้มากขึ้น

ก่อนที่ผู้เขียนจะได้นำเสนอทัศนะเกี่ยวกับอนาคตประเทศไทยสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ( AEC ) นั้นผู้เขียนขออนุญาตอธิบายรายละเอียดความเป็นมานับตั้งแต่การก่อตั้งอาเซียนค็อคสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาเซียน ) จนได้วิวัฒนาการมาสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเพื่อเป็นการปูพื้นฐานความเข้าใจให้แก่ผู้อ่านมากยิ่งขึ้น

เกิดขึ้นจากการก่อตั้งอาเซียนค็อคสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาเซียน ( สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาเซียน ) ตั้งแต่ปี 2510 ตามปฏิญญาอาเซียนหรือปฏิญญากรุงเทพฯโดยทิศทางการวางแผนด้านเศรษฐกิจของอาเซียนเริ่มชัดเจนมากขึ้นหลังจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ประเทศโดยผู้นำอาเซียน 5 ดวง2 ฉบับได้แก่ปฏิญญาอาเซียนและสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ระบุความร่วมมือทางเศรษฐกิจหลายด้านเพื่อการดำเนินการต่อไปต่อมาในช่วงปี 2521 - 2540ความตกลงที่สำคัญที่สุดคือการจัดตั้ง " เขตการค้าเสรีอาเซียน " ( เขตการค้าเสรีอาเซียน :อาฟต้า ) การเจรจาเพื่อตกลงจัดทำเขตการค้าเสรีได้ทำให้เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและยังขยายออกไปนอกภูมิภาควิวัฒนาการนี้ได้ดำเนินต่อมาจนถึงปัจจุบัน

จุดเปลี่ยนสำคัญสำคัญสำหรับการจำตั้ง AEC เกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี 2541 - 254 เนื่องจากได้เกิดวิกฤตการเศรษฐกิจโลกถดถอยอย่างรุนแรงผู้นำอาเซียนจึงได้เห็นชอบต่อแผนปฏิบัติฮานอย ( ฮานอย แผนปฏิบัติการ พ.ศ. 2541 ) สามารถเพื่อใช้เป็นแผนการดำเนินงานให้บรรลุวิสัยทัศน์อาเซียนประกอบกับกระแสความเจริญด้านเทคโนโลยีโลกาภิวัฒน์และความล่าช้าในการเจรจาพหุภาคีจององค์การการค้าโลกจะทั้งในและนอกภูมิภาคตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นนอกจากนี้ประเทศจีนและอินเดียเข้ามามีบทบาทอย่างมากในภูมิภาคในช่วงที่ผ่านมาและเป็นแหล่งดึงดูดในด้านเศรษฐกิจสำคัญ 3-5 .
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: