Traditionally, each independent nat

Traditionally, each independent nation had its own currency as a symbol of sovereignty, but in a globalizing world national currencies have been weakening or even disappearing. The US dollar has been taking over as the world's currency of account. Neo-liberal open markets and rapid currency conversion have reinforced the dollar's role since the mid-1970s. Much trade is now dollar-based, countries prefer to hold their central bank reserves in US dollars, and private companies as well as wealthy citizens often hold dollars or dollar-denominated assets. The United States derives great economic and political power from this dollar hegemony.

During the 1990s, dollarization accelerated. A number of countries pegged their currencies to the dollar or even adopted the dollar outright as their national currency, hoping that this would solve inflation problems. Dollar-denominated notes, especially $100 bills, grew in popularity with individuals as well as criminal networks, becoming the US's largest export. But huge US trade imbalances and federal budget deficits undermined the dollar and eventually knocked down its value in international currency markets. Further erosion of the dollar could undermine and reverse decades of dollarization, but a globalizing world still needs a strong common currency. If the dollar weakens further, alternatives might emerge. But for the moment, the (weaker) dollar still is King.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเพณี แต่ละชาติอิสระมีสกุลเงินของตนเองเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจอธิปไตย แต่ในโลก globalizing สกุลเงินได้ลดลง หรือหายไปได้ การเงินดอลลาร์สหรัฐกว่าเป็นสกุลเงินของโลกของบัญชี ตลาดเปิดเสรีนิยมใหม่และแปลงสกุลเงินอย่างรวดเร็วได้เสริมบทบาทของเงินดอลลาร์ตั้งแต่ในกลางทศวรรษ 1970 ค้ามากตอนนี้ใช้ดอลลาร์ ประเทศที่ต้องการถือเงินสำรองของธนาคารกลางในเหรียญ และบริษัทเอกชนตลอดจนประชาชนมั่งคั่งมักถือดอลลาร์หรือดอลลาร์ระบุสินทรัพย์ สหรัฐอเมริกามาอำนาจทางเศรษฐกิจ และการเมืองจากนี้นับถือดอลลาร์ ในช่วงปี 1990, dollarization เร่ง จำนวนประเทศ pegged ของสกุลเงินดอลลาร์ หรือแม้แต่นำดอลลาร์ทันทีเป็นของสกุลเงินประจำชาติ หวังว่า นี้จะแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ดอลลาร์ ที่มีระบุหมายเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง $100 รายการ การเติบโตในความนิยมบุคคลเป็นเครือข่ายอาชญากรรม สหรัฐอเมริกากลายเป็นของที่ใหญ่ที่สุดส่งออก ใหญ่แต่สหรัฐอเมริกาค้าไม่สมดุล และขาดดุลงบประมาณของภาครัฐละเลยดอลลาร์ และโบว์ลิ่งสุดลงค่าของในตลาดสกุลเงินต่างประเทศ การพังทลายของดอลลาร์สามารถทำลาย และกลับของ dollarization แต่โลก globalizing ยังคงต้องเป็นสกุลเงินทั่วไปที่แข็งแรง ถ้าดอลลาร์อ่อนเพิ่มเติม ทางเลือกที่อาจเกิดขึ้น แต่ตอนนี้ ดอลลาร์ (แกร่ง) ยังคงเป็นกษัตริย์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตามเนื้อผ้าแต่ละประเทศเอกราชมีสกุลเงินของตัวเองเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจอธิปไตย แต่ในยุคโลกาภิวัตน์โลกสกุลเงินของประเทศที่ได้รับการลดลงหรือหายไป ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับเอามาเป็นสกุลเงินของบัญชีของโลก เสรีนิยมใหม่และการเปิดตลาดการแปลงสกุลเงินได้อย่างรวดเร็วเสริมบทบาทของเงินดอลลาร์นับตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 1970 การค้ามากอยู่ในขณะนี้เงินดอลลาร์ตามประเทศชอบที่จะถือเงินสำรองธนาคารของพวกเขากลางในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและ บริษัท เอกชนรวมทั้งประชาชนมั่งคั่งมักจะถือดอลลาร์หรือสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์ สหรัฐอเมริกามาอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ดีจากอำนาจเงินดอลลาร์นี้. ในช่วงปี 1990 ที่ dollarization เร่ง จำนวนของประเทศของพวกเขาตรึงสกุลเงินดอลลาร์หรือแม้กระทั่งนำมาใช้ทันทีดอลลาร์เป็นสกุลเงินประจำชาติของพวกเขาหวังว่าเรื่องนี้จะแก้ปัญหาเงินเฟ้อ บันทึกสกุลเงินดอลลาร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งบิล $ 100, เติบโตในความนิยมกับบุคคลเช่นเดียวกับเครือข่ายความผิดทางอาญากลายเป็นส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ แต่ความไม่สมดุลของการค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐและการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางทำลายเงินดอลลาร์และในที่สุดก็ล้มลงค่าของสกุลเงินในตลาดต่างประเทศ การกัดเซาะต่อไปของเงินดอลลาร์อาจส่งผลเสียและย้อนกลับมานานหลายทศวรรษของ dollarization แต่โลกยุคโลกาภิวัตน์ยังคงต้องการสกุลเงินร่วมกันที่แข็งแกร่ง หากเงินดอลลาร์อ่อนตัวต่อไปทางเลือกที่อาจจะโผล่ออกมา แต่สำหรับขณะนี้ (อ่อนแอ) เงินดอลลาร์ยังคงเป็นพระมหากษัตริย์