With addition of steel fibers to co

With addition of steel fibers to concrete, its properties are altered from brittle to ductile. Using lightweight concrete enables decrease in additional loads while self-compacted concrete avoids use of vibrators for concrete compaction, in case of renovation or/strengthening of existing structures. This study is aimed at investigating the effect of change in micro steel fiber content on the properties of steel fiber reinforced high strength lightweight self-compacting concrete (SHLSCC). Slump flow test was conducted to find the workability of fresh concrete mixture. Further compressive strength, splitting tensile strength, modulus of elasticity and flexural strength of hardened concrete were tested. Five concrete mixes of SHLSCC with different fiber contents (0%, 0.5%, 0.75%, 1% and 1.25%) were prepared to study the change in its fresh and hardened properties. Results show that there is strong influence on the workability of SHLSCC with steel fiber content of 1% or more. There is around 12% reduction in compressive strength, 37% and 110% increase in splitting tensile strength and flexural strength respectively, with increase of steel fiber content from 0% to 1.25%, while the modulus of elasticity remains unchanged.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ด้วยการเพิ่มเส้นใยเหล็กคอนกรีต คุณสมบัติจะจัดเปลี่ยนจากเปราะการ ductile ใช้คอนกรีตน้ำหนักเบาให้โหลดเพิ่มเติมลดลงขณะที่คอนกรีตเองกระชับหลีกเลี่ยงการใช้ vibrators สำหรับการกระชับข้อมูลคอนกรีต กรณีปรับปรุง หรือ / เสริมสร้างโครงสร้างที่มีอยู่ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบผลของการเปลี่ยนแปลงในเนื้อหาไมโครไฟเบอร์เหล็กคุณสมบัติของใยเหล็กเสริมความแข็งแรงสูงน้ำหนักเบากระชับตัวคอนกรีต (SHLSCC) มีดำเนินการทดสอบกระแสตกต่ำหาความข้นเหลวของคอนกรีตผสมสด เพิ่มเติม compressive แรง แรง โมดูลัสของความยืดหยุ่นและความแข็งแรง flexural คอนกรีตเสริมแบ่งได้ทดสอบ 5 คอนกรีตออกแบบผสมผสานของ SHLSCC กับเส้นใยอื่นเนื้อหา (0%, 0.5%, 0.75%, 1% และ 1.25%) ถูกเตรียมไว้เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของสด และชุบแข็ง ผลแสดงว่ามีอิทธิพลในการเท SHLSCC กับเส้นใยเหล็กเนื้อหาของ 1% หรือมากกว่า มีอยู่ประมาณ 12% ลดความแรง compressive, 37% และเพิ่มขึ้น 110% แบ่งแรงและแรง flexural ตามลำดับ กับการเพิ่มขึ้นของใยเหล็กเนื้อหาจาก 0% เป็น 1.25% ในขณะที่โมดูลัสของความยืดหยุ่นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ด้วยการเพิ่มเส้นใยเหล็กคอนกรีตคุณสมบัติของมันมีการเปลี่ยนแปลงจากการดัดเปราะ การใช้คอนกรีตมวลเบาช่วยให้ลดลงในการโหลดเพิ่มเติมในขณะที่ตัวเองอัดคอนกรีตหลีกเลี่ยงการใช้ปูนคอนกรีตบดอัดสำหรับในกรณีของการปรับปรุงและ / หรือเสริมสร้างความเข้มแข็งของโครงสร้างที่มีอยู่ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะตรวจสอบผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในเหล็กไมโครไฟเบอร์เนื้อหาเกี่ยวกับคุณสมบัติของเส้นใยเหล็กเสริมความแข็งแรงสูงคอนกรีตมวลเบากระชับตนเอง (SHLSCC) การทดสอบการไหลตกต่ำได้ดำเนินการเพื่อหาสิ่งที่สามารถใช้การได้ผสมคอนกรีตสด แรงอัดนอกจากนี้การแยกความต้านทานแรงดึงโมดูลัสของความยืดหยุ่นและความแข็งแรงดัดของคอนกรีตแข็งได้รับการทดสอบ ห้าผสมคอนกรีต SHLSCC ของเส้นใยที่มีเนื้อหาที่แตกต่างกัน (0%, 0.5%, 0.75%, 1% และ 1.25%) พร้อมที่จะศึกษาการเปลี่ยนแปลงในคุณสมบัติของสดและแข็งของมัน ผลการศึกษาพบว่ามีอิทธิพลต่อความสามารถทำงานได้ของ SHLSCC ที่มีเนื้อหาใยเหล็ก 1% หรือมากกว่า มีรอบลดลง 12% ในแรงอัด 37% และเพิ่มขึ้น 110% ในการแยกความต้านทานแรงดึงและความแข็งแรงดัดตามลำดับโดยมีการเพิ่มขึ้นของปริมาณใยเหล็กจาก 0% ถึง 1.25% ในขณะที่โมดูลัสของความยืดหยุ่นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ด้วยการเพิ่มของเส้นใยเหล็ก คอนกรีต คุณสมบัติของมันมีการเปลี่ยนแปลงจากการอ่อนเปราะ . การใช้คอนกรีตมวลเบาช่วยลดโหลดเพิ่มเติมในขณะที่ตนเอง หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสั่นคอนกรีตบดอัดเพื่ออัดคอนกรีต ในกรณีของการปรับปรุงหรือสร้างความเข้มแข็งของโครงสร้างที่มีอยู่งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในเนื้อหาของเส้นใยเหล็ก ไมโคร ต่อคุณสมบัติเสริมใยเหล็กความแข็งแรงสูงด้วยคอนกรีตเบากระชับ ( shlscc ) การทดสอบการยุบตัวมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาความสามารถในการผสมคอนกรีตสด กำลังรับแรงอัดและการแยกแรงโมดูลัสความยืดหยุ่น และความแข็งแรงดัดของคอนกรีตที่แข็งตัวแล้วกำลังทดสอบ ห้าผสมคอนกรีตของ shlscc ที่มีเนื้อหาเส้นใยที่แตกต่างกัน ( % 0 , 0.5 , 0.75 % 1% และ 1.25% ) ถูกเตรียมเพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงสดและแข็ง คุณสมบัติ ผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นว่ามีอิทธิพลที่แข็งแกร่งในความสามารถของ shlscc เส้นใยเหล็กปริมาณร้อยละ 1 หรือมากกว่ามีประมาณ 12 % ในการลดกำลังอัด , 37 % และเพิ่มขึ้น 110% ในการแยกแรงดัดตามลำดับ กับการเพิ่มขึ้นของปริมาณเส้นใยเหล็กจาก 0 % เป็น 1.25 % ในขณะที่ค่าโมดูลัสของความยืดหยุ่น ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง