GM crops can protect the environmen

GM crops can protect the environment because they are kinder to nature. Many farmers today depend on chemicals such as pesticides, herbicides, and fertilizers to make their crops grow. Though gene biology, the genes of plants can be modified so that they will be disease-resistant and past-resistant and still produce the some amount. The most common GM crops grown at the moment are those that resist herbicides. The second most common are those crops that kill pests. Some crops have been grown with both these genes. If a crop can resist herbicides, the farmer can spray a field with herbicides without harming the crop. All the weeds and other plants die, but the crop does not. By decreasing the number of weeds, the farmer increases the amount of crop grown. A good example of such a crop is GM cotton, which is often grown in the United States for cottonseed oil. If a crop can kill pests, the farmer does not have to spray so often to kill pests. An example of a pest-resistant crop is maize, which is similar to corn. There is a bacterium in the soil which produces a poison that kills insects, but

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พืชจีเอ็มสามารถปกป้องสิ่งแวดล้อมเพราะเป็นเกี่ยวกับธรรมชาติ เกษตรกรในปัจจุบันขึ้นอยู่กับสารเคมีเช่นยาฆ่าแมลง สารเคมีกำจัดวัชพืช และปุ๋ยเพื่อให้พืชผลของพวกเขาเติบโต แม้ว่าวิชาชีววิทยายีน ยีนของพืชสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้พวกเขาจะต้าน ทานโรค และ ทนผ่านมา และยังคง ผลิตยอดบาง พืชจีเอ็มทั่วที่เติบโตขึ้นในขณะนี้เป็นที่ต้านทานสารเคมีกำจัดวัชพืช พืชเหล่านั้นฆ่าศัตรูพืชทั่วไปส่วนใหญ่ที่สองได้ พืชบางอย่างได้เติบโต มีทั้งยีนเหล่านี้ ถ้าพืชสามารถต้านทานสารเคมีกำจัดวัชพืช เกษตรกรสามารถสเปรย์เขต ด้วยสารเคมีกำจัดวัชพืชโดยไม่เป็นอันตรายต่อพืชผล วัชพืชทั้งหมด และตายพืชอื่น ๆ แต่พืชผลไม่ได้ โดยการลดจำนวนวัชพืช เกษตรกรเพิ่มจำนวนพืชที่ปลูก ตัวอย่างที่ดีของพืชเช่นฝ้ายจีเอ็ม ซึ่งมักจะมีการเติบโตขึ้นในสหรัฐอเมริกาสำหรับน้ำมันส่วนเกิน ได้ ถ้าพืชสามารถฆ่าศัตรูพืช ชาวนาไม่ได้พ่นบ่อยเพื่อฆ่าศัตรูพืช ตัวอย่างของพืชที่ทนทานต่อศัตรูพืชคือ ข้าวโพด ซึ่งคล้ายกับข้าวโพด มีแบคทีเรียอยู่ในดินซึ่งทำให้เกิดพิษที่ฆ่าแมลง แต่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พืชจีเอ็มสามารถปกป้องสิ่งแวดล้อมเพราะพวกเขามีเมตตากับธรรมชาติ เกษตรกรจำนวนมากในวันนี้ขึ้นอยู่กับสารเคมีเช่นยาฆ่าแมลงสารเคมีกำจัดวัชพืชและปุ๋ยเพื่อให้พืชผลของพวกเขาเติบโต แม้ว่าชีววิทยายีนยีนของพืชสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้พวกเขาจะทนโรคและที่ผ่านมาทนและยังคงผลิตในปริมาณที่บาง พืชที่พบมากที่สุดของจีเอ็มเติบโตขึ้นในขณะนี้เป็นผู้ที่ต่อต้านสารเคมีกำจัดวัชพืช ที่สองพบมากที่สุดคือพืชที่ฆ่าศัตรูพืช พืชบางคนได้รับการปลูกที่มีทั้งยีนเหล่านี้ หากพืชสามารถต้านทานสารเคมีกำจัดวัชพืชเกษตรกรสามารถฉีดพ่นสารเคมีกำจัดวัชพืชสนามโดยไม่ทำร้ายพืช วัชพืชทั้งหมดและพืชอื่น ๆ ตาย แต่การเพาะปลูกไม่ได้ โดยการลดจำนวนของวัชพืชชาวนาเพิ่มปริมาณของพืชที่ปลูก ตัวอย่างที่ดีของพืชดังกล่าวเป็นผ้าฝ้ายจีเอ็มซึ่งเป็นผู้ใหญ่มักจะอยู่ในสหรัฐอเมริกาสำหรับน้ำมันเมล็ดฝ้าย หากพืชสามารถฆ่าศัตรูพืชเกษตรกรไม่จำเป็นต้องฉีดสเปรย์จึงมักจะฆ่าศัตรูพืช ตัวอย่างของพืชศัตรูพืชที่ทนคือข้าวโพดซึ่งคล้ายกับข้าวโพด มีแบคทีเรียในดินซึ่งเป็นผู้ผลิตยาพิษที่ฆ่าแมลงเป็น แต่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พืช GM สามารถปกป้องสิ่งแวดล้อมเพราะพวกเขาเป็นเด็กธรรมชาติ เกษตรกรจำนวนมากในวันนี้ขึ้นอยู่กับสารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลง สารกำจัดวัชพืช และปุ๋ยให้พืชเติบโต แม้ว่าชีววิทยายีน ยีนของพืชที่สามารถแก้ไขเพื่อให้พวกเขาจะสามารถต้านทานต่อโรค และที่ผ่านมาทนและยังคงผลิตบางจำนวนการปลูกพืชจีเอ็มที่พบมากที่สุดในขณะนี้คือที่ต้านทานสารกำจัดวัชพืช . สองที่พบมากที่สุดคือ พืชที่ฆ่าศัตรูพืช พืชบางชนิดมีการเติบโตที่มียีนทั้งสองเหล่านี้ หากพืชสามารถต้านทานสารกำจัดวัชพืช เกษตรกรสามารถฉีดพ่นด้วยสารกำจัดวัชพืชโดยไม่ทำร้ายด้านพืช หมดวัชพืชและพืชอื่น ๆตาย แต่พืชไม่ได้ โดยลดจำนวนวัชพืชเกษตรกรเพิ่มปริมาณพืชที่โต ตัวอย่างที่ดีของนี้เป็นพืชจีเอ็มฝ้าย ซึ่งมักจะปลูกในสหรัฐอเมริกา สำหรับเมล็ดน้ำมัน ถ้าเป็นพืชที่สามารถฆ่าศัตรูพืช เกษตรกรไม่ต้องฉีดบ่อยเพื่อฆ่าศัตรูพืช ตัวอย่างของพืช คือ ต้านศัตรูพืชข้าวโพด ซึ่งคล้ายกับข้าวโพด มีแบคทีเรียในดินซึ่งผลิตสารพิษฆ่าแมลง แต่