People who live in slums are consid

People who live in slums are considered to be of no use to the city. They are thought of as criminals or prone to criminal activities. Thus they tend to be disliked, feared, and marginalised. And yet, they constitute a large number of votes in a municipal election. Therefore the Municipal Authority registered Ra Kaeng and Hua Fai in 1984-85 as crowded communities, having elected committees to represent them in their contact with the Authority. Kamphaeng Ngam was registered in 1995 when it was separated from Hua Fai. Nothing much was done foe the neighbourhoods by these committees as they always had to fight for favour from local politicians. The favours they obtained were only through emphasizing their own marginal status as slum communities, their poverty and their incapacity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คนที่อยู่ใน slums จะถือเป็นการไม่ใช้การเมือง พวกเขาจะคิดว่า เป็นอาชญากร หรือแนวโน้มกิจกรรมทางอาญา ดังนั้น พวกเขามักจะ disliked กลัว และ marginalised และยัง พวกเขาเป็นจำนวนมากในการเลือกตั้งเทศบาล ดังนั้น หน่วยงานเทศบาลลงทะเบียน Ra แก่งและหัวฝายใน 1984-85 เป็นชุมชนแออัด มีการเลือกตั้งคณะกรรมการเพื่อเป็นตัวแทนในการติดต่อกับหน่วยงาน กำแพงงามถูกลงทะเบียนในปี 1995 เมื่อมันถูกแยกออกจากหัวฝาย มากไม่มีอะไรทำศัตรูพื้นที่ โดยคณะกรรมการเหล่านี้เป็นพวกเขาเสมอสู้เพื่อโปรดปรานจากนักการเมืองท้องถิ่น Favours ที่พวกเขารับได้เฉพาะผ่านเน้นกำไรสถานะเป็นชุมชนแออัดชุมชน ความยากจนของพวกเขาและ incapacity ของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คนที่อาศัยอยู่ในสลัมมีการพิจารณาที่จะใช้ไปในเมืองไม่มี พวกเขาจะคิดว่าเป็นอาชญากรหรือมีแนวโน้มที่จะทำกิจกรรมทางอาญา ดังนั้นพวกเขามีแนวโน้มที่จะไม่ชอบกลัวและชายขอบ และยังพวกเขาเป็นจำนวนมากของคะแนนในการเลือกตั้งระดับชาติ ดังนั้นเทศบาลจดทะเบียน Ra แก่งและหัวฝายในชุมชนแออัด 1984-1985 เป็นมีคณะกรรมการที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของพวกเขาในการติดต่อกับผู้มีอำนาจ จังหวัดงามได้รับการจดทะเบียนในปี 1995 เมื่อมันถูกแยกออกมาจากหัวฝาย ไม่มีอะไรมากที่ทำศัตรูละแวกใกล้เคียงโดยคณะกรรมการเหล่านี้ที่พวกเขามักจะมีที่จะต่อสู้กับความโปรดปรานจากนักการเมืองท้องถิ่น บุญที่พวกเขาได้รับเป็นเพียงผ่านขอบเน้นสถานะของพวกเขาเองในขณะที่ชุมชนสลัมความยากจนของพวกเขาและความสามารถของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดจะถือว่าไม่ใช้เมือง พวกเขาจะคิดว่าเป็น อาชญากร หรือมักจะกิจกรรมทางอาญา ดังนั้นพวกเขามีแนวโน้มที่จะเกลียดกลัว และ 13 . แต่พวกเขาเป็นจำนวนมากของคะแนนเสียงในการเลือกตั้งเทศบาล ดังนั้น เทศบาลราและลงทะเบียนแก่งหัวฝายใน 1984-85 เป็นชุมชนแออัดมีการเลือกตั้งคณะกรรมการที่จะเป็นตัวแทนของพวกเขาในการติดต่อกับผู้มีอำนาจ กำแพงงามถูกลงทะเบียนในปี 1995 เมื่อมันถูกแยกออกจากหัวฝาย . ไม่มีอะไรมากก็ทำศัตรูแว่วจากคณะกรรมการเหล่านี้เช่นที่พวกเขาต้องต่อสู้เพื่อความโปรดปรานจากนักการเมืองท้องถิ่น ที่โปรดปรานได้แค่ผ่านเน้นสถานะของตนเองในฐานะชุมชนชุมชนแออัดของความยากจนและการไร้ความสามารถของพวกเขา