In this way, his followers make the

In this way, his followers make their amulets magically powerful (or even a piece of fabric).

Although many admire the monk's show of invincibility to the laws of physics and accept the monk's magicalpowers at face value, uncritically without questioning them, other more inquiring minds are skeptical of hismagical ritual.
Chulalongkorn University science professor Jessada Denduangboripant has come to the rescue of these inquiring minds, showing that sitting in seemingly boiling oil could actually be a sort of magic trick or illusion that could beperformed by anyone with a little training and finesse. [See here]

"The only way to prove it is [boiling] is to measure the temperature of the oil he's sitting in, the oil doesn't look like it'sboiling," the professor observes.

This is the so-called "scientific method" in which: 1. a problem is identified, 2. data is gathered, 3. a hypothesis is made about the data, and 4. the hypothesis is tested.
The hypothesis to be tested here would be that the oil is actually not boiling and that is why the monk has no problem sitting in it. Testing would simply consist of taking the temperature of the water, if the monk would allow this to be done.

The science professor formulates another hypothesis, namely that "the oil doesn't look like it's boiling and the pan just looks strange. The pan might have two layers to insulate the heat." or yet another hypothesis is that "the trick is to pour in some water in the bowl before the oil and start boiling. The water will absorb all the heat, but the oil never boils."
Whatever is happening here, the important thing is to test hypotheses until one proves to be true, this is the modern scientific way to determine the truth.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ด้วยวิธีนี้ ลูกศิษย์ของเขาทำให้พระเครื่องของตนมีประสิทธิภาพทำให้แขก (หรือแม้กระทั่งชิ้นส่วนของผ้า) แม้ว่าหลายชื่นชมการแสดงของพระของทำลายไม่ได้กับกฎของฟิสิกส์ และยอมรับของพระ magicalpowers ที่มูลค่า แต่โดยดีโดยไม่ต้องสงสัยเหล่านั้น จิตใจอื่น ๆ สอบถามเพิ่มเติมแคลงใจของพิธีกรรม hismagicalจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ศาสตราจารย์เจษฎา Denduangboripant มีมาเพื่อช่วยเหลือจิตใจเหล่านี้สอบถาม แสดงว่า นั่งดูเหมือนต้มน้ำมันจริงอาจเรียงลำดับเทคนิคมายากลหรือภาพลวงตาที่สามารถ beperformed โดยผู้ฝึกอบรมเพียงเล็กน้อยและชั้นเชิง [ดูต่อ] "วิธีเดียวที่จะพิสูจน์มันเป็น [เดือด] เป็นการวัดอุณหภูมิของน้ำมันที่เขานั่งใน น้ำมันไม่เหมือน it'sboiling อาจารย์พิจารณา นี้จะเรียกว่า "วิธีการทางวิทยาศาสตร์" ซึ่ง: 1. ระบุปัญหา 2 รวบรวมข้อมูล 3. ทำสมมติฐานที่เกี่ยวกับข้อมูล และ 4 การทดสอบสมมติฐานสมมติฐานที่จะทดสอบที่นี่จะเป็นที่น้ำมันกำลังจริงไม่เดือด และนั่นคือ ทำไมพระสงฆ์ไม่มีปัญหาในเรื่องการ ทดสอบจะก็ประกอบด้วยอุณหภูมิของน้ำ ถ้าพระสงฆ์จะช่วยให้นี้จะทำ อาจารย์วิทยาศาสตร์ formulates สมมติฐานอื่น คือ "น้ำมันไม่ดูเหมือนมันกำลังเดือด และกระทะก็ดูแปลก กระทะอาจช่วยความร้อนสองชั้น" หรือยัง สมมติฐานอื่นคือว่า "เคล็ดลับ การเทในน้ำในชามก่อนน้ำมันเริ่มเดือด น้ำจะดูดความร้อนทั้งหมด แต่น้ำมันไม่เดือด"นี้เป็นวิธีทางวิทยาศาสตร์ทันสมัยเพื่อตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ สิ่งสำคัญคือการ ทดสอบสมมุติฐานจนหนึ่งพิสูจน์เป็นความจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ด้วยวิธีนี้ลูกน้องของเขาทำให้พระเครื่องของพวกเขาอย่างน่าอัศจรรย์ที่มีประสิทธิภาพ (หรือแม้กระทั่งชิ้นส่วนของผ้า). แม้ว่าจะมีหลายชื่นชมการแสดงพระภิกษุสงฆ์ของอยู่ยงคงกระพันกฎหมายของฟิสิกส์และยอมรับ magicalpowers พระที่มูลค่า uncritically โดยไม่ต้องตั้งคำถามพวกเขาอื่น ๆ สอบถาม จิตใจมีความเชื่อในพิธีกรรม hismagical. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์อาจารย์เจษฎา Denduangboripant ได้มาช่วยเหลือของจิตใจสอบถามเหล่านี้แสดงให้เห็นว่านั่งอยู่ในน้ำมันเดือดดูเหมือนจริงอาจจะเรียงลำดับของมายากลหรือภาพลวงตาที่สามารถ beperformed โดยทุกคนที่มีการฝึกอบรมน้อยและ กลเม็ดเด็ดพราย [ดูที่นี่] "วิธีเดียวที่จะพิสูจน์ว่ามันเป็น [เดือด] คือการวัดอุณหภูมิของน้ำมันที่เขานั่งอยู่ในน้ำมันดูไม่เหมือน it'sboiling" อาจารย์สังเกต. นี้เป็นที่เรียกว่า " วิธีการทางวิทยาศาสตร์ "ซึ่ง 1. ปัญหาจะถูกระบุ 2. รวบรวมข้อมูล 3. สมมติฐานที่ทำเกี่ยวกับข้อมูลและ 4. สมมติฐานที่ได้รับการทดสอบ. สมมติฐานที่จะทดสอบที่นี่จะเป็นที่น้ำมันเป็นจริง ไม่เดือดและนั่นคือเหตุผลที่พระภิกษุสงฆ์มีปัญหานั่งอยู่ในนั้นเลย การทดสอบก็จะประกอบด้วยการอุณหภูมิของน้ำหากพระภิกษุสงฆ์จะช่วยให้นี้จะทำ. ศาสตราจารย์วิทยาศาสตร์กำหนดสมมติฐานอีกคือ "น้ำมันไม่ได้ดูว่ามันเดือดและแพนก็ดูแปลก. กระทะ อาจจะมีสองชั้นเพื่อป้องกันความร้อน. " หรือยังสมมติฐานก็คือว่า "เคล็ดลับคือการเทลงในน้ำบางส่วนในชามก่อนที่น้ำมันและเริ่มต้น. น้ำเดือดจะดูดซับความร้อน แต่น้ำมันไม่เคยเดือด." สิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่สิ่งที่สำคัญคือ การทดสอบสมมติฐานจนกว่าจะมีใครพิสูจน์ที่จะเป็นจริงนี้เป็นวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยในการตรวจสอบความจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในวิธีนี้ ลูกศิษย์ของเขาทำให้พระเครื่องของพวกเขาที่มีประสิทธิภาพอย่างน่าอัศจรรย์ ( หรือแม้กระทั่งชิ้นส่วนของผ้า )

แม้ว่าหลายชื่นชมพระโชว์อยู่ยงคงกระพันกับกฎหมายของฟิสิกส์และการยอมรับของพระ magicalpowers ที่มูลค่า uncritically โดยไม่ถามพวกเขา , อื่น ๆเพิ่มเติม สอบถามจิตใจจะกังขาพิธีกรรม hismagical .
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิทยาศาสตร์ อาจารย์เจษฎา สันตีระชัยวัฒนา ได้เข้าไปช่วยเหลือเหล่านี้ สอบถามจิตใจ แสดงว่า นั่งดูเหมือนน้ำมันเดือดจริงอาจจะเรียงลำดับของมายากลหรือภาพลวงตาที่สามารถรำโดยมีการฝึกอบรมน้อยและลูกเล่น [ ดู ]

" วิธีเดียวที่จะพิสูจน์ว่ามันเป็น [ เดือด ] คือการวัดอุณหภูมิของน้ำมันที่เขานั่งอยู่ในน้ํามันดูไม่เหมือน it'sboiling " ศาสตราจารย์ สังเกต

นี้เรียกว่า " วิธีการทางวิทยาศาสตร์ " ซึ่งใน 1 . ปัญหาคือ ระบุ 2 การรวบรวมข้อมูล 3 . สมมติฐานที่ทำเกี่ยวกับข้อมูล และ 4 . สมมติฐานการทดสอบสมมติฐานที่จะทดสอบ
ที่นี่จะเป็นที่น้ำมันจริงๆไม่เดือด และนั่นคือเหตุผลที่พระสงฆ์ได้ไม่มีปัญหานั่งมันการทดสอบจะประกอบด้วยสละ อุณหภูมิของน้ำ ถ้าพระจะอนุญาตให้ทำ

วิทยาศาสตร์ศาสตราจารย์ PayPal สมมติฐานอื่น คือ " น้ำมันไม่เหมือนมันต้ม และแพนก็แปลกๆด้วย แพนอาจจะมี 2 ชั้น เพื่อป้องกันความร้อน" หรืออีกข้อสันนิษฐานหนึ่งก็คือ " เคล็ดลับคือการเทน้ำในชามก่อนน้ำมันเริ่มเดือด น้ำจะดูดซับความร้อนทั้งหมด แต่น้ำมันไม่เดือด "
อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นที่นี่ สิ่งที่สำคัญคือการทดสอบสมมติฐานจนกว่าจะพิสูจน์ให้เป็นจริง นี่คือทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยวิธีการตรวจสอบความจริง