EIS usually employs a frequency res

EIS usually employs a frequency response analyzer (FRA) to
apply either a small AC voltage or current perturbation signal to a
cell, and measures its output signal for a wide frequency range. The
impedance is calculated by dividing the voltage by current, in the
form of a magnitude and phase angle, at each specific frequency.
Impedance spectroscopy has the ability to characterize many of
the electrical properties of materials and their interfaces with
electrodes. This ability has made the EIS technique widely used in
modeling and diagnostics of PEM fuel cells, where individual contributions
affecting cell performance can be distinguished by fitting
the impedance spectrum into parameters of an equivalent circuit
model. Electrical circuits with different configurations, components,
and degree of complexity have been proposed in the
literature.
The basic equivalent circuit often used to represent fuel cell
operation is the Randles circuit shown in Fig. 1, where Cdl is the
double layer capacitance of the catalyst surface, RHF describes the
movement within a conducting media and illustrates the sum of
contribution from contact resistance between components and
high frequency resistance of the cell components, and Rct is the
resistance that occurs when electrons transfer at the electrode/
electrolyte interface. Rct decreases when overpotential increases
due to the faster oxygen reaction rate. Kang et al. [5] noticed an
increase in Rct with increasing the degree of the reverse potential
fault in a fuel cell caused by fuel starvation.
Nyquist plots show the resistance versus reactance at multiple
frequencies, as obtained by the EIS measurements, Fig. 2. The high
frequency region of the impedance spectrum represents the high
frequency resistance whereas the low frequency region represents
the high frequency resistance and charge transfer resistance
respectively [6]. At high frequency, the Cdl is short circuited and the
RHF is measured. As frequency decreases, the impedance becomes a
combination of resistance and reactance from the capacitive
element. At low frequency, Cdl acts like a blocking diode and the
total resistance is equal to RHF and Rct.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

EIS มักใช้วิเคราะห์การตอบสนองความถี่ (FRA) สู่ใช้แรงดันไฟฟ้า AC ขนาดเล็กหรือปัจจุบัน perturbation สัญญาณไปเซลล์ และวัดของสัญญาณในช่วงความถี่กว้าง ที่ความต้านทานคำนวณ โดยการหารแรงดันไฟฟ้าโดยปัจจุบัน ในการแบบฟอร์มมีขนาดและระยะมุม ที่แต่ละความถี่เฉพาะกความต้านทานมีความสามารถในการกำหนดลักษณะของคุณสมบัติทางไฟฟ้าของวัสดุและการอินเตอร์เฟสกับหุงต ความสามารถนี้ได้เทคนิค EIS ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสร้างโมเดลและการวินิจฉัยของ PEM fuel เซลล์ ซึ่งแต่ละผลงานส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์สามารถโดดเด่นโดยสเปกตรัมความต้านทานเป็นพารามิเตอร์ของวงจรเทียบเท่าแบบจำลอง วงจรไฟฟ้า มีค่าแตกต่างกัน ส่วนประกอบและได้รับการเสนอระดับความซับซ้อนในการวรรณคดีวงจรเทียบเท่าพื้นฐานที่มักใช้แทนเซลล์เชื้อเพลิงการดำเนินงานเป็นวงจร Randles ที่แสดงใน Fig. 1, Cdl อยู่อธิบายความในชั้นของผิวเศษ RHFเคลื่อนไหวภายในสื่อทำ และแสดงผลรวมของเงินสมทบจากต้านทานติดต่อระหว่างคอมโพเนนต์ และมีความต้านทานความถี่สูงของส่วนประกอบของเซลล์ และ Rctความต้านทานที่เกิดขึ้นเมื่อการถ่ายโอนอิเล็กตรอนที่อิเล็กโทรด /อิเล็กโทรติดต่อ Rct ลดลงเมื่อเพิ่ม overpotentialเนื่องจากอัตราของปฏิกิริยาออกซิเจนเร็วขึ้น Kang et al. [5] พบการเพิ่มกับเพิ่มระดับศักยภาพย้อน Rctความบกพร่องในเซลล์เชื้อเพลิงที่เกิดจากเชื้อเพลิงความอดอยากผืน Nyquist แสดงความต้านทานเทียบกับ reactance ที่หลายความถี่ ตามที่ได้รับ โดยวัด EIS, Fig. 2 สูงสูงแสดงถึงขอบเขตความถี่ของสเปกตรัมความต้านทานความถี่ความต้านทานในขณะที่ภูมิภาคความถี่ต่ำแทนต้านทานความถี่สูงและต้านทานการโอนค่าธรรมเนียมตามลำดับ [6] ที่ความถี่สูง Cdl เป็นระยะสั้น circuited และวัด RHF เป็นความถี่ลดลง ความต้านทานที่กลายเป็นการต้านทานและ reactance จากการควบคุมองค์ประกอบการ ที่ความถี่ต่ำ Cdl ทำหน้าที่เหมือนไดโอดการบล็อคและความต้านทานรวมเท่ากับ RHF Rct.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

EIS มักจะมีพนักงานวิเคราะห์การตอบสนองความถี่ (FRA) ที่จะ
ใช้ทั้งแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับขนาดเล็กหรือสัญญาณรบกวนปัจจุบันไปยัง
เซลล์และมาตรการสัญญาณสำหรับช่วงความถี่กว้าง
ความต้านทานคำนวณโดยการหารแรงดันไฟฟ้าโดยในปัจจุบัน
รูปแบบของมุมขนาดและเฟสที่แต่ละความถี่เฉพาะ.
สเปกโทรสโกต้านทานมีความสามารถในหลายลักษณะ
สมบัติทางไฟฟ้าของวัสดุและการเชื่อมต่อของพวกเขาที่มี
ขั้วไฟฟ้า ความสามารถนี้ได้ทำเทคนิค EIS ใช้กันอย่างแพร่หลายใน
การสร้างแบบจำลองและการวินิจฉัยของ PEM เซลล์เชื้อเพลิงที่มีส่วนร่วมของแต่ละบุคคล
ที่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ที่จะประสบความสำเร็จโดยการปรับ
คลื่นความถี่ความต้านทานเป็นพารามิเตอร์ของวงจรสมมูล
แบบ วงจรไฟฟ้ากับการกำหนดค่าที่แตกต่างกัน, ชิ้นส่วน
และระดับของความซับซ้อนได้รับการเสนอใน
วรรณคดี.
วงจรสมมูลพื้นฐานมักจะใช้เพื่อเป็นตัวแทนของเซลล์เชื้อเพลิง
การดำเนินงานเป็นวงจร Randles แสดงในรูป 1 ที่ Cdl เป็น
ความจุสองชั้นของพื้นผิวของตัวเร่งปฏิกิริยา, RHF อธิบาย
การเคลื่อนไหวภายในสื่อและการดำเนินการแสดงให้เห็นถึงผลรวมของการ
มีส่วนร่วมจากความต้านทานการติดต่อระหว่างส่วนประกอบและ
ต้านทานความถี่สูงของส่วนประกอบของเซลล์และ Rct เป็น
ความต้านทานที่เกิดขึ้นเมื่อ อิเล็กตรอนโอนที่ขั้วไฟฟ้า /
อิเลคอินเตอร์เฟซ Rct ลดลงเมื่อ overpotential เพิ่มขึ้น
เนื่องจากอัตราการเกิดปฏิกิริยาออกซิเจนได้เร็วขึ้น คังและคณะ [5] สังเกตเห็น
การเพิ่มขึ้นของ Rct กับการเพิ่มระดับของการที่มีศักยภาพกลับ
ความผิดพลาดในเซลล์เชื้อเพลิงที่เกิดจากความอดอยากเชื้อเพลิง.
แปลง Nyquist แสดงความต้านทานเมื่อเทียบกับปฏิกิริยาที่หลาย
ความถี่ตามที่ได้รับจากการวัด EIS, รูป 2. สูง
ความถี่ของคลื่นความต้านทานหมายถึงสูง
ต้านทานความถี่ในขณะที่ภูมิภาคความถี่ต่ำแสดงถึง
ความต้านทานต้านทานความถี่สูงและค่าใช้จ่ายการโอน
ตามลำดับ [6] ที่ความถี่สูง Cdl เป็นลัดวงจรและ
RHF เป็นวัด ในฐานะที่เป็นความถี่ลดลงกลายเป็นความต้านทาน
การรวมกันของความต้านทานและปฏิกิริยาจาก capacitive
องค์ประกอบ ที่ความถี่ต่ำ Cdl ทำหน้าที่เหมือนไดโอดปิดกั้นและ
ความต้านทานรวมเท่ากับ RHF และ Rct

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

EIS มักจะใช้วิเคราะห์การตอบสนองความถี่ ( ฟรา )

ใช้ทั้งขนาดเล็ก AC แรงดันหรือกระแสคงที่ของสัญญาณไปยัง
เซลล์และการวัดสัญญาณที่มีช่วงความถี่กว้าง
ซึ่งคำนวณโดยการหารแรงดัน โดยปัจจุบันใน
รูปแบบของขนาดและมุมเฟสในแต่ละความถี่ที่เฉพาะเจาะจง .
อิมพีแดนซ์สเปกโทรสโกปีมีความสามารถในลักษณะหลาย
สมบัติทางไฟฟ้าของวัสดุและอุปกรณ์ของพวกเขากับ
ขั้วไฟฟ้า ความสามารถนี้ได้บูรณาการเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการสร้างและการวินิจฉัยของ
เซลล์เชื้อเพลิง PEM ที่บุคคลบริจาค
มีผลต่อประสิทธิภาพของเซลล์สามารถแยกได้โดยการปรับค่าพารามิเตอร์ของสเปกตรัมเป็น

เทียบเท่าวงจรแบบ วงจรไฟฟ้ากับการกำหนดค่าที่แตกต่างกันองค์ประกอบ
และระดับของความซับซ้อนที่ได้รับการเสนอใน

หนังสือ พื้นฐานวงจรสมมูลที่มักใช้เพื่อแสดงการทำงานของเซลล์เชื้อเพลิงคือ แรนเดิลล์
วงจรที่แสดงในรูปที่ 1 ซึ่ง CDL เป็น
2 ชั้นความจุของพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยา rhf อธิบาย
เคลื่อนไหวภายในการสื่อและแสดงผลรวมของ
บริจาค จากการติดต่อระหว่างคอมโพเนนต์และ
ความต้านทานความถี่สูง ความต้านทานของเซลล์ ส่วนประกอบ และ Razorflame เป็น
ความต้านทานที่เกิดขึ้นเมื่ออิเล็กตรอนโอนที่ขั้ว /
อิเล็กโทรไลต์อินเตอร์เฟซ Razorflame ลดลงเมื่อเพิ่ม overpotential
เนื่องจากเร็วกว่าออกซิเจนปฏิกิริยาอัตรา คัง et al . [ 5 ] สังเกตเห็น
เพิ่ม Razorflame กับการเพิ่มระดับของศักยภาพย้อนกลับ
ความผิดในเซลล์เชื้อเพลิงที่เกิดจากการอดอาหาร เชื้อเพลิง
ไนควิสต์แปลงแสดงการรบกับนามวลีที่ความถี่หลาย
, สิ่งที่ได้มาโดยบูรณาการการวัดรูปที่ 2 ความถี่สูง
ภาคค่าสเปกตรัมแสดงถึงความต้านทานความถี่สูงและความถี่ต่ำ

เขตหมายถึงความถี่สูง ความต้านทาน และ ค่าธรรมเนียมการโอนต้านทาน
2 [ 6 ] ที่ความถี่สูง คือ สั้นและ
circuited CDLrhf วัด . เป็นการลดความถี่ ค่ากลายเป็น
รวมกันของความต้านทานและองค์ประกอบ capacitive reactance จาก

ที่ความถี่ต่ำ , CDL ทำตัวกั้นไดโอดและ
ต้านทานรวมเท่ากับและ rhf Razorflame .