National forests whose names come f

National forests whose names come from their large, majestic trees—such as Redwood National Park and Sequoia National Park in California—may need to rethink their brands as droughts increase in frequency and severity in many regions around the world due to climate change. New research published this week in the journal Nature Plants finds it’s the large trees that suffer most and are first to die.

The four-person team of researchers conducted a global analysis of how forests respond to drought using already published and vetted inventory data from 40 drought events in 38 forests across the globe. In every case, large trees showed a decrease in how fast they grew, and drought-related tree death increased with tree size in 65 percent of the droughts examined.

“It shows us that this is really a pretty general trend,” said Kristina Anderson-Teixeira, a staff scientist with the Smithsonian Conservation Biology Institute and the Smithsonian Tropical Research Institute and senior author of the paper. “It tells us that biophysical principles make drought tougher on large trees.”

Physics and gravity are factors large trees have to deal with. Imagine trying to suck up water from a straw that is 5 feet tall versus a few inches, said Nathan McDowell, a researcher with the Earth and Environmental Sciences Division at the Los Alamos National Laboratory in New Mexico.

“Being tall, it’s harder to suck water,” said McDowell, a co-author of the paper. In fact, he said, big trees do a lot for a forest ecosystem that their smaller counterparts cannot. Some species, such as the spotted owl, only live in big trees. Large trees provide shade for the forest ecosystem and keep the understory of forests cool and more humid.

Big trees also capture a disproportionate amount of carbon dioxide, making them potential boons in the battle against a changing climate. The authors found that when trees are exposed to drought, not only are climate-stressed trees less likely to take in as much carbon, but when they die, they release large amounts of stored carbon into the atmosphere.

“Plants can’t go to the local 7-Eleven and get something to drink—they’re stuck there,” he said. “The way they deal with dry conditions [is] they close their stomata, holes in leaves that allow water to escape and capture CO2.”

25M trees dead in Calif.
The equivalent metaphor would be if a human could stop sweating when water was scarce, he added. The trade-off, however, is that if a tree does this for an extended period of time, it begins to run out of carbon or experience what is called “carbon starvation.” Scientists think trees don’t die from not taking in carbon, but rather it weakens the tree’s defenses and makes trees more susceptible to predators like bark beetles.

This week, officials in California reported that the number of dead trees in California has soared to 25 million, the result of drought and diseases exacerbated by lack of water (Greenwire, Sept. 28). At least 12 million trees in the state have been killed as bark beetles take advantage of their weakened state. Bark beetles also prefer large trees, the study notes.

SEE ALSO:
Health: Faith and Toilets | Mind: The Best Way to Nap | Tech: Anonymous's Cyber War with ISIS Could Compromise Terrorism Intelligence | The Sciences: Ears: Do Their Design, Size and Shape Matter?
William Anderegg, a postdoctoral fellow at the Princeton Environmental Institute who was not associated with the research, said the paper presented nice preliminary data on how larger trees seem more vulnerable to drought.

“Understanding which trees in the forest are most vulnerable to drought is quite important for understanding whether [they will] continue to act as a strong carbon sink in a rapidly changing climate,” he said in an email.

Anderegg’s own work, including a study published in July in the journal Science, found that forests absorb less carbon for four years after a drought.

He added that the paper was valuable but represents a small sample size, and that more work is needed.

McDowell said the paper adds to a growing body of science that is fueling concern for old, large trees. Although some forest management strategies could be helpful, such as forest thinning and controlled burning in appropriate places, those are merely bandages, he said.

“Do we predict all trees are going to die? Maybe it’s 80 percent,” he said. “The bottom line is we can’t just limit CO2 emissions. We have to stop carbon emissions totally. It’s good our governments are making progress, but it’s just a drop in the bucket.”

Amy Bennett with the Smithsonian Conservation Biology Institute and the University of New Mexico and Craig Allen from the U.S. Geological Survey were also authors of the paper.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เปลี่ยนชื่อมาจากต้นไม้ใหญ่ มาเจสติกการป่าไม้แห่งชาติ — เรดวูดอุทยานแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติ Sequoia ในแคลิฟอร์เนียซึ่งอาจต้อง rethink ตราสินค้าของตนเป็น droughts เพิ่มความถี่และความรุนแรงในหลายภูมิภาคทั่วโลกเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ งานวิจัยใหม่ที่เผยแพร่สัปดาห์นี้ในสมุดรายวันพืชธรรมชาติพบเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่สุดทรมานก่อนตายทีม 4 ผู้วิจัยดำเนินการวิเคราะห์แบบสากลวิธีป่าตอบแล้งใช้ข้อมูล vetted และเผยแพร่แล้วสินค้าคงคลังจากเหตุการณ์ภัยแล้ง 40 38 ป่าทั่วโลก ในทุกกรณี ต้นไม้ขนาดใหญ่พบว่าลดลงอย่างรวดเร็วพวกเขาเติบโต และที่เกี่ยวข้องกับภัยแล้งต้นไม้ตายเพิ่มขึ้นกับขนาดต้นไม้ร้อยละ 65 ของ droughts ตรวจสอบ"มันแสดงให้เราเห็นว่า นี่เป็นแนวโน้มทั่วไปสวย กล่าวว่า Kristina แอนเดอร์สัน-Teixeira พนักงานนักวิทยาศาสตร์ สถาบันสมิธโซเนียนอนุรักษ์ สถาบันวิจัยเขตร้อนสมิธโซเนียน และกระดาษผู้อาวุโส "มันบอกว่า biophysical หลักทำให้ภัยแล้งรุนแรงบนต้นไม้ขนาดใหญ่"ฟิสิกส์และแรงโน้มถ่วงเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่มีการจัดการกับปัจจัย จินตนาการพยายามดูดค่าน้ำฟางสูงเมื่อเทียบกับกี่นิ้ว ที่ 5 เท้าว่า นาธาน McDowell นักวิจัยดินและฝ่ายวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมในห้องปฏิบัติการแห่งชาติของ Los Alamos ในนิวเม็กซิโก"รู้ตัว มันหนักดูดน้ำ, " กล่าวว่า McDowell ผู้เขียนร่วมของกระดาษ ในความเป็นจริง เขากล่าว ต้นไม้ใหญ่ทำมากสำหรับระบบนิเวศป่าที่ปราบปรามเล็กไม่ บางชนิด เช่นนกฮูกด่าง อาศัยอยู่ในต้นไม้ใหญ่เท่านั้น ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาในระบบนิเวศป่า และให้การศึกษาของป่าเย็น และชื้นมากขึ้นนอกจากนี้ต้นไม้ใหญ่ยังจับจำนวนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำ boons มีศักยภาพในการต่อสู้กับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงนำ ผู้เขียนพบว่าเมื่อต้นไม้กำลังเผชิญกับภัยแล้ง ไม่เพียงแต่จะเน้นสภาพต้นไม้สู่ในคาร์บอนมาก แต่เมื่อพวกเขาตาย พวกเขาปล่อยจำนวนมากเก็บคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ"พืชไม่ไปภายใน 7-Eleven และได้รับดื่ม — พวกเขากำลังติดมี, " เขากล่าวว่า "วิธีจะจัดการกับสภาพแห้ง [เป็น] พวกเขาปิดการ stomata หลุมในใบที่ให้น้ำเพื่อหลบหนี และจับ CO2"25 เมตรต้นไม้ตายในรัฐแคลิฟอร์เนียเทียบเท่าจะได้ถ้ามนุษย์อาจหยุดตากระตุกเมื่อน้ำขาดแคลน เขาเพิ่ม Trade-off อย่างไรก็ตาม คือ ว่า ถ้าต้นไม้ไม่นี้เป็นระยะเวลานานของเวลา เริ่มทำจากคาร์บอน หรือประสบการณ์อะไรเรียกว่า "คาร์บอนความอดอยาก" นักวิทยาศาสตร์คิดว่า ต้นไม้ไม่ตายไม่มีในคาร์บอน แต่ค่อนข้างอ่อนของต้นป้องกัน และทำให้ต้นไม้อ่อนแอมากขึ้นไปล่าเช่นเปลือกด้วงสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่ในรัฐแคลิฟอร์เนียรายงานว่า จำนวนต้นไม้ตายในแคลิฟอร์เนียได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 25 ล้าน ผลของภัยแล้งและโรคที่เลวร้ายจากการขาดน้ำ (Greenwire, 28 ก.ย.) มีการฆ่าต้นไม้น้อย 12 ล้านในรัฐเป็นเปลือกด้วงใช้ประโยชน์จากสถานะอย่างไร เปลือกด้วงชอบต้นไม้ขนาดใหญ่ ย่อศึกษาดู:สุขภาพ: ความเชื่อและห้องน้ำ | จิตใจ: ส่วนวิธีการนับ | เทคโนโลยี: ไม่ระบุชื่อของสงครามไซเบอร์กับไอซิสอาจทำร้ายปัญญา | วิทยาศาสตร์: หู: ทำการออกแบบ ขนาด และรูปร่างสำคัญWilliam Anderegg เพื่อนนักปรินซ์ตันสถาบันสิ่งแวดล้อมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการวิจัย กล่าวว่า กระดาษที่นำเสนอเบื้องต้นข้อมูลดีบนต้นไม้ใหญ่ว่าดูเหมือนจะมีความเสี่ยงต่อภัยแล้ง"เข้าใจว่าต้นไม้ในป่าสุดเสี่ยงภัยแล้งมีความสำคัญมากเพื่อความเข้าใจว่า [พวกเขาจะ] ยังทำหน้าที่เป็นอ่างแข็งคาร์บอนในสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว, " เขากล่าวว่า ในอีเมล์การทำงานของ Anderegg รวมทั้งการศึกษาเผยแพร่ในเดือนกรกฎาคมในสมุดวิทยาศาสตร์ พบว่า ป่าไม้ดูดซับคาร์บอนน้อยกว่าสี่ปีหลังจากภัยแล้งเขาเสริมว่า กระดาษมีคุณค่า แต่แทนขนาดตัวอย่างขนาดเล็ก และที่เพิ่มเติมทำงานจำเป็นต้องใช้McDowell กล่าวว่า กระดาษเพิ่มให้ร่างกายเจริญเติบโตของวิทยาศาสตร์ที่เป็น fueling กังวลสำหรับต้นไม้เก่า ขนาดใหญ่ แม้ว่ากลยุทธ์การจัดการป่าบางอาจจะมีประโยชน์ เช่นป่าบาง และควบคุมการเผาไหม้ในสถานที่เหมาะสม ผู้เป็นเพียงใช้ผ้าพันแผล เขากล่าวว่า"ทำเราทายว่า ต้นไม้ทั้งหมดจะตาย อาจจะเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ เขากล่าวว่า "บรรทัดล่างสุดได้เราจึงไม่สามารถจำกัดการปล่อย CO2 เพียง เราต้องหยุดปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด ได้รัฐบาลของเราจะทำให้ความคืบหน้า แต่มันเป็นเพียงในกลุ่มดี"เบนเนตมีกับ สถาบันสมิธโซเนียนอนุรักษ์มหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโกและอัลเลนเคร็กจากสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐฯ ได้นอกจากนี้ผู้เขียนกระดาษ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ป่าแห่งชาติที่มีชื่อมาจากขนาดใหญ่ของพวกเขาเช่นต้นไม้คู่บารมีเรดวูดเป็นอุทยานแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติ Sequoia ในแคลิฟอร์เนียอาจต้องคิดใหม่แบรนด์ของพวกเขาในขณะที่ภัยแล้งเพิ่มขึ้นในความถี่และความรุนแรงในหลายภูมิภาคทั่วโลกเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ งานวิจัยใหม่ที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ในวารสารพืชธรรมชาติพบว่ามันเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ต้องทนทุกข์ทรมานมากที่สุดและเป็นครั้งแรกที่จะตาย. ทีมสี่คนของนักวิจัยดำเนินการวิเคราะห์ระดับโลกของวิธีการที่ป่าตอบสนองต่อภัยแล้งโดยใช้การตีพิมพ์แล้วและตรวจสอบข้อมูลสินค้าคงคลังจาก 40 เหตุการณ์ที่เกิดภัยแล้งใน 38 ป่าทั่วโลก ในทุกกรณีต้นไม้ขนาดใหญ่แสดงให้เห็นว่าการลดลงของวิธีการที่รวดเร็วพวกเขาเติบโตและตายต้นไม้ภัยแล้งที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นกับขนาดของต้นไม้ในร้อยละ 65 ของภัยแล้งตรวจสอบ. "มันแสดงให้เราเห็นว่านี้เป็นจริงแนวโน้มทั่วไปสวย" คริสตินาเดอร์สันกล่าวว่า -Teixeira นักวิทยาศาสตร์พนักงานกับสถาบันชีววิทยาการอนุรักษ์มิ ธ โซเนียนและเขตร้อนสถาบันวิจัยและนักเขียนอาวุโสของกระดาษ "มันบอกเราว่าหลักการทางชีวกายภาพทำให้ภัยแล้งรุนแรงบนต้นไม้ขนาดใหญ่." ฟิสิกส์และแรงโน้มถ่วงเป็นปัจจัยต้นไม้ขนาดใหญ่มีการจัดการกับ ลองนึกภาพการพยายามที่จะดูดน้ำจากฟางที่เป็น 5 ฟุตสูงเมื่อเทียบกับไม่กี่นิ้วที่นาธาน McDowell นักวิจัยกับฝ่ายโลกและวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมที่ Los Alamos ห้องปฏิบัติการแห่งชาติในเม็กซิโกกล่าวว่า. "ความสูงมันยากที่จะดูด น้ำ "กล่าวว่า McDowell, ผู้เขียนร่วมของกระดาษ ในความเป็นจริงเขากล่าวว่าต้นไม้ใหญ่ทำมากสำหรับระบบนิเวศป่าที่คู่ของพวกเขาที่มีขนาดเล็กไม่สามารถ บางชนิดเช่นนกฮูกเพียงอาศัยอยู่ในต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาสำหรับระบบนิเวศป่าและเก็บของป่า understory เย็นและชื้นมากขึ้น. ต้นไม้ใหญ่ยังจับสัดส่วนปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ทำให้พวกเขามีศักยภาพพรในการต่อสู้กับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้เขียนพบว่าเมื่อต้นไม้กำลังเผชิญกับภัยแล้งไม่เพียง แต่ต้นไม้สภาพภูมิอากาศที่เน้นโอกาสน้อยที่จะใช้เวลาในการคาร์บอนมากที่สุดเท่า แต่เมื่อพวกเขาตายพวกเขาปล่อยจำนวนมากเก็บไว้คาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ. "พืชไม่สามารถไป ท้องถิ่น 7-Eleven และได้รับบางสิ่งบางอย่างที่จะดื่ม-พวกเขากำลังติดอยู่ที่นั่น "เขากล่าว "วิธีที่พวกเขาจัดการกับสภาวะที่แห้ง [คือ] ปิดปากหลุมในใบที่ช่วยให้น้ำที่จะหลบหนีและจับ CO2." ต้นไม้ 25 ศพในรัฐแคลิฟอร์เนีย. อุปมาเทียบเท่าจะถ้ามนุษย์สามารถหยุดเหงื่อออกเมื่อน้ำขาดแคลน เขาเพิ่ม การออก แต่เป็นว่าถ้าต้นไม้ไม่นี้เป็นระยะเวลานานก็เริ่มที่จะวิ่งออกมาจากคาร์บอนหรือประสบการณ์สิ่งที่เรียกว่า "ความอดอยากคาร์บอน." นักวิทยาศาสตร์คิดว่าต้นไม้ไม่ตายจากการไม่ได้รับคาร์บอน แต่ค่อนข้างจะอ่อนตัวป้องกันของต้นไม้และทำให้ต้นไม้อ่อนแอมากขึ้นเพื่อล่าเช่นด้วงเปลือก. สัปดาห์นี้เจ้าหน้าที่ในรัฐแคลิฟอร์เนียรายงานว่าจำนวนของต้นไม้ที่ตายแล้วในรัฐแคลิฟอร์เนียได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 25 ล้านบาทเป็นผลมาจากภัยแล้งและโรคที่มาจากการขาด น้ำ (Greenwire 28 กันยายน) ไม่น้อยกว่า 12 ล้านต้นในรัฐที่ได้รับการฆ่าแมลงเปลือกใช้ประโยชน์จากรัฐอ่อนแอของพวกเขา ด้วงเปลือกยังชอบต้นไม้ขนาดใหญ่, บันทึกการศึกษา. ดูเพิ่มเติม: สุขภาพ: ความเชื่อและห้องน้ำ | ใจ: วิธีที่ดีที่สุดที่จะหลับนอน | เทค: ไม่ระบุชื่อของไซเบอร์สงครามกับ ISIS สามารถประนีประนอมข่าวกรองการก่อการร้าย | วิทยาศาสตร์: หู: ทำออกแบบขนาดของพวกเขาและเรื่องรูปร่างวิลเลียมAnderegg, เพื่อนหลังปริญญาเอกที่พรินซ์ตันสถาบันสิ่งแวดล้อมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวิจัยกล่าวว่ากระดาษที่นำเสนอข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการที่ดีต้นไม้ขนาดใหญ่ดูเหมือนจะมีความเสี่ยงต่อความแห้งแล้ง"ความเข้าใจซึ่งต้นไม้ในป่าที่มีความเสี่ยงมากที่สุดต่อความแห้งแล้งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการทำความเข้าใจว่า [พวกเขาจะ] ยังคงทำหน้าที่เป็นอ่างคาร์บอนที่แข็งแกร่งในสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว" เขากล่าวในอีเมล. ทำงานของตัวเอง Anderegg รวมทั้งการศึกษา ตีพิมพ์ในเดือนกรกฎาคมในวารสารวิทยาศาสตร์พบว่าป่าดูดซับคาร์บอนน้อยกว่าสี่ปีหลังจากภัยแล้ง. เขาเสริมว่ากระดาษที่มีคุณค่า แต่หมายถึงขนาดของกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็กและที่ทำงานมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็น. McDowell กล่าวว่ากระดาษที่จะเพิ่มการเจริญเติบโต ร่างกายของวิทยาศาสตร์ที่มีความกังวลสำหรับเติมน้ำมันเก่าต้นไม้ขนาดใหญ่ แม้ว่าบางส่วนกลยุทธ์การจัดการป่าไม้อาจจะเป็นประโยชน์เช่นการทำให้ผอมบางป่าและควบคุมการเผาไหม้ในสถานที่ที่เหมาะสมเหล่านั้นเป็นเพียงผ้าพันแผลเขากล่าว. "เราคาดการณ์ต้นไม้กำลังจะตาย? อาจจะเป็นร้อยละ 80 "เขากล่าว "บรรทัดล่างคือเราก็ไม่สามารถ จำกัด การปล่อย CO2 เราต้องหยุดการปล่อยก๊าซคาร์บอนโดยสิ้นเชิง เป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลของเราจะทำให้ความคืบหน้า แต่มันก็เป็นเพียงการลดลงในถัง. "เอมี่เบนเน็ตต์กับชีววิทยาการอนุรักษ์มิธ โซเนียนสถาบันและมหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโกและเครกอัลเลนจากการสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐยังเป็นผู้เขียนของกระดาษ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แห่งชาติป่าขนาดใหญ่ของพวกเขาที่มีชื่อมาจากต้นไม้ตระหง่านเช่น Redwood อุทยานแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติในแคลิฟอร์เนียอาจต้องคิดใหม่ แบรนด์ของพวกเขา ขณะที่ภัยแล้งเพิ่มความถี่และความรุนแรงในหลายภูมิภาคทั่วโลก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศงานวิจัยใหม่ตีพิมพ์ในสัปดาห์นี้ในพืชธรรมชาติ วารสาร พบว่ามันคือต้นไม้ใหญ่ที่ประสบมากที่สุด และก่อนจะตาย

4 คน ทีมนักวิจัยได้ทำการวิเคราะห์ทั่วโลกว่าป่าตอบสนองภัยแล้งด้วยแล้วเผยแพร่ และตรวจสอบข้อมูลสินค้าคงคลังจาก 40 เหตุการณ์ความแห้งแล้งใน 38 ป่าทั่วโลก ในทุกกรณีต้นไม้ใหญ่ พบว่าลดลงในวิธีการที่รวดเร็วพวกเขาเติบโตและภัยแล้งที่เกี่ยวข้องต้นไม้แห่งความตายเพิ่มขึ้นตามขนาดต้นไม้ใน 65 เปอร์เซ็นต์ของภัยแล้งตรวจสอบ

" มันแสดงให้เห็น ว่านี่คือแนวโน้มสวยทั่วไปจริงๆ " บอกว่า คริสติน่า แอนเดอร์สัน TEIXEIRA เจ้าหน้าที่นักวิทยาศาสตร์กับชีววิทยาการอนุรักษ์สมิทโซเนียนและสถาบันวิจัยเขตร้อนสมิธโซเนียนสถาบัน และผู้เขียนอาวุโสของกระดาษ" มันบอกเราว่า หลักการทางชีวกายภาพให้ความแห้งแล้งรุนแรงบนต้นไม้ใหญ่ "

ฟิสิกส์และแรงโน้มถ่วงเป็นปัจจัยใหญ่ ต้นไม้ต้องจัดการกับ ลองนึกภาพการพยายามดูดน้ำจากหลอดที่ 5 ฟุต เมื่อเทียบกับไม่กี่นิ้ว บอกว่านาธาน McDowell , นักวิจัยที่มี โลกและวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม กองที่ Los Alamos National Laboratory ในเม็กซิโก .

" มีสูงมันยากที่จะดูดน้ำ , " กล่าวว่า McDowell , ผู้เขียนร่วมของกระดาษ ในความเป็นจริง เขาบอกว่า ต้นไม้ใหญ่อะไรมากสำหรับระบบนิเวศป่าไม้ที่เล็กกว่าคู่ไม่ได้ บางชนิด เช่น นกฮุก เพียงอยู่ในต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาในระบบนิเวศป่าไม้ และเก็บ understory ป่าเย็นและชื้นมากขึ้น

ต้นไม้ใหญ่ยังจับปริมาณมหาศาลของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้พวกเขามีศักยภาพ boons ในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผู้เขียนพบว่าต้นไม้ตากแล้ง , ไม่เพียง แต่เป็นบรรยากาศตรึงเครียดต้นไม้น้อยอาจใช้เป็นคาร์บอนมาก แต่เมื่อพวกเขาตาย พวกเขาจะปล่อยจำนวนมากของการเก็บคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ

" พืชไม่สามารถไป 7-11 ท้องถิ่นและหาอะไรดื่มพวกเขาก็ติดอยู่ในนั้น " เขากล่าว " วิธีที่พวกเขาจัดการกับสภาพอากาศแห้ง [ เป็น ] พวกเขาปิดของปากหลุมในใบที่ให้น้ำที่จะหลบหนีและจับ CO2 . "

25m ต้นไม้ที่ตายแล้วในรัฐแคลิฟอร์เนีย
เทียบเท่าอุปลักษณ์จะถ้ามนุษย์สามารถหยุดเหงื่อออกเมื่อน้ำขาดแคลน เขากล่าวเสริม แลก , อย่างไรก็ตามคือว่า ถ้าต้นไม่นี้เป็นระยะเวลานาน มันเริ่มวิ่งออกมาจากคาร์บอนหรือสัมผัสสิ่งที่เรียกว่า " ความอดอยากคาร์บอน " นักวิทยาศาสตร์คิดว่าต้นไม้ไม่ตายจากการคาร์บอน แต่มันลดพลังป้องกันของต้นไม้ ทำให้ต้นไม้อ่อนแอมากขึ้นเพื่อล่า

เหมือนเปลือกด้วง ในสัปดาห์นี้เจ้าหน้าที่ในแคลิฟอร์เนีย รายงานว่าจำนวนของต้นไม้ที่ตายในแคลิฟอร์เนียได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 25 ล้านบาท ผลจากภัยแล้ง และโรค exacerbated โดยขาดน้ำ ( greenwire 28 กันยายน ) อย่างน้อย 12 ล้านต้นในรัฐถูกฆ่าเป็นเปลือกด้วงเอาประโยชน์ของตนบอด รัฐ เปลือกด้วงชอบต้นไม้ใหญ่ บันทึกการศึกษา .

ดูเพิ่มเติม :
สุขภาพ :ศรัทธา และสุขา | จิตใจ : วิธีที่ดีที่สุดที่จะนอนหลับ | เทค : สงครามไซเบอร์นิรนามกับ ISIS สามารถประนีประนอมข่าวกรองการก่อการร้าย | วิทยาศาสตร์ : หู : การออกแบบขนาดและรูปร่างขึ้น
วิลเลียม anderegg , Postdoctoral Fellow ที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันสถาบันสิ่งแวดล้อมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการวิจัยกล่าวว่ากระดาษที่นำเสนอข้อมูลเบื้องต้นที่ดี ว่าต้นไม้ใหญ่ดูเหมือนเสี่ยงต่อภัยแล้ง

" ความเข้าใจที่ ต้นไม้ในป่ามีความเสี่ยงมากที่สุดที่จะภัยแล้งค่อนข้างสำคัญสำหรับความเข้าใจว่า [ พวกเขา ] ยังคงเป็นคาร์บอนอินทรีย์ที่แข็งแกร่งในสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว " เขากล่าวในอีเมล์ .

anderegg เองงานรวมถึงการศึกษาที่เผยแพร่ในเดือนกรกฎาคมในวารสารวิทยาศาสตร์ พบว่า ป่าดูดซับคาร์บอนน้อยกว่าสี่ปีหลังจากแล้ง

เขาเสริมว่ากระดาษที่มีค่าแต่เป็นขนาดตัวอย่างขนาดเล็กและทำงานมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็น .

เวลกล่าวว่ากระดาษเพิ่มมากขึ้น ร่างกายของวิทยาศาสตร์ที่เติมกังวล เก่าขนาดใหญ่ ต้นไม้แม้ว่าบางกลยุทธ์การจัดการป่าไม้จะเป็นประโยชน์ เช่น การเผาป่าและควบคุมในสถานที่ที่เหมาะสม เหล่านี้เป็นเพียงผ้าพันแผล , เขากล่าวว่า .

" เราคาดการณ์ทั้งหมด ต้นไม้กำลังจะตาย บางทีมัน 80 เปอร์เซ็นต์ , " เขากล่าวว่า " บรรทัดล่างคือ เราไม่สามารถ จำกัด การปล่อย CO2 . เราต้องหยุดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั้งหมด มันเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลของเรามีการความก้าวหน้าแต่มันก็แค่เรื่องขี้ปะติ๋ว "

เอมี่เบนเนตสมิธโซเนียนสถาบันชีววิทยาการอนุรักษ์และ มหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโก และเครกอัลเลนจากสหรัฐอเมริกาสำรวจทางธรณีวิทยายังเป็นผู้เขียนของกระดาษ