Americans contend[citation needed]

Americans contend[citation needed] they were the first to combine two slices of bread and a steak of ground beef into a "hamburger sandwich" and sell it. Part of the controversy over the origin of the hamburger is because the two basic ingredients, bread and beef, were prepared and consumed separately for many years before their combination. Shortly after its creation, the hamburger was prepared with all of the now typically characteristic trimmings, including onions, lettuce, and sliced pickles.

After various controversies in the 20th century, including a nutritional controversy in the late 1990s, the burger is now readily identified with the United States, and a particular style of cuisine, namely fast food.[3] Along with fried chicken and apple pie, the hamburger has become a culinary icon in the United States.[4][5]

The hamburger's international popularity demonstrates the larger globalization of food[6] that has also includes the rise in global popularity of other national dishes, including the Italian pizza, and Japanese sushi. The hamburger has spread from continent to continent perhaps because it matches familiar elements in different culinary cultures.[7] This global culinary culture has been produced, in part, by the concept of selling processed food, first launched in the 1920s by the White Castle restaurant chain and its visionary Edgar Waldo "Billy" Ingram and then refined by McDonald's in the 1940s.[8][9] This global expansion provides economic points of comparison like the Big Mac Index,[10] by which one can compare the purchasing power of different countries where the Big Mac hamburger is sold.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

[ต้องการอ้างอิง] แข่งอเมริกันพวกแรกรวมสองชิ้นของขนมปังและสเต็กเนื้อดินเป็น "แฮมเบอร์เกอร์แซนด์วิช" และขาย ส่วนหนึ่งของการถกเถียงผ่านจุดเริ่มต้นของแฮมเบอร์เกอร์ที่เป็นเนื่องจากส่วนผสมพื้นฐานสอง ขนมปัง และ เนื้อ ถูกเตรียม และใช้แยกต่างหากสำหรับหลายปีก่อนชุดของพวกเขา หลังจากที่สร้าง แฮมเบอร์เกอร์ที่ถูกเตรียม ด้วยตอนนี้ลักษณะโดยทั่วไปซักแห้ง หัวหอม ผักกาดหอม และของดองหั่นบาง ๆหลังจาก controversies ต่าง ๆ ในศตวรรษที่ 20 รวมถึงข้อโภชนาการในปลายปี 1990 เบอร์เกอร์ตอนนี้พร้อมระบุสหรัฐอเมริกา และลักษณะเฉพาะของอาหาร อาหารจานด่วนได้แก่การ [3] พร้อมกับไก่ทอดและพายแอปเปิ้ล แฮมเบอร์เกอร์ที่ได้กลายเป็น ไอคอนอาหารในสหรัฐอเมริกา [4] [5]แฮมเบอร์เกอร์ของสากลนิยมแสดงให้เห็นถึงโลกาภิวัตน์ใหญ่อาหาร [6] ที่มียังมีเพิ่มขึ้นในความนิยมทั่วโลกของอาหารชาติอื่น รวมถึงพิซซ่าอิตาเลียน ซูชิญี่ปุ่น แฮมเบอร์เกอร์ที่ลุกลามจากทวีปสู่ทวีปอาจเนื่องจากตรงกับองค์ประกอบที่คุ้นเคยในวัฒนธรรมอาหารที่แตกต่างกัน [7] วัฒนธรรมอาหารสากลนี้ได้ถูกผลิต ในส่วน ตามแนวคิดของการขายอาหารแปรรูป เปิดตัวครั้งแรก ในปี 1920 ด้วยห่วงโซ่อาหารปราสาทสีขาวของวิสัยทัศน์ Edgar วาลดู "บิลลี่" อิงแกรม และกลั่น โดยแมคโดนัลด์ในทศวรรษ 1940 โดย [8] [9] นี้ขยายส่วนกลางให้สถานเศรษฐกิจเปรียบเทียบเช่นใหญ่ Mac ดัชนี, [10] ที่หนึ่งสามารถเปรียบเทียบกำลังซื้อของต่างประเทศที่ขายเบอร์เกอร์บิ๊กแมค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชาวอเมริกันยืนยัน [อ้างจำเป็น] พวกเขาเป็นคนแรกที่รวมสองชิ้นของขนมปังและสเต็กเนื้อดินเป็น "แฮมเบอร์เกอร์แซนวิช" และขาย เป็นส่วนหนึ่งของการทะเลาะวิวาทมากกว่าที่มาของแฮมเบอร์เกอร์เป็นเพราะทั้งสองส่วนผสมพื้นฐานขนมปังและเนื้อได้จัดทำและบริโภคแยกกันเป็นเวลาหลายปีก่อนที่จะรวมกันของพวกเขา ไม่นานหลังจากที่การสร้างแฮมเบอร์เกอร์ถูกจัดทำขึ้นมีทั้งหมดของการตัดลักษณะโดยทั่วไปในขณะนี้รวมทั้งหัวหอม, ผักกาดหอมและผักดองหั่น. หลังจากการถกเถียงต่างๆในศตวรรษที่ 20 รวมทั้งความขัดแย้งทางโภชนาการในช่วงปลายปี 1990 ที่ชาวเมืองอยู่ในขณะนี้ระบุได้อย่างง่ายดาย กับสหรัฐอเมริกาและลักษณะเฉพาะของอาหาร, อาหารอย่างรวดเร็วคือ. [3] พร้อมกับไก่ทอดและพายแอปเปิ้ล, แฮมเบอร์เกอร์ได้กลายเป็นไอคอนการทำอาหารในประเทศสหรัฐอเมริกา. [4] [5] ความนิยมในต่างประเทศแฮมเบอร์เกอร์ที่แสดงให้เห็นถึง โลกาภิวัตน์ที่มีขนาดใหญ่ของอาหาร [6] ที่ได้นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มขึ้นในความนิยมระดับโลกของอาหารชาติอื่น ๆ รวมทั้งพิซซ่าอิตาลี, ญี่ปุ่นและซูชิ แฮมเบอร์เกอร์ที่มีการแพร่กระจายจากทวีปทวีปบางทีอาจเป็นเพราะมันตรงกับองค์ประกอบที่คุ้นเคยในวัฒนธรรมการทำอาหารที่แตกต่างกัน. [7] นี้วัฒนธรรมการปรุงอาหารระดับโลกที่ได้รับการผลิตในส่วนหนึ่งโดยแนวคิดของการขายอาหารแปรรูปที่เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1920 โดยปราสาทสีขาว ห่วงโซ่อาหารและมีวิสัยทัศน์ของเอ็ดการ์วัลโด "บิลลี่" อินแกรมแล้วกลั่นโดยโดนัลด์ในปี 1940. [8] [9] นี้ขยายตัวทั่วโลกมีจุดทางเศรษฐกิจของการเปรียบเทียบเช่นบิ๊กดัชนี Mac [10] โดยที่หนึ่งสามารถเปรียบเทียบการจัดซื้อ อำนาจของประเทศที่แตกต่างกันที่บิ๊กแม็คแฮมเบอร์เกอร์ขาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อเมริกันโต้แย้ง [ อ้างอิงที่จำเป็น ] เป็นครั้งแรกเพื่อรวมสองชิ้นของขนมปัง และสเต็กเนื้อดินเป็น แซนวิช แฮมเบอร์เกอร์ " และขายมัน ส่วนหนึ่งของการถกเถียงเรื่องที่มาของแฮมเบอร์เกอร์ เพราะพื้นฐาน 2 ส่วนผสม ขนมปัง และเนื้อถูกเตรียมและบริโภคแยกหลายปีก่อนการรวมกันของพวกเขา หลังจากการสร้างของแฮมเบอร์เกอร์ที่เตรียมไว้มีทั้งหมดของตอนนี้โดยทั่วไปลักษณะ trimmings , ได้แก่ ต้นหอม ผักกาดหอม และ แตงกวาดองหั่นบาง ๆ .

หลังจากถกเถียงต่างๆในศตวรรษที่ 20 รวมทั้งการโต้เถียงทางโภชนาการในปลายปี 1990 , เบอร์เกอร์คือตอนนี้พร้อมระบุกับประเทศสหรัฐอเมริกา และลักษณะเฉพาะของอาหาร อาหารคือ . 3 ] พร้อมกับไก่ทอดและพายแอปเปิ้ลแฮมเบอร์เกอร์ได้กลายเป็นไอคอนของอาหารในสหรัฐอเมริกา . [ 4 ] [ 5 ]

ความนิยมระหว่างประเทศของแฮมเบอร์เกอร์ สาธิตขนาดใหญ่โลกาภิวัตน์ของอาหาร [ 6 ] ที่ยังมีเพิ่มขึ้นในความนิยมทั่วโลกของอาหารชาติอื่นๆ รวมทั้งพิซซ่าอิตาเลียน และ ซูชิญี่ปุ่นแฮมเบอร์เกอร์ได้แพร่กระจายจากทวีปทวีปอาจเป็นเพราะมันตรงกับองค์ประกอบที่คุ้นเคยในวัฒนธรรมอาหารที่แตกต่างกัน [ 7 ] วัฒนธรรมอาหารทั่วโลกนี้ได้รับการผลิตในส่วน โดยแนวคิดของการขายอาหารแปรรูป , เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1920 โดยปราสาทสีขาวร้านอาหารและช่างจินตนาการ เอ็ดการ์ วอลโด " บิลลี่ " อิงแกรม และบริสุทธิ์ โดยแมคโดนัลด์ใน 1940[ 8 ] [ 9 ] โลกนี้ให้เศรษฐกิจขยายจุดเปรียบเทียบเหมือน Big Mac Index , [ 10 ] ซึ่งหนึ่งสามารถเปรียบเทียบอำนาจการจัดซื้อของต่างประเทศที่แฮมเบอร์เกอร์บิ๊กแม็คขาย .