This research has some limitations

This research has some limitations that could be
addressed in further research. First, we examined the effect
of innovation locus and the moderating role of newness
using a scenario-based experimental approach. Although the
experimental approach is desirable for theory testing, further
research could enhance the external validity of the findings
by using secondary data to compare consumers’ adoption
rates for innovations integrated into the core versus in a
peripheral. However, researchers must be cautious when
using secondary data to investigate this issue because the
choice of integrating an innovation into the core versus in a
peripheral is likely to be constrained by “path dependence”
(Hunt and Morgan 1996). Specifically, when an innovation
JOURNAL OF MARKETING RESEARCH, JUNE 2015
is integrated into a core by initial design, it may be implausible
to launch it later as a peripheral. However, if the core
product is already available, it may be easier to introduce
subsequent innovations in peripheral components. Consider
the case of the motion-sensing technology, for example.
While Nintendo chose to integrate this innovation into the
core of its new generation gaming console system (Wii) by
initial design, its competitors (Xbox 360 and PlayStation 3),
which had already introduced new generation consoles earlier,
found it more plausible to introduce motion-sensing
technology in peripherals.
Second, we only examined conditions under which just
one firm introduces the peripheral innovation. Market entry
by competitors can dramatically change consumer reactions
to the pioneer’s innovation in peripherals. Because peripheral
innovations may be less costly than core innovations to
produce and market, competitors may be able to respond
more rapidly to such innovations. Conversely, competitors
may also respond to the pioneer’s peripheral innovations by
integrating the innovation into their core products, which
may offer the benefit of convenience (as consumers do not
need to buy two components to reap the benefits of the
innovation). However, the latter strategy of the late entrants
may only be warranted if the pioneer’s peripheral innovation
has gained sufficient market acceptance.
Further research could also provide deeper insights into
the mechanism underlying the role of detachability. As we
reported in Study 2, an RNI that is optional but not detachable
does not result in higher adoption intentions than the
peripheral locus (i.e., optional and detachable). We posit
that one mechanism that underlies the role of detachability
is perceived risk. As discussed previously, when an RNI is
optional and integrated within the core, consumers will
view the whole product as a decision object and infer interdependency
between the RNI and the rest of the product
components. As such, any risk associated with the RNI will
be mapped onto the entire product system. An additional or
alternative mechanism for the role of detachability is perceived
benefit. It is probable that a separate feature (i.e., a
peripheral) makes the innovation psychologically distant
and thus more desirable to consumers (Goodman and Irmak
2013). Examining these mechanisms is a worthy avenue for
further research.
Finally, research could also examine the temporal variation
in the effect of innovation locus on consumer adoption decisions.
The peripheral locus may be advantageous over the
core locus in the initial stages of the introduction of an RNI
because the uncertainty about understanding the features
and benefits of the RNI and the associated performance risk
are likely to be the highest at the introductory stage. As time
goes by, consumers learn about the RNI and develop the
requisite knowledge to understand its features and benefits.
Thus, at the later stages of product adoption (with uncertainty
reduced), the peripheral locus may lose its advantage,
and conversely, the core locus may actually gain an advantage
(because it reduces the inconvenience of multiple components
and could be perceived as a cleaner design). This
would be a fruitful avenue for further research. Overall, we
hope that this research spurs further investigation into the
role of innovation locus in new product design and adoption

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานวิจัยนี้มีข้อจำกัดบางประการที่อาจอยู่ในการวิจัยต่อไป ครั้งแรก เราตรวจสอบผลโลกัสโพลนวัตกรรมและบทบาท moderating ของใหม่ใช้วิธีทดลองโดยใช้สถานการณ์จำลอง แม้ว่าการวิธีการทดลองเป็นการทดสอบ เพิ่มเติมทฤษฎีความถูกต้องภายนอกของผลการศึกษาวิจัยโดยใช้ข้อมูลรองเพื่อเปรียบเทียบการยอมรับของผู้บริโภคราคาสำหรับนวัตกรรมรวมเป็นหลักและในการอุปกรณ์ต่อพ่วง อย่างไรก็ตาม นักวิจัยต้องระมัดระวังเมื่อใช้ข้อมูลรองเพื่อตรวจสอบปัญหานี้เนื่องจากการทางเลือกของการบูรณาการนวัตกรรมเป็นหลักและในการอุปกรณ์ต่อพ่วงจะถูกจำกัด โดย "เส้นทางพึ่งพา"(Hunt และมอร์แกน 1996) โดยเฉพาะ เมื่อนวัตกรรมสมุดรายวันการตลาดวิจัย 2015 มิถุนายนรวมเป็นหลักโดยเริ่มต้นออกแบบ มันอาจจะไม่น่าเชื่อเพื่อเปิดในภายหลังเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วง อย่างไรก็ตาม ถ้าหลักผลิตภัณฑ์มีจำหน่ายแล้ว มันอาจจะง่ายต่อการแนะนำนวัตกรรมต่อมาในอุปกรณ์ต่อพ่วง พิจารณากรณีของการเคลื่อนไหวไร้สายเทคโนโลยี ตัวอย่างในขณะที่ Nintendo เลือกรวมนวัตกรรมนี้เป็นการหลักของรุ่นใหม่เล่นเกมคอนโซล (Wii) โดยระบบออกแบบครั้งแรก คู่แข่ง (Xbox 360 และ PlayStation 3),ซึ่งมีแล้วแนะนำรุ่นใหม่คอนโซลก่อนหน้านี้พบมากเป็นไปได้แนะนำการเคลื่อนไหวไร้สายเทคโนโลยีในอุปกรณ์ต่อพ่วงสอง เราเพียงตรวจสอบเงื่อนไขที่เพียงบริษัทหนึ่งแนะนำนวัตกรรมอุปกรณ์ต่อพ่วง รายการตลาดโดยคู่แข่งสามารถอย่างมากเปลี่ยนปฏิกิริยาของผู้บริโภคสู่นวัตกรรมของไพโอเนียร์ในอุปกรณ์ต่อพ่วง เนื่องจากอุปกรณ์ต่อพ่วงนวัตกรรมอาจเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่านวัตกรรมหลักการผลิตและการตลาด คู่แข่งอาจจะสามารถตอบสนองการนวัตกรรมดังกล่าวรวดเร็วยิ่งขึ้น ในทางกลับกัน คู่แข่งนอกจากนี้ยังอาจตอบนวัตกรรมอุปกรณ์ต่อพ่วงของผู้บุกเบิกโดยรวมนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์ของพวกเขาหลัก ที่อาจมีประโยชน์สะดวก (ตามที่ผู้บริโภคไม่ต้องการซื้อคอมโพเนนต์ที่สองจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของการนวัตกรรม) อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์หลังของ entrants สายอาจเท่านั้นถูก warranted ถ้าผู้บุกเบิกของอุปกรณ์ต่อพ่วงนวัตกรรมได้รับการยอมรับเพียงพอวิจัยเพิ่มเติมยังมีลึกลึกกลไกต้นบทบาทของ detachability เป็นเรารายงานการศึกษา 2, RNI ที่ไม่จำเป็น แต่ไม่ถอดไม่ทำให้ความตั้งใจยอมรับสูงกว่าโลกัสโพลอุปกรณ์ต่อพ่วง (เช่น เสริม และถอดออกได้) เรา positกลไกหนึ่งที่ underlies บทบาทของ detachabilityเป็นการรับรู้ความเสี่ยง ตามที่อธิบายไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อการ RNIไม่จำเป็น และการบูรณาการในหลัก ผู้บริโภคจะดูสินค้าทั้งหมดเป็นวัตถุการตัดสินใจ และเข้าใจความเชื่อมโยงกันระหว่าง RNI และส่วนเหลือของผลิตภัณฑ์คอมโพเนนต์ เช่น ความเสี่ยงใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ RNI จะสามารถแม็ปไปยังผลิตภัณฑ์ทั้งระบบ เพิ่มเติม หรือบทบาทของ detachability กลไกอื่นถือว่าประโยชน์ของการ จึงน่าเป็นที่ลักษณะแยกต่างหาก (เช่น การนวัตกรรม psychologically ไกลทำให้อุปกรณ์ต่อพ่วง)และผู้บริโภค (คลาและ Irmak จึงสมควรเพิ่มเติม2013) การตรวจสอบกลไกเหล่านี้เป็นอเวนิวสมควรสำหรับวิจัยต่อไปสุดท้าย วิจัยอาจยังตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวในผลของนวัตกรรมโลกัสโพลตัดสินใจยอมรับของผู้บริโภคโลกัสโพลพ่วงอาจมีประโยชน์มากกว่าการโลกัสโพลหลักในขั้นตอนเริ่มต้นของ RNI แนะนำเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำความเข้าใจลักษณะการทำงานและประโยชน์ของ RNI และเสี่ยงต่อประสิทธิภาพการทำงานที่เกี่ยวข้องมีแนวโน้มที่จะสูงขั้นเกริ่นนำ เป็นเวลาไปด้วย ผู้บริโภคเรียนรู้เกี่ยวกับการ RNI และพัฒนาความรู้ที่จำเป็นต้องเข้าใจคุณสมบัติและประโยชน์ของดังนั้น ในระยะหลังของการยอมรับผลิตภัณฑ์ (ด้วยความไม่แน่นอนลดลง), โลกัสโพลพ่วงอาจเสียประโยชน์และในทางกลับกัน โลกัสโพลหลักอาจจะเปรียบ(เนื่องจากมันช่วยลดความไม่สะดวกหลายส่วนและอาจถือว่าเป็นการออกแบบทำความสะอาด) นี้จะเป็นถนนประสบการวิจัยต่อไป โดยรวม เราหวังว่า งานวิจัยนี้ spurs สอบสวนเพิ่มเติมในการบทบาทของโลกัสโพลนวัตกรรมในการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่และยอมรับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยครั้งนี้มีข้อ จำกัด
บางอย่างที่อาจจะได้รับการแก้ไขในการวิจัยต่อไป ครั้งแรกที่เราตรวจสอบผลกระทบของสถานที่การสร้างสรรค์นวัตกรรมและบทบาทของการดูแลความใหม่โดยใช้สถานการณ์ตามวิธีการทดลอง แม้ว่าวิธีการทดลองเป็นที่น่าพอใจสำหรับการทดสอบทฤษฎีต่อการวิจัยสามารถเพิ่มความถูกต้องภายนอกของการค้นพบโดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิเพื่อเปรียบเทียบของผู้บริโภคการยอมรับอัตราสำหรับนวัตกรรมบูรณาการเข้ากับหลักในการต่อพ่วง อย่างไรก็ตามนักวิจัยจะต้องระมัดระวังเมื่อใช้ข้อมูลทุติยภูมิในการตรวจสอบเรื่องนี้เพราะทางเลือกของการบูรณาการนวัตกรรมเข้ากับหลักในการต่อพ่วงมีแนวโน้มที่จะถูกจำกัด ด้วย "การพึ่งพาเส้นทาง" (ฮันท์และมอร์แกน 1996) โดยเฉพาะเมื่อมีนวัตกรรมวารสารการวิจัยการตลาด, มิถุนายน 2015 รวมอยู่ในหลักจากการออกแบบครั้งแรกก็อาจจะไม่น่าเชื่อที่จะเปิดตัวได้ในภายหลังเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วง แต่ถ้าหลักสินค้าที่มีอยู่แล้วก็อาจจะง่ายที่จะแนะนำนวัตกรรมใหม่ที่ตามมาในส่วนประกอบอุปกรณ์ต่อพ่วง พิจารณากรณีของเทคโนโลยีการเคลื่อนไหวตรวจจับเช่น. ในขณะที่นินเทนเลือกที่จะบูรณาการนวัตกรรมนี้เข้ามาเป็นแกนหลักของการเล่นเกมรุ่นใหม่ของระบบคอนโซล (Wii) โดยการออกแบบเริ่มต้นคู่แข่ง(Xbox 360 และ PlayStation 3) ซึ่งมีอยู่แล้ว แนะนำคอนโซลรุ่นใหม่ก่อนหน้านี้พบว่ามันเป็นไปได้มากขึ้นที่จะแนะนำการตรวจจับการเคลื่อนไหวเทคโนโลยีในอุปกรณ์ต่อพ่วง. ประการที่สองเราจะตรวจสอบภายใต้เงื่อนไขที่เพียงหนึ่งใน บริษัท แนะนำนวัตกรรมอุปกรณ์ต่อพ่วง การเข้าสู่ตลาดโดยคู่แข่งสามารถเปลี่ยนปฏิกิริยาของผู้บริโภคที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมเป็นผู้บุกเบิกในอุปกรณ์ต่อพ่วง เพราะต่อพ่วงนวัตกรรมอาจจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่านวัตกรรมหลักในการผลิตและการตลาดของคู่แข่งอาจจะไม่สามารถที่จะตอบสนองมากขึ้นอย่างรวดเร็วนวัตกรรมดังกล่าว ตรงกันข้ามคู่แข่งอาจตอบสนองต่อผู้บุกเบิกนวัตกรรมอุปกรณ์ต่อพ่วงโดยการบูรณาการนวัตกรรมเป็นผลิตภัณฑ์หลักของพวกเขาซึ่งอาจมีผลประโยชน์ของความสะดวกสบาย(ในขณะที่ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งสองส่วนจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของนวัตกรรม) อย่างไรก็ตามกลยุทธ์หลังของผู้เข้าปลายอาจจะรับประกันเฉพาะในกรณีที่เป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ได้รับการยอมรับในตลาดเพียงพอ. นอกจากนี้การวิจัยยังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่ลึกเข้าไปในกลไกพื้นฐานบทบาทของ detachability ที่ ในฐานะที่เรารายงานในการศึกษา 2 เป็น RNI ที่จะเป็นตัวเลือก แต่ไม่ถอดออกไม่ได้ผลในการยอมรับความตั้งใจสูงกว่าสถานที่อุปกรณ์ต่อพ่วง(เช่นตัวเลือกและถอดออกได้) เราวางตัวว่ากลไกหนึ่งที่รองรับบทบาทของ detachability เป็นที่รับรู้มีความเสี่ยง ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เมื่อ RNI เป็นตัวเลือกและบูรณาการภายในหลักที่ผู้บริโภคจะดูสินค้าทั้งหมดเป็นวัตถุตัดสินใจและสรุปinterdependency ระหว่าง RNI และส่วนที่เหลือของผลิตภัณฑ์ส่วนประกอบ เช่นความเสี่ยงใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ RNI จะถูกแมปบนระบบผลิตภัณฑ์ทั้งหมด เพิ่มเติมหรือกลไกทางเลือกสำหรับบทบาทของ detachability เป็นที่รับรู้ประโยชน์ มันเป็นไปได้ว่าเป็นคุณสมบัติที่แยกต่างหาก (กล่าวคือเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วง) ทำให้นวัตกรรมจิตใจที่ห่างไกลและทำให้มากขึ้นเป็นที่น่าพอใจให้กับผู้บริโภค (กู๊ดแมนและ Irmak 2013) การตรวจสอบกลไกเหล่านี้เป็นถนนที่คุ้มค่าสำหรับการวิจัยต่อไป. ในที่สุดการวิจัยยังสามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวในผลกระทบของสถานทีนวัตกรรมกับการตัดสินใจของผู้บริโภค. ทีต่อพ่วงอาจจะได้เปรียบมากกว่าสถานที่หลักในขั้นเริ่มต้นของการแนะนำของRNI เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความเข้าใจคุณลักษณะและประโยชน์ของ RNI และความเสี่ยงผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องมีแนวโน้มที่จะสูงที่สุดในขั้นตอนเบื้องต้น เมื่อเวลาผ่านไปโดยผู้บริโภคเรียนรู้เกี่ยวกับ RNI และพัฒนาองค์ความรู้ที่จำเป็นในการทำความเข้าใจคุณสมบัติและประโยชน์. ดังนั้นในขั้นตอนต่อมาของการยอมรับของผลิตภัณฑ์ (กับความไม่แน่นอนที่ลดลง), ทีต่อพ่วงอาจสูญเสียประโยชน์ของตนและตรงกันข้ามหลัก สถานที่จริงอาจได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ (เพราะจะช่วยลดความไม่สะดวกของส่วนประกอบหลายและอาจถูกมองว่าเป็นการออกแบบที่สะอาด) นี้จะเป็นถนนที่มีผลสำหรับการวิจัยต่อไป โดยรวมแล้วเราหวังว่างานวิจัยนี้สเปอร์สการตรวจสอบต่อไปในบทบาทของสถานที่การสร้างสรรค์นวัตกรรมในการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่และการยอมรับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยนี้มีข้อจำกัดที่สามารถ
addressed ในการวิจัยต่อไป ครั้งแรกที่เราตรวจสอบผล
ทางเดินของนวัตกรรมและควบคุมบทบาทของนวัตกรรม
ใช้สถานการณ์ทดลอง วิธีการที่ใช้ แม้ว่า
ทดลองเป็นที่พึงปรารถนาสำหรับการทดสอบทฤษฎี การวิจัยเพิ่มเติม
สามารถเพิ่มความตรงภายนอกของการวิจัย
โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิ เพื่อเปรียบเทียบการยอมรับของผู้บริโภค
อัตรานวัตกรรมบูรณาการในหลักใน
เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ต่อพ่วง อย่างไรก็ตาม นักวิจัยต้องระมัดระวังเมื่อ
ใช้ข้อมูลทุติยภูมิ เพื่อตรวจสอบปัญหานี้เพราะ
จองรวมมีนวัตกรรมเป็นหลัก เมื่อเทียบกับใน
อุปกรณ์มีแนวโน้มที่จะ จำกัด โดย " การพึ่งพาเส้นทาง "
( ล่าและมอร์แกน 1996 ) โดยเฉพาะเมื่อนวัตกรรม
วารสารวิจัยการตลาด , มิถุนายน 2015
รวมเป็นหลัก โดยเริ่มต้นออกแบบ อาจจะไม่น่าเชื่อ
เปิดทีหลังเป็นอุปกรณ์ต่อพ่วง อย่างไรก็ตาม หากผลิตภัณฑ์หลัก
มีอยู่แล้ว มันอาจจะง่ายที่จะแนะนำ
นวัตกรรมตามมาในส่วนประกอบที่ต่อพ่วง พิจารณากรณีตรวจจับการเคลื่อนไหว

เทคโนโลยี ตัวอย่างเช่นในขณะที่ Nintendo เลือกที่จะบูรณาการนวัตกรรมนี้เป็นหลักของรุ่นใหม่
เกมคอนโซลระบบ ( Wii ) โดย
ออกแบบเบื้องต้น คู่แข่ง ( Xbox 360 และ PlayStation 3 )
ซึ่งได้แนะนำรุ่นใหม่คอนโซลก่อนหน้านี้
เจอมันเป็นไปได้มากขึ้นที่จะแนะนำเทคโนโลยีในอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหว
.
2 เรา เพียงการตรวจสอบเงื่อนไขที่แค่
หนึ่งใน บริษัท เปิดตัวนวัตกรรมที่ต่อพ่วง
รายการตลาด โดยคู่แข่งอย่างมากสามารถเปลี่ยนแปลงปฏิกิริยาของผู้บริโภค
นวัตกรรมของผู้บุกเบิกในอุปกรณ์ต่อพ่วง เพราะนวัตกรรมอุปกรณ์ต่อพ่วง
อาจจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า

หลักนวัตกรรมการผลิตและตลาด คู่แข่งอาจไม่สามารถตอบสนอง
มากขึ้นอย่างรวดเร็ว นวัตกรรมดังกล่าว ในทางกลับกัน คู่แข่ง
อาจตอบสนองต่อนวัตกรรมของผู้บุกเบิกโดย
รวมนวัตกรรมเป็นผลิตภัณฑ์หลักของพวกเขาซึ่งอาจเสนอประโยชน์
สบาย ( เป็นผู้บริโภคไม่ได้
ต้องซื้อสององค์ประกอบที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของ
นวัตกรรม ) อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์หลังของเข้าช้า
เท่านั้นอาจจะรับประกันถ้าเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมได้รับการยอมรับของตลาดอุปกรณ์ต่อพ่วง

พอนอกจากนี้การวิจัยยังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกลึก
กลไกต้นแบบบทบาทของ detachability . ขณะที่เรา
รายงานในการศึกษา 2 , rni ที่เลือก แต่ไม่เลื่อน
ไม่ส่งผลในการยอมรับความตั้งใจที่สูงกว่า
- อุปกรณ์ต่อพ่วง ( เช่นตัวเลือกและถอดออกได้ ) เราวางตัว
ที่กลไกหนึ่งที่แผ่นอยู่บทบาทของ detachability
คือ การรับรู้ความเสี่ยง ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้เมื่อ rni คือ
ตัวเลือกและการบูรณาการภายในแกน , ผู้บริโภคจะ
ดูสินค้าทั้งหมดเป็นการตัดสินใจของวัตถุและอนุมานการพึ่งพาอาศัยกัน
ระหว่าง rni และส่วนที่เหลือของผลิตภัณฑ์
ส่วนประกอบ เช่น ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ rni ใดจะ
ถูกแมปลงระบบของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด เพิ่มเติมหรือ
กลไกทางเลือกสำหรับบทบาทของการรับรู้
detachability เป็นประโยชน์มันอาจเป็นไปได้ว่า เป็นคุณลักษณะที่แยกต่างหาก ( I ,
อุปกรณ์ต่อพ่วง ) ทำให้จิตใจไกล
นวัตกรรมและดังมากขึ้นที่พึงประสงค์ให้กับผู้บริโภค ( Goodman และ irmak
2013 ) การตรวจสอบกลไกเหล่านี้เป็นถนนสมควร

ในที่สุด สนับสนุนการวิจัย การวิจัยยังศึกษา
การเปลี่ยนแปลงชั่วคราวในผลของการตัดสินใจการยอมรับนวัตกรรมความเชื่อผู้บริโภค
สถานที่อุปกรณ์ต่อพ่วงอาจจะได้เปรียบกว่า
หลักความเชื่อในขั้นเริ่มต้นของการเป็น rni
เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความเข้าใจเกี่ยวกับคุณลักษณะและประโยชน์ของ rni

และที่เกี่ยวข้องประสิทธิภาพความเสี่ยงมีแนวโน้มที่จะได้รับสูงสุดในขั้นเบื้องต้น เวลา
เป็นไปตามผู้บริโภคเรียนรู้เกี่ยวกับ rni และพัฒนา
ความรู้ที่จำเป็นเพื่อให้เข้าใจคุณสมบัติและประโยชน์ .
ดังนั้นในขั้นตอนต่อมาของการยอมรับผลิตภัณฑ์ ( มีความไม่แน่นอน
ลดลง ) , อุปกรณ์ต่อพ่วง - อาจสูญเสียประโยชน์ของมัน
และในทางกลับกัน หลักความเชื่อที่จริงอาจได้เปรียบ
( เพราะมันช่วยลดความไม่สะดวกขององค์ประกอบหลาย
และอาจถูกมองว่าเป็นออกแบบ ทำความสะอาด ) นี้
จะเป็นถนนที่ดีสำหรับการวิจัยต่อไป โดยรวมแล้วเรา
หวังว่างานวิจัยนี้สเปอร์การสืบสวนเพิ่มเติมในบทบาทของนวัตกรรมในการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่และการยอมรับความเชื่อ