Map overlayThe combination of sever

Map overlay

The combination of several spatial datasets (points, lines, or polygons) creates a new output vector dataset, visually similar to stacking several maps of the same region. These overlays are similar to mathematical Venn diagram overlays. A union overlay combines the geographic features and attribute tables of both inputs into a single new output. An intersect overlay defines the area where both inputs overlap and retains a set of attribute fields for each. A symmetric difference overlay defines an output area that includes the total area of both inputs except for the overlapping area.

Data extraction is a GIS process similar to vector overlay, though it can be used in either vector or raster data analysis. Rather than combining the properties and features of both datasets, data extraction involves using a "clip" or "mask" to extract the features of one data set that fall within the spatial extent of another dataset.

In raster data analysis, the overlay of datasets is accomplished through a process known as "local operation on multiple rasters" or "map algebra," through a function that combines the values of each raster's matrix. This function may weigh some inputs more than others through use of an "index model" that reflects the influence of various factors upon a geographic phenomenon.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แผนที่ซ้อนทับการรวมกันของหลายพื้นที่ datasets (จุด เส้น หรือรูปหลายเหลี่ยม) สร้างการใหม่ออกเวกเตอร์ชุดข้อมูล เห็นคล้ายกับซ้อนหลายแผนที่ภูมิภาคเดียวกัน ซ้อนทับนี้จะคล้ายกับซ้อนทับทางคณิตศาสตร์เป็นแบบเวนน์ไดอะแกรม ซ้อนทับสหภาพรวมคุณสมบัติทางภูมิศาสตร์และตารางคุณลักษณะของอินพุตทั้งสองเป็นผลผลิตใหม่เดียว ซ้อนทับ intersect กำหนดบริเวณที่การทับซ้อนของอินพุตทั้งสอง และรักษาการตั้งค่าของแอตทริบิวต์สำหรับแต่ละ การซ้อนทับของผลต่างสมมาตรกำหนดพื้นที่แสดงผลที่มีพื้นที่รวมของอินพุตทั้งสองยกเว้นในพื้นที่ที่ทับซ้อนกันแยกข้อมูลเป็นกระบวนการ GIS กับเวกเตอร์ซ้อนทับ แม้ว่าจะสามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทั้ง vector หรือ raster แทนที่จะรวมคุณสมบัติและคุณลักษณะของ datasets สอง ดึงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ "คลิป" หรือ "รูปแบบ" การแยกคุณลักษณะของชุดข้อมูลที่อยู่ภายในขอบเขตพื้นที่ของชุดข้อมูลอื่นในการวิเคราะห์ข้อมูลแบบราสเตอร์ สำเร็จการซ้อนทับของ datasets ผ่านกระบวนการเรียกว่า "ท้องถิ่นดำเนินการในหลาย rasters" หรือ "แผนที่พีชคณิต ผ่านฟังก์ชันที่รวมค่าของเมทริกซ์แต่ละแบบราสเตอร์ ฟังก์ชันนี้อาจชั่งน้ำหนักปัจจัยการผลิตบางอย่างมากกว่าคนอื่นด้วยการใช้แบบ "ดัชนีจำลอง" ที่สะท้อนถึงอิทธิพลของปัจจัยต่าง ๆ ตามปรากฏการณ์ทางภูมิศาสตร์ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แผนที่แสดงข้อมูลการรวมกันของชุดข้อมูลเชิงพื้นที่หลาย (จุดเส้นหรือรูปหลายเหลี่ยม) สร้างชุดข้อมูลเวกเตอร์เอาท์พุทใหม่สายตาคล้ายกับหลายซ้อนแผนที่ของภูมิภาคเดียวกัน ซ้อนทับเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับเวนคณิตศาสตร์ซ้อนทับแผนภาพ ซ้อนทับสหภาพรวมคุณสมบัติทางภูมิศาสตร์และตารางแอตทริบิวต์ของปัจจัยการผลิตทั้งสองเป็น output งเกิ้ลใหม่ ซ้อนทับตัดกำหนดพื้นที่ที่ปัจจัยการผลิตทั้งสองซ้อนทับกันและยังคงมีชุดของเขตข้อมูลแอตทริบิวต์สำหรับแต่ละ ซ้อนทับแตกต่างสมมาตรกำหนดพื้นที่การส่งออกที่มีพื้นที่รวมของปัจจัยการผลิตทั้งยกเว้นสำหรับพื้นที่ที่ทับซ้อนกัน. สกัดข้อมูลเป็นกระบวนการ GIS คล้ายกับการแสดงข้อมูลเวกเตอร์แม้ว่ามันจะสามารถนำมาใช้ทั้งในเชิงภาพเวกเตอร์หรือการวิเคราะห์ข้อมูล แทนที่จะรวมคุณสมบัติและคุณสมบัติของชุดข้อมูลทั้งการสกัดข้อมูลเกี่ยวข้องกับการใช้ "คลิป" หรือ "หน้ากาก" ที่จะดึงคุณสมบัติของข้อมูลชุดหนึ่งที่ตกอยู่ในขอบเขตพื้นที่ของชุดข้อมูลที่อื่น. ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงภาพซ้อนทับของชุดข้อมูล สามารถทำได้โดยใช้กระบวนการที่เรียกว่า "การดำเนินงานท้องถิ่นในเชิงภาพหลาย" หรือ "แผนที่พีชคณิต" ผ่านฟังก์ชั่นที่รวมค่าของเมทริกซ์แรสเตอร์ของแต่ละคน ฟังก์ชั่นนี้อาจมีน้ำหนักปัจจัยการผลิตบางอย่างมากกว่าคนอื่น ๆ ผ่านการใช้ "รูปแบบดัชนี" ที่สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของปัจจัยต่างๆเมื่อปรากฏการณ์ทางภูมิศาสตร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แผนที่ทับซ้อน

การรวมกันของข้อมูลหลายมิติ ( จุด เส้น หรือรูปหลายเหลี่ยม ) สร้างชุดข้อมูลเวกเตอร์ที่ออกแบบใหม่ มองเห็นคล้ายกับการซ้อนแผนที่หลายภูมิภาคเดียวกัน ทับเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกับคณิตศาสตร์แผนภาพเวนน์ซ้อนทับ สหภาพซ้อนรวมคุณสมบัติทางภูมิศาสตร์และคุณลักษณะตารางของทั้งสองปัจจัยในซิงเกิ้ลใหม่ออกการกำหนดพื้นที่ที่ทั้งสองตัดกันวางซ้อนทับซ้อนกันและมีชุดของปัจจัยคุณลักษณะเขตข้อมูลสำหรับแต่ละ การแสดงผลต่างสมมาตรกำหนดผลผลิต พื้นที่ที่มีพื้นที่รวมของทั้งสองปัจจัย ยกเว้นพื้นที่ ทับซ้อน การสกัดข้อมูล

เป็นระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์กระบวนการคล้ายกับซ้อนทับเวกเตอร์ , แม้ว่าจะสามารถใช้ในการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือการวิเคราะห์ข้อมูลเวกเตอร์ ราสเตอร์มากกว่าการรวม คุณสมบัติและคุณลักษณะของข้อมูล , การสกัดข้อมูลเกี่ยวข้องกับการใช้ " ตัด " หรือ " หน้ากาก " เพื่อแยกคุณลักษณะของข้อมูลชุดหนึ่งที่ตกอยู่ภายในขอบเขตของข้อมูลเชิงพื้นที่อื่น

ในการวิเคราะห์ข้อมูลราสเตอร์ , การซ้อนทับของข้อมูลได้โดยผ่านกระบวนการที่เรียกว่า " ปฏิบัติการท้องถิ่นในหลาย ๆ rasters " หรือ " แผนที่พีชคณิต" ผ่านฟังก์ชันที่รวมคุณค่าของภาพแต่ละเมทริกซ์ ฟังก์ชันนี้อาจจะหนักกว่าคนอื่น ๆบางปัจจัยการผลิตผ่านการใช้งานของ " รูปแบบ " ดัชนีที่สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลของปัจจัยต่าง ๆ ตามปรากฏการณ์ทางภูมิศาสตร์