Two experiments were conducted to e

Two experiments were conducted to evaluate the feeding value of rancid rice bran in finishing pigs. In exp. 1, fresh (FRB), rancid (RRB), pelleted and extruded rice bran were used to determine stability and nutrient digestibility. The free fatty acid (FFA) values of FRB and RRB were 8.2 and 15.3%, respectively. Some of the FRB was pelleted (70 C) or extruded (110 C). In exp. 2, a total of 48 pigs (Landrace횞Yorkshire횞Duroc, 51.12 0.5 kg) were employed for a 56-d feeding trial with 3 treatments: Control (defatted rice bran+animal fat), 20% FRB (8.2% FFA), and 20% RRB (15.6% FFA). There was a significant difference (p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทดลองได้ดำเนินการประเมินค่าให้อาหารรำข้าว rancid ในสุกรที่สิ้นสุด ใน exp. 1 สด (FRB), rancid (RRB), รำข้าว pelleted และ extruded ถูกใช้ในการกำหนดเสถียรภาพและ digestibility ธาตุอาหาร ค่ากรดไขมันอิสระ (FFA) FRB และ RRB ได้ 15.3% และ 8.2 ตามลำดับ บาง FRB ได้ pelleted (70 C) หรือ extruded (110 C) ใน exp. 2 จำนวน 48 สุกร (Landrace횞Yorkshire횞Duroc, 51.12 0.5 กิโลกรัม) ได้ว่าจ้างสำหรับการทดลองให้อาหาร 56 d กับการรักษา 3: ควบคุม (รำข้าวสกัดไขมันทาง + สัตว์) 20% FRB (8.2% FFA), และ 20% RRB (15.6% FFA) มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (p < 0.05) % FFA ระหว่างรำข้าวดิบ และ pelleted และ extruded บน d 10 หลังจากเก็บข้อมูล พบล่างบน d 30 รำข้าว extruded (p < 0.05) % FFA จาก pelleted เรื่องแห้ง digestibility ได้สูง (p < 0.05) ในประมวลผล brans ข้าว (pelleted หรือ extruded) กว่ารำข้าวดิบ (FRB หรือ RRB) Digestibilities พลังงานและโปรตีนในรำข้าว extruded ได้สูงกว่า (p < 0.05) ในข้าวดิบ brans Digestibilities isoleucine, leucine และ phenylalanine ได้ต่ำ (p < 0.05) ใน RRB กว่า FRB สุกรได้รับอาหารที่ประกอบด้วย FRB เติบโตเร็ว (p < 0.05) และอัตราส่วนการแปลงอาหารแสดงดีกว่า (p < 0.05) มากกว่าผู้ที่ได้รับอาหารที่ประกอบด้วยรำข้าวสกัดไขมันทางหรือ RRB ลักษณะซากรวมทั้งการแต่งตัวความหนาเปอร์เซ็นต์และ backfat ไม่ได้รับผลกระทบ (p > 0.05) โดยบริการอาหาร พร้อมเพิ่มการเก็บ หมูดิบจาก RRB พบสูงกว่า (p < 0.05) thiobarbituric กรดสารปฏิกิริยา (TBARS) และเพอร์ออกไซด์ค่า (POV) กว่าจาก FRB ถูกเก็บไว้ที่ 1 C สัปดาห์ 3 เพิ่ม TBARS และ POV หมูสุกพบอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับหมูดิบไม่ rancidity รำข้าว เป็นเวลาเก็บผ่านไป ความสว่าง (L) ต่ำกว่า (p < 0.05) ใน RRB กว่า FRB แดง (a) สูงขึ้น (p < 0.05) ในการควบคุมกว่าข้าวรำกลุ่มถูกเก็บไว้ 2-3 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม มีไม่แตกต่าง (p > 0.05) ในแดง (a) ระหว่างกลุ่มรำข้าว 2 เบียดเบียน ให้อาหารรำข้าว rancid ให้กระทบกับประสิทธิภาพการเจริญเติบโตและคุณภาพเนื้อหมูในสุกรที่สิ้นสุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สองการทดลองได้ดำเนินการประเมินมูลค่าการให้อาหารของรำข้าวหืนในสุกรขุน ในประสบการณ์ 1, สด (FRB) หืน (RRB) เม็ดและรำข้าวอัดถูกนำมาใช้ในการตรวจสอบความมั่นคงและการย่อยสารอาหาร กรดไขมันอิสระ (FFA) ค่านิยมของ FRB และ RRB เป็น 8.2 และ 15.3% ตามลำดับ บางส่วนของ FRB ถูกเม็ด (70 C) หรืออัด (110 C) ในประสบการณ์ 2 รวม 48 หมู (แลนด์เรซ횞อร์กเชียร์횞 Duroc, 51.12 0.5 กิโลกรัม) มีการใช้สำหรับการทดลองให้อาหาร 56 d 3 การรักษา: การควบคุม (รำสกัด + ไขมันสัตว์) 20% FRB (8.2% FFA) และ 20% RRB (15.6% FFA) มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (p <0.05) FFA% ระหว่างดิบและเม็ดและรำข้าวอัดใน d 10 หลังการเก็บรักษา เมื่อวันที่ 30 งรำข้าวอัดแสดงให้เห็นว่าลดลง (p <0.05) FFA% กว่าเม็ดหนึ่ง การย่อยวัตถุแห้งสูง (p <0.05) Brans ข้าวประมวลผล (หรืออัดเม็ด) มากกว่ารำข้าวดิบ (FRB หรือ RRB) พลังงานและการย่อยโปรตีนในรำข้าวอัดสูง (p <0.05) มากกว่าผู้ที่อยู่ใน Brans ข้าวดิบ ย่อยของไอโซลิวซีน leucine และ phenylalanine ต่ำ (p <0.05) RRB กว่า FRB สุกรที่เลี้ยงด้วยอาหารที่มี FRB เติบโตเร็ว (p <0.05) และพบว่าอัตราการเปลี่ยนอาหารที่ดีกว่า (p <0.05) มากกว่าอาหารเลี้ยงผู้ที่มีรำสกัดหรือ RRB ลักษณะซากรวมทั้งร้อยละแต่งตัวและความหนาของไขมันที่ไม่ได้รับผลกระทบ (p> 0.05) โดยการรักษาอาหาร ด้วยการเพิ่มเวลาการเก็บรักษาเนื้อหมูดิบจาก RRB แสดงให้เห็นว่าสูงกว่า (p <0.05) thiobarbituric กรดสารปฏิกิริยา (TBARS) หรือมูลค่าเปอร์ออกไซด์ (POV) มากกว่าผู้ที่มาจาก FRB เมื่อเก็บไว้ที่ 1 C เป็นเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื้อหมูที่ปรุงสุกพบว่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วใน TBARS และ POV เมื่อเทียบกับเนื้อหมูดิบโดยไม่คำนึงถึงรำข้าวกลิ่นหืน เมื่อเวลาการจัดเก็บข้อมูลที่ผ่านสว่าง (L) ลดลง (p <0.05) RRB กว่า FRB สีแดง (ก) สูง (p <0.05) ในการควบคุมกว่ากลุ่มรำข้าวที่เก็บไว้เมื่อ 2-3 สัปดาห์ แต่มีไม่แตกต่างกัน (p> 0.05) สีแดง (ก) ระหว่างสองกลุ่มรำข้าว สรุปได้ว่าการให้อาหารรำข้าวหืนให้ผลกระทบเชิงลบต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพของเนื้อหมูในสุกรขุน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การทดลองที่ 1 ศึกษาคุณค่าของน้ำมันรำข้าวอาหารบูดในสุกรระยะขุน การทดลองที่ 1 ใหม่ ( frb ) , เหม็นหืน ( rrb ) , เม็ดและอัดน้ำมันรำข้าว ถูกใช้เพื่อตรวจสอบเสถียรภาพและความสามารถในการย่อยสารอาหาร กรดไขมันอิสระ FFA ) และค่าของ frb rrb เป็น 8.2 และ 15.3 ตามลำดับ บางส่วนของ frb เป็นเม็ด ( 70 องศาเซลเซียส ) หรืออัด ( 110 องศา ) การทดลองที่ 2รวม 48 หมู ( แลนด์เรซ횞ยอร์ค횞ดีที่สุด 51.12 , 0.5 กิโลกรัม ) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็น 56-d ให้อาหารทดลองมี 3 กรรมวิธีควบคุม ( รำข้าวไขมันสัตว์ ) , 20% frb ( 8.2 FFA ) , และ 20% rrb ( 15.6% FFA ) มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 ) ใน FFA % ระหว่างวัตถุดิบและอัดเม็ดและอัดน้ำมันรำข้าวใน D 10 หลังการเก็บรักษา ใน D 30 อัดน้ำมันรำข้าวให้ลดลง ( p < 005 ) FFA ) มากกว่าเม็ดหนึ่ง การย่อยได้ของวัตถุแห้งสูงกว่า ( P < 0.05 ) พบว่าเอนไซม์แปรรูปข้าว ( หรืออัดเม็ด ) มากกว่าน้ำมันรำข้าวดิบ ( frb หรือ rrb ) พลังงานและการย่อยได้ของโปรตีนในการอัดน้ำมันรำข้าวต่ำกว่า ( P < 0.05 ) พบว่าเอนไซม์สูงกว่าข้าวดิบ ส่วนการย่อยได้ของ isoleucine , ลูซีนและ phenylalanine ต่ำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 ) ใน rrb กว่า frb .สุกรที่ได้รับอาหารที่มี frb เติบโตเร็วขึ้น ( p < 0.05 ) และพบว่าอัตราการเปลี่ยนอาหารดีกว่า ( P < 0.05 ) กว่าอาหารที่มีรำข้าวหรือ rrb . รวมถึงการแต่งกายและลักษณะซาก เปอร์เซ็นต์ความหนาไขมันสันหลังไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P > 0.05 ) โดยการรักษาอาหาร กับการเพิ่มการเก็บเนื้อหมูดิบจาก rrb สูงกว่า ( P < 005 ) เท่ากับกรดปฏิกิริยาสาร ( ปกติ ) และค่าเปอร์ออกไซด์ ( POV ) สูงกว่าจาก frb เมื่อเก็บไว้ที่ 1 นาน 2 สัปดาห์ หมูสุกพบว่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วใน POV ปกติเมื่อเทียบกับเนื้อหมูดิบและไม่เหม็นหืนรำข้าว เป็นกระเป๋าเวลาผ่านไป ค่าความสว่าง ( L ) ลดลง ( P < 0.05 ) ใน rrb กว่า frb . สีแดง ( a ) สูงกว่า ( P < 005 ) ในการควบคุมกว่าน้ำมันรำข้าวกลุ่มเมื่อเก็บไว้ 2-3 อาทิตย์ พบว่า ไม่มีความแตกต่างกัน ( p > 0.05 ) ในอักเสบ ( ) ระหว่างสองน้ำมันรำข้าว กลุ่ม สรุป อาหารบูด น้ำมันรำข้าว ทำให้ส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพเนื้อสุกรในสุกรระยะขุน