Russia is one of the world's larges

Russia is one of the world's largest producers of energy, most of which it obtains from oil, natural gas and coal. The country's focus on those resources for production and export, which constitute 80% of foreign trade earnings, means it has paid little attention to renewable energy. Out of the 203 GW of electric generation capacity that Russia has, 44 GW comes from hydroelectricity, 307 MW from geothermal, 15 MW from wind and negligible amounts from other renewable sources.[11][12] In 2009, the Russian energy industry generated a total 992 TWh of electricity, 176 TWh of which was produced by hydroelectric power stations.[13] Some of Russia's hydroelectric power plants are outdated and are in need of additional investment, as shown by the accident at the Sayano-Shushenskaya HPP in 2009.[1]

President Dmitry Medvedev announced in May 2010 that the Russian government would strongly consider purchasing electricity generated from renewable energy sources in an attempt to encourage development of renewable energy. The government has plans for 4.5% of Russia's energy output to come from non-hydroelectric renewable energy sources.[5] Additionally, in November 2010, the government approved a US$300 billion program to make factories and buildings more energy efficient; it also announced plans to construct eight energy-efficient lamp production plants, promote recycling and support the construction of a hybrid car plant. Medvedev announced in late 2009 that he wanted to cut Russian energy consumption by 40% by 2020.[10][14] At the moment, development is slowed by low investment, economic instability, low public demand and low tariffs on heat and electricity.[15] Subsidies for natural gas are another obstacle to renewable energy development.[16]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกของพลังงาน ส่วนใหญ่ของมันที่ได้รับจากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน เน้นทรัพยากรที่ผลิตและส่งออก ซึ่งเป็น 80% ของกำไรทางการค้าต่างประเทศ ในประเทศหมายถึง จะได้จ่ายน้อยให้ความสนใจกับพลังงานทดแทน จาก 203 GW ของไฟฟ้ากำลังการผลิตที่รัสเซียมี 44 GW มาขนาด 307 MW จากใต้พิภพ 15 MW จากลมและประมาณระยะจากแหล่งอื่น ๆ ทดแทน[11][12] ในปี 2009 อุตสาหกรรมพลังงานรัสเซียสร้างตวาไต้หว่าน 992 รวมไฟฟ้า 176 ข้อตวาไต้หว่านซึ่งถูกผลิต โดยสถานีไฟฟ้า hydroelectric[13] รัสเซีย hydroelectric ไฟฟ้าจะล้าสมัย และบางที่ต้องลงทุนเพิ่มเติม แสดง โดยบังเอิญที่ HPP Sayano Shushenskaya ในปี 2009[1]เมดเวเดฟเป็นประธานาธิบดีประกาศในเดือน 2553 พฤษภาคมว่า รัฐบาลรัสเซียจะขอพิจารณาการซื้อไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานทดแทนในความพยายามที่จะส่งเสริมพัฒนาพลังงานทดแทน รัฐบาลมีแผนสำหรับ 4.5% ของผลผลิตพลังงานของรัสเซียมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนไม่ใช่ hydroelectric[5] นอกจากนี้ พฤศจิกายน รัฐบาลอนุมัติโปรแกรม 300 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้โรงงานและอาคารพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังประกาศแผนการสร้างโรงงานผลิตหลอดไฟประหยัดพลังงาน 8 รีไซเคิลส่งเสริม และสนับสนุนการก่อสร้างโรงงานรถยนต์ไฮบริด เมดเวเดฟประกาศในช่วงปลายปี 2552 ที่ จะต้องตัดการใช้พลังงานรัสเซีย โดย 40% โดย 2020[10][14] ในขณะนี้ พัฒนาจะชะลอตัวลงทุนต่ำ ความไม่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ต่ำความต้อง และภาษีศุลกากรต่ำความร้อนและไฟฟ้า[15] เงินอุดหนุนสำหรับก๊าซธรรมชาติเป็นอุปสรรคการพัฒนาพลังงานทดแทน[16]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกของพลังงานส่วนใหญ่ที่จะได้รับจากน้ำมันก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน โฟกัสของประเทศในทรัพยากรเหล่านั้นสำหรับการผลิตและการส่งออกซึ่งเป็น 80% ของรายได้การค้าต่างประเทศหมายความว่าจะมีการจ่ายเงินให้ความสนใจน้อยให้เป็นพลังงานทดแทน ออกจาก 203 GW ของกำลังการผลิตไฟฟ้าที่รัสเซียมี 44 GW มาจากไฟฟ้าพลังน้ำ 307 เมกะวัตต์จากความร้อนใต้พิภพ, 15 เมกะวัตต์จากลมและปริมาณเล็กน้อยจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ . [11] [12] ในปี 2009 อุตสาหกรรมพลังงานของรัสเซียสร้าง ทั้งหมด 992 TWh ไฟฟ้า 176 TWh ซึ่งถูกผลิตโดยสถานีไฟฟ้าพลังน้ำ. [13] บางส่วนของโรงไฟฟ้าพลังน้ำของรัสเซียจะล้าสมัยและอยู่ในความต้องการของการลงทุนเพิ่มเติมที่แสดงโดยอุบัติเหตุที่ Sayano-Shushenskaya HPP ในปี 2009 . [1] มิทรีเมดเวเดฟประธานาธิบดีประกาศในเดือนพฤษภาคม 2010 รัฐบาลรัสเซียจะขอพิจารณาการจัดซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนในความพยายามที่จะส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทน รัฐบาลมีแผนสำหรับ 4.5% ของรัสเซียส่งออกพลังงานที่จะมาจากการที่ไม่ได้พลังน้ำแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้ [5] นอกจากนี้ในเดือนพฤศจิกายนปี 2010 รัฐบาลได้รับการอนุมัติ US $ 300,000,000,000 โปรแกรมที่จะทำให้โรงงานและอาคารพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น. ก็ยังประกาศแผนการที่จะสร้างแปดหลอดไฟประหยัดพลังงานโรงงานผลิตส่งเสริมการรีไซเคิลและการสนับสนุนการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฮบริด เมดเวเดฟประกาศในช่วงปลายปี 2009 ว่าเขาต้องการที่จะลดการใช้พลังงานของรัสเซียได้ถึง 40% ในปี 2020 [10] [14] ในขณะที่การพัฒนาจะชะลอตัวจากการลงทุนต่ำและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจความต้องการของประชาชนในระดับต่ำและอัตราภาษีที่ต่ำในความร้อนและไฟฟ้า [15] เงินอุดหนุนสำหรับก๊าซธรรมชาติเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพลังงานทดแทนอื่น. [16]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รัสเซียเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกของพลังงาน ซึ่งส่วนใหญ่ได้จากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน ของประเทศที่มุ่งเน้นทรัพยากรเหล่านั้นเพื่อการผลิตและส่งออกที่เป็น 80% ของกำไรการค้าต่างประเทศ แสดงว่ามันจ่ายให้ความสนใจน้อยกับพลังงานทดแทน ออกของ 203 GW ของความจุไฟฟ้าที่รัสเซียได้ 44 GW มาจากพลังน้ำ ,307 เมกะวัตต์ จากความร้อนใต้พิภพ , 15 เมกะวัตต์ จากลม และ น้อย ปริมาณ จากแหล่งพลังงานทดแทนอื่น ๆ . [ 11 ] [ 12 ] ใน 2009 , อุตสาหกรรมพลังงานรัสเซียสร้างขึ้นทั้งหมด 992 ชั้นนำของการไฟฟ้า 176 ชั้นนำที่ผลิตโดยสถานีไฟฟ้าพลังน้ำ [ 13 ] บางส่วนของรัสเซียที่โรงงานไฟฟ้าพลังน้ำจะล้าสมัย และอยู่ใน ต้องลงทุนเพิ่มเติมดังจะเห็นได้จากการเกิดอุบัติเหตุที่ sayano shushenskaya เอชพีใน 2009 . [ 1 ]

ประธาน Dmitry Medvedev ประกาศในเดือนพฤษภาคม 2553 ว่า รัฐบาลรัสเซียจะพิจารณาการซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนในความพยายามที่จะส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทน รัฐบาลได้วางแผนสำหรับ 45% ของพลังงานที่ผลิตจากพลังน้ำรัสเซียมาแสวงหาแหล่งพลังงานทดแทน [ 5 ] นอกจากนี้ ในเดือนพฤศจิกายน 2010 , รัฐบาลได้รับการอนุมัติ US $ 300 พันล้าน โปรแกรม เพื่อให้โรงงานและอาคารพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ; นอกจากนี้ยังได้ประกาศแผนการที่จะสร้างแปดประหยัดพลังงานโคมไฟผลิตพืชส่งเสริมการรีไซเคิลและสนับสนุนการก่อสร้างโรงงาน รถไฮบริดจีนประกาศในปลายปี 2009 ว่า เขาต้องการที่จะตัดการใช้พลังงานของรัสเซีย โดย 40% โดย 2020 . [ 10 ] [ 14 ] ในขณะนี้การพัฒนาจะชะลอตัว โดยการลงทุน , เสถียรภาพทางเศรษฐกิจต่ำกว่าความต้องการของประชาชนและภาษีต่ำในความร้อนและไฟฟ้า [ 15 ] เงินอุดหนุนสำหรับก๊าซธรรมชาติเป็นอีกอุปสรรคในการพัฒนาพลังงานทดแทน [ 16 ]