The purposes of this study are to i

The purposes of this study are to identify similar and different characteristics
among middle and high school mathematics teachers who implement cooperative
learning (CL) frequently, identify the factors that motivate them in continual
employment of CL, and to examine how CL is implemented by frequent users of CL
(i.e., components of CL used, students' attitudes toward CL, and use of questions with
metacognitive cues). The study involves both qualitative and quantitative research
methods to answer the research questions.
Eight secondary mathematics teachers (N=8) from New York City schools who
are frequent users of cooperative learning were identified and interviewed, and the
teachers' classroom teaching was observed for five days. At the end of five-day
classroom observations, the survey on students' attitudes toward cooperative learning
was administered to the students in the participating teachers' classes. The responses
from the interviews, the classroom observations, and the surveys were transcribed,
coded, and analyzed to answer the research questions.
The results show that the high users of CL have congruent beliefs about the
teacher/student role and acquisition of knowledge as those proposed by educational
theories behind CL. The teachers have positive attitudes toward CL. The participants
work closely with their colleagues, and the principals support and encourage the use of
this learning methodology. Moreover, the teachers consider curriculum, studentability,
time constraint, and classroom management when planning for CL activities.
The factors that motivate the high users of CL in frequent implementation of this
learning method include the teachers' enjoyment in teaching with CL, the benefits the
teachers observe with the use of CL, the students' positive attitudes and enhanced
academic scores, and the school's educational policy.
The participating teachers utilize all of the essential components of cooperative
learning. The students have positive attitudes toward CL and toward the different
components of CL. For each teacher, the students have positive attitudes toward CL
and toward the different components of CL, with the exception of the Group
Processing component. Furthermore, on average the teachers incorporate fifty
questions with metacognitive cues in their classroom teaching.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้จะระบุลักษณะที่คล้ายกัน และแตกต่างกันระหว่างกลางและมัธยม ครูคณิตศาสตร์ ผู้นำสหกรณ์หรือไม่เรียนรู้ (CL) บ่อย ระบุปัจจัยที่จูงใจพวกเขาในอย่างต่อเนื่องจ้างงาน CL และตรวจสอบวิธีใช้ CL CL ผู้บ่อย(เช่น ใช้ส่วนประกอบของ CL นักเรียนเจตคติ CL และใช้คำถามด้วยmetacognitive สัญลักษณ์) การศึกษาวิจัยทั้งเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณที่เกี่ยวข้องวิธีการตอบคำถามวิจัยโรงเรียน 8 คณิตศาสตร์รองครู (N = 8) จากนิวยอร์กที่มีสหกรณ์เป็นผู้เรียนรู้ระบุ และ สัมภาษณ์ และห้องเรียนของครูที่สอนได้สังเกตห้าวัน ใน 5 วันสังเกตห้องเรียน แบบสำรวจเกี่ยวกับเจตคติของนักเรียนเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมไม่ดูแลนักเรียนในชั้นเรียนของครูที่เข้าร่วม การตอบสนองจากการสัมภาษณ์ การสังเกตห้องเรียน และแบบสำรวจได้ทับศัพท์รหัส และวิเคราะห์วิจัยตอบคำถามผลลัพธ์แสดงว่า ผู้ใช้ CL สูงมีแผงความเชื่อเกี่ยวกับการบทบาทครู/นักเรียนและความรู้ที่นำเสนอ โดยศึกษาการทฤษฎีเบื้องหลัง CL ครูมีเจตคติบวก CL ผู้เข้าร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานของพวกเขา และแบบสนับสนุน และส่งเสริมการใช้ วิธีการเรียนรู้นี้ นอกจากนี้ ครูพิจารณาหลักสูตร studentabilityการจำกัดเวลา และการจัดการห้องเรียนเมื่อวางแผนสำหรับกิจกรรม CLปัจจัยที่จูงใจผู้ใช้สูงของ CL ในงานบ่อยนี้เรียนรู้วิธีรวมกายของครูสอนกับ CL ประโยชน์การครูสังเกตใช้ CL ทัศนคติในเชิงบวกของนักเรียน และปรับปรุงคะแนนวิชาการ และนโยบายการศึกษาของโรงเรียนครูคอมพิวเตอร์ใช้ส่วนประกอบสำคัญของสหกรณ์ทั้งหมดเรียนรู้ นักเรียนมีทัศนคติบวก ต่อ CL และเปรียบ เทียบที่แตกต่างกันส่วนประกอบของ CL แต่ละครู นักเรียนมีเจตคติบวก CLและเปรียบ เทียบส่วนประกอบต่าง ๆ ของ CL ยกเว้นกลุ่มการประมวลผลส่วนประกอบ นอกจากนี้ โดยเฉลี่ยครูรวมห้าสิบคำถามกับสัญลักษณ์ metacognitive ในห้องเรียนของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้จะระบุลักษณะที่คล้ายกันและแตกต่างกัน
ในหมู่ครูคณิตศาสตร์โรงเรียนกลางและสูงที่ดำเนินการสหกรณ์
การเรียนรู้ (CL) บ่อยระบุปัจจัยที่กระตุ้นให้พวกเขาอย่างต่อเนื่องใน
การจ้างงานของ CL และเพื่อตรวจสอบว่า CL ดำเนินการโดยผู้ใช้บ่อย ของ CL
(เช่นองค์ประกอบของการใช้ CL ทัศนคติของนักเรียนที่มีต่อการ CL และการใช้คำถามที่มี
ตัวชี้นำอภิปัญญา) การศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยเชิงปริมาณและคุณภาพ
วิธีการที่จะตอบคำถามการวิจัย.
แปดครูคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษา (ยังไม่มี = 8) จากโรงเรียนในนครนิวยอร์กที่
มีผู้ใช้บ่อยของการเรียนแบบร่วมมือมีการระบุและการสัมภาษณ์และ
การเรียนการสอนในห้องเรียนของครูพบว่าสำหรับ ห้าวัน ในตอนท้ายของห้าวัน
สังเกตในชั้นเรียนในการสำรวจนักเรียนทัศนคติที่มีต่อการเรียนแบบร่วมมือ
เป็นยาให้กับนักเรียนในครูที่เข้าร่วมโครงการ 'เรียน การตอบสนอง
จากการสัมภาษณ์การสังเกตห้องเรียนและการสำรวจได้รับการคัดลอก
รหัสและวิเคราะห์เพื่อตอบคำถามการวิจัย.
ผลปรากฏว่าผู้ใช้สูงของ CL มีความเชื่อเกี่ยวกับการสอดคล้อง
ครู / บทบาทของนักเรียนและการเข้าซื้อกิจการของความรู้กับผู้ที่ ที่เสนอโดยการศึกษา
ทฤษฎีที่อยู่เบื้องหลัง CL ครูมีทัศนคติเชิงบวกต่อ CL เข้าร่วม
ทำงานอย่างใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานของพวกเขาและผู้บริหารการสนับสนุนและส่งเสริมการใช้
วิธีการเรียนรู้นี้ นอกจากนี้ครูผู้พิจารณาหลักสูตร studentability,
ข้อ จำกัด ด้านเวลาและการจัดการห้องเรียนเมื่อมีการวางแผนสำหรับกิจกรรม CL.
ปัจจัยที่กระตุ้นให้ผู้ใช้สูงของ CL บ่อยในการดำเนินการนี้
วิธีการเรียนรู้รวมถึงความสุขของครูในการเรียนการสอนที่มี CL ประโยชน์
ครูสังเกตที่มีการใช้ CL, นักเรียนทัศนคติที่ดีและเพิ่ม
คะแนนทางวิชาการและนโยบายการศึกษาของโรงเรียน.
ครูที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมดใช้ในองค์ประกอบที่สำคัญของความร่วมมือ
ในการเรียนรู้ นักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อ CL และต่อที่แตกต่างกัน
ของส่วนประกอบ CL สำหรับครูแต่ละนักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อ CL
และต่อองค์ประกอบที่แตกต่างของ CL มีข้อยกเว้นของกลุ่ม
องค์ประกอบการประมวลผล นอกจากนี้ครูผู้สอนโดยเฉลี่ยรวมห้าสิบ
คำถามกับตัวชี้นำอภิปัญญาในการสอนห้องเรียนของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะคล้ายกันและแตกต่างกัน
ตอนกลางและครูคณิตศาสตร์โรงเรียนมัธยมที่ใช้สหกรณ์
การเรียนรู้ ( CL ) บ่อย ศึกษาปัจจัย ที่กระตุ้นให้พวกเขาในการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง
ของ CL และเพื่อตรวจสอบว่า CL เป็นดำเนินการโดยผู้ใช้บ่อยของ C1
( เช่นส่วนประกอบของคลอรีนที่ใช้ ทัศนคติของนักศึกษาต่อคลอไรด์และการใช้คำถามกับ
คิวเมตา ) การศึกษาที่เกี่ยวข้องกับทั้งเชิงคุณภาพและวิธีวิจัยเชิงปริมาณ เพื่อตอบปัญหาวิจัย
.
ครูคณิตศาสตร์ระดับมัธยมศึกษา 8 ( n = 8 ) จากโรงเรียนนครนิวยอร์กที่
ผู้ใช้บ่อยของการเรียนแบบร่วมมือมีการระบุและสัมภาษณ์ และการสอน
ครูพบว่า 5 วัน ในตอนท้ายของห้าวัน
การสังเกต , การสำรวจทัศนคติของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนแบบร่วมมือ
ผู้เข้าร่วมโครงการครูนักเรียนในชั้นเรียน การตอบสนอง
จากการสัมภาษณ์ ในการสังเกตและการสำรวจถูกคัดลอก
รหัสและวิเคราะห์เพื่อตอบปัญหาวิจัย .
พบว่าผู้ใช้ของ CL สูง มีความเชื่อที่สอดคล้องกับ
บทบาทของครูต่อนักเรียนและแสวงหาความรู้เป็นผู้ที่เสนอโดยการศึกษา
ทฤษฎีที่อยู่เบื้องหลัง CL ครูมีเจตคติทางบวกต่อคลิกเข้าร่วม
ทำงานอย่างใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานและผู้บริหารสนับสนุน และส่งเสริมให้ใช้
วิธีการเรียนแบบนี้ นอกจากนี้ ครูควรพิจารณาหลักสูตร studentability
, จำกัดเวลาและการบริหารจัดการชั้นเรียนเมื่อมีการวางแผนสำหรับ CL กิจกรรม .
ปัจจัยที่กระตุ้นสูงผู้ใช้ของ CL ในการใช้งานบ่อยของนี้
การเรียนรวมถึงครูความเพลิดเพลินในการสอนกับ CL ประโยชน์
ครูสังเกตด้วยการใช้ CL แล้ว นักศึกษามีเจตคติที่ดีและเพิ่มคะแนน
วิชาการและนโยบายการศึกษา
ของโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรม ครูใช้ประโยชน์ทั้งหมดของส่วนประกอบสำคัญของ
การเรียนแบบร่วมมือ นักเรียนมีเจตคติทางบวกต่อ CL และต่อองค์ประกอบต่าง ๆของ CL
แต่ละครู นักเรียนมีเจตคติทางบวกต่อ C1
และต่อชิ้นส่วนที่แตกต่างกันของ CL , มีข้อยกเว้นของกลุ่ม
การประมวลผลองค์ประกอบ นอกจากนี้ เฉลี่ยครูรวมห้าสิบ
ถามกับทางคิวการสอนในชั้นเรียนของพวกเขา