structured interviewsthe second mai

structured interviews
the second main categorizing principle of interviews is the degree of structure in them, with one extreme being the 'structured interviews'.In this format,the researcher follows a pre-prepared,elaborate 'interview schedule/guide',which contains a list of questions to be covered closely with every interviewee,and the elicited information shares many of the advantages and disadvantages of questionnaire data.Such tightly controlled interviews ensure that the interviewee focuses on the target topic area and that the interview covers a well-defined domain,which makes the answers comparable across different respondents.The other side of the coin is,however,that in a structured interview there is generally little room for variation or spontaneity in the responses because the interviewer is to record the responses according to a coding scheme. There is also very little flexibility in the way questions are asked because by adopting a standardized format it is hoped that nothing will be left to chance. This interview type is appropriate when the researcher is aware of what he/she does not know and can frame questions that will yield the needed answers.That is,structured interviews are used in situations where a written questionnaire would in theory be adequate except that for some reason the written format is not feasible.
Unstructured interviews
The other extreme, the 'unstructured interview'(sometime also referred to as the 'ethnographic interview'),allows maximum flexibility to follow the interviewee in unpredictable directions, with only minimal interference from the research agenda. The intention is to create a create a relaxed atmosphere in which the respondent may reveal more than he/she would in formal contexts,with the interviewer assuming a listening role. No detailed interview guide is prepared in advance,although the researcher usually thinks of a few opening questions to elicit the interviewee'story.During the interview,the researcher may ask an occasional question for clarification and may give reinforcement feedback as any good communication partner would to keep the interview moving,but interruptions are kept to a minimum.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างหลักการจัดประเภทหลักที่สองของการสัมภาษณ์คือ ระดับของโครงสร้างในพวกเขา กับหนึ่งมากเป็น 'บทสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้าง' ในรูปแบบนี้ นักวิจัยตามเตรียม ไว้ล่วงหน้า ประณีต 'สัมภาษณ์กำหนดการ/คู่มือ' ซึ่งประกอบด้วยรายการของคำถามต้องครอบคลุมอย่างใกล้ชิดกับผู้ให้สัมภาษณ์ทุก และข้อมูล elicited หุ้นหลายข้อดีและข้อเสียของแบบสอบถามข้อมูล สัมภาษณ์ดังกล่าวควบคุมคับให้แน่ใจว่า ผู้ให้สัมภาษณ์เน้นพื้นที่หัวข้อเป้าหมาย และว่า การสัมภาษณ์ครอบคลุมดีที่กำหนดโดเมน ซึ่งทำให้คำตอบเปรียบเทียบข้ามผู้ตอบแตกต่างกัน อีกด้านหนึ่งของเหรียญคือ อย่างไรก็ตาม ในการสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้าง โดยทั่วไปห้องเล็ก ๆ สำหรับการเปลี่ยนแปลงหรือเป็นธรรมชาติในการตอบสนอง เพราะผู้สัมภาษณ์คือการ บันทึกการตอบสนองตามแบบที่เขียนโปรแกรม มีความยืดหยุ่นน้อยมากในการถามทางถามเนื่องจาก โดยใช้รูปแบบมาตรฐาน ก็หวังว่า ไม่มีอะไรจะเหลือโอกาส การสัมภาษณ์ชนิดนี้มีความเหมาะสมเมื่อนักวิจัยได้ตระหนักถึงสิ่งที่ตนไม่ทราบ และสามารถกรอบคำถามที่จะให้คำตอบที่จำเป็น นั่นคือ การสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างจะใช้ในสถานการณ์ที่แบบสอบถามเป็นลายลักษณ์อักษรในทฤษฎีจะเพียงพอยกเว้นว่าเหตุผลบาง รูปเขียนไม่กระทำสัมภาษณ์ไม่มีโครงสร้าง มาก ' ไม่มีโครงสร้างสัมภาษณ์ ' (บางครั้งเรียกว่าการ 'สัมภาษณ์ชาติพันธุ์'), ให้ความยืดหยุ่นสูงสุดตามผู้ให้สัมภาษณ์ในทิศทางที่คาดเดาไม่ได้ มีเพียงน้อยรบกวนจากวาระการวิจัย ความตั้งใจจะสร้างสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายฟังบทบาทสมมติว่าในซึ่ง ผู้ตอบอาจเปิดเผยมากกว่า ที่เขาจะอยู่ในบริบทที่เป็นทางการ กับผู้สัมภาษณ์ ไม่มีคู่มือรายละเอียดสัมภาษณ์จะเตรียมไว้ล่วงหน้า แม้ว่านักวิจัยมักจะคิดคำถามเปิดกี่ interviewee'story สร้างความ ในระหว่างการสัมภาษณ์ นักวิจัยอาจถามคำถามเป็นครั้งคราวเพื่อชี้แจง และอาจให้การเสริมแรงผลป้อนกลับพันธมิตรใด ๆ สื่อสารที่ดีเพื่อให้การสัมภาษณ์ที่ย้าย แต่รบกวนเก็บให้น้อยที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง
ที่สองหลักการจัดหมวดหมู่หลักของการสัมภาษณ์คือระดับของโครงสร้างในพวกเขามีหนึ่งมากเป็น 'โครงสร้าง interviews'.In รูปแบบนี้ผู้วิจัยได้ดังต่อไปนี้ก่อนเตรียมประณีต' สัมภาษณ์ / คู่มือ 'ซึ่งมี รายการของคำถามที่ได้รับการคุ้มครองอย่างใกล้ชิดกับทุกคนให้สัมภาษณ์และข้อมูลหุ้นออกมาจำนวนมากของข้อดีและข้อเสียของแบบสอบถาม data.Such แน่นสัมภาษณ์ควบคุมให้มั่นใจว่าผู้ให้สัมภาษณ์มุ่งเน้นไปที่พื้นที่หัวข้อเป้าหมายและการสัมภาษณ์ครอบคลุมโดเมนที่ดีที่กำหนด ซึ่งจะทำให้การตอบเปรียบที่แตกต่างกันทั่ว respondents.The ด้านอื่น ๆ ของเหรียญเป็นอย่างไรที่ในการให้สัมภาษณ์ที่มีโครงสร้างมีห้องเล็ก ๆ โดยทั่วไปสำหรับรูปแบบหรือความคล่องในการตอบสนองเพราะผู้สัมภาษณ์คือการบันทึกการตอบสนองตามโครงการการเข้ารหัส . นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นน้อยมากในคำถามวิธีการที่จะถามเพราะโดยการนำรูปแบบมาตรฐานก็หวังว่าจะไม่มีอะไรเหลือให้โอกาส สัมภาษณ์ชนิดนี้มีความเหมาะสมเมื่อนักวิจัยได้ตระหนักถึงสิ่งที่เขา / เธอไม่ทราบและสามารถกรอบคำถามว่าจะให้ผลผลิต answers.That จำเป็นคือสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างที่ใช้ในสถานการณ์ที่แบบสอบถามจะเขียนในทางทฤษฎีจะเพียงพอยกเว้นว่าสำหรับ ด้วยเหตุผลบางรูปแบบที่เขียนไม่เป็นไปได้.
สัมภาษณ์ที่ไม่มีโครงสร้าง
มาก ๆ 'การสัมภาษณ์ที่ไม่มีโครงสร้าง (บางครั้งเรียกว่าเป็น' ชาติพันธุ์วิทยาสัมภาษณ์ ') ช่วยให้ความยืดหยุ่นสูงสุดในการปฏิบัติตามสัมภาษณ์ในทิศทางที่คาดเดาไม่ได้ที่มีการรบกวนน้อยที่สุดเพียงจาก วาระการวิจัย ความตั้งใจที่จะสร้างสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายในการที่ผู้ถูกกล่าวหาอาจแสดงให้เห็นมากกว่าที่เขา / เธอจะอยู่ในบริบทที่เป็นทางการกับผู้สัมภาษณ์สมมติบทบาทฟัง ไม่มีคู่มือการสัมภาษณ์รายละเอียดที่เตรียมไว้ล่วงหน้าถึงแม้ว่านักวิจัยมักจะคิดว่าคำถามที่เปิดไม่กี่ที่จะล้วงเอา interviewee'story.During สัมภาษณ์ผู้วิจัยอาจจะถามคำถามบางครั้งสำหรับการชี้แจงและอาจให้ข้อเสนอแนะการเสริมแรงในฐานะหุ้นส่วนการสื่อสารใด ๆ ที่ดีจะ ให้ย้ายการสัมภาษณ์ แต่การหยุดชะงักจะถูกเก็บไว้ให้น้อยที่สุด