The internal consistency reliabilit

The internal consistency reliability of the scale was 0.90. The test–retest reliability was determined using data from 67 participants who were administered the Q-LES-Q-SF on two occasions. At 0.88, the intraindividual correlation coefficient was markedly high, showing good reproducibility.

All items were significantly correlated to the total score, and the correlations ranged between 0.54 and 0.79 (Table 3). The latest uncommitted item on overall life
satisfaction showed a correlation of 0.73 to the total. Finally, the Q-LES-Q-SF was correlated to the PCS-12, MCS-12, and SF-12 total score at values of 0.65, 0.74, and 0.77, respectively (Table 3).

Independent sample t tests were conducted to evaluate the hypothesis that there was a difference in the mean QoL Q-LES-Q-SF scores between alcohol and opiate substance users. Alcohol-dependent outpatients presented signifi- cantly higher scores than did opiate-dependent outpatients (p = 0.002). Patients with somatic or psychiatric comor- bidities presented a poorer QoL than did those without comorbidities (52.6 vs 62.1; p = 0.01). Neither the dura- tion of addiction nor gender was significantly related to the Q-LES-Q-SF score.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความน่าเชื่อถือสอดคล้องภายในของวัดคือ 0.90 ความน่าเชื่อถือของการทดสอบซ้ำถูกกำหนดโดยใช้ข้อมูลจาก 67 ผู้เข้าร่วมที่เป็นยา Q-les-Q-SF ครั้งที่สอง ที่ 0.88 ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ intraindividual อยู่ในระดับสูงอย่างเห็นได้ชัดแสดงให้เห็นการทำสำเนาที่ดี

รายการทั้งหมดที่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับคะแนนรวมและความสัมพันธ์อยู่ในช่วงระหว่าง 0.54 และ 0.79 (ตารางที่ 3) รายการปราศจากข้อผูกมัดล่าสุดเกี่ยวกับชีวิตโดยรวม
ความพึงพอใจมีความสัมพันธ์ 0.73 ไปทั้งหมด สุดท้าย Q-les-Q-SF มีความสัมพันธ์กับ PCS-12, MCS-12 และ SF-12 คะแนนรวมในค่า 0.65, 0.74 และ 0.77 ตามลำดับ (ตารางที่ 3)

การทดสอบตัวอย่าง T อิสระได้ดำเนินการในการประเมินสมมติฐานที่ว่ามีความแตกต่างในค่าเฉลี่ยคะแนนคุณภาพชีวิต Q-les-Q-SF ระหว่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาเสพติดผู้ใช้สารเสพติด ผู้ป่วยนอกติดสุราที่นำเสนออย่างมีนัยสำคัญได้คะแนนสูงกว่าผู้ป่วยนอกได้ขึ้นอยู่กับยาเสพติด (p = 0.002) ผู้ป่วยที่มี bidities comor- ร่างกายหรือทางจิตเวชนำเสนอคุณภาพชีวิตด้อยกว่าผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัว (52.6 VS 62.1; p = 0.01) ทั้งการติดยาเสพติดของ dura- มิได้เพศมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับคะแนน Q-les-Q-SF

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความเที่ยงแบบความสอดคล้องภายในของขนาดคือ 1 . ทดสอบทดสอบความน่าเชื่อถือและใช้วิเคราะห์ข้อมูลจาก 67 ผู้ถูกทดสอบ q-les-q-sf สองโอกาส ที่ 0.88 , ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ภายในตัวบุคคลอย่างสูง แสดงดี คาร์บอนรายการทั้งหมดมีความสัมพันธ์กับคะแนนรวม และสหสัมพันธ์อยู่ระหว่าง 0.54 และ 0.79 ( ตารางที่ 3 ) ล่าสุดไม่ได้ผูกมัดรายการในชีวิตโดยรวมมีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจของ 43 ทั้งหมด ในที่สุด q-les-q-sf มีความสัมพันธ์กับ pcs-12 mcs-12 , และ sf-12 รวมคะแนนที่เท่ากับ 0.65 , 0.74 และ 0.77 ตามลำดับ ( ตารางที่ 3 )Independent Sample T การทดสอบมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินสมมติฐานว่ามีความแตกต่างในค่าเฉลี่ยคะแนนคุณภาพชีวิต q-les-q-sf ระหว่างแอลกอฮอล์และผู้ใช้สารยา ติดสุราผู้ป่วยนอกนำเสนอ signifi คะแนนลดลงอย่างมีนัยสําคัญเมื่อสูงกว่าทำฝิ่น แบบผู้ป่วยนอก ( p = 0.002 ) ผู้ป่วยทางกายหรือทางจิต comor - bidities มอบคุณภาพชีวิตด้อยกว่าผู้ที่ไม่มีโรคร่วม ( 52.6 vs 62.1 ; p = 0.01 ) ทั้ง Dura - tion ของการติดและเพศมีความสัมพันธ์กับ q-les-q-sf คะแนน