ผลิตภัณฑ์ (Product)ผลกระทบด้านบวก-

ผลิตภัณฑ์ (Product)
ผลกระทบด้านบวก
- มีข้อตกลงที่ช่วยเพิ่มมูลค่าและความน่าเชื่อถือของสินค้า ซึ่งสามารถพัฒนาให้กลายเป็นมาตรฐานและลักษณะเฉพาะตัวของสินค้านั้นๆ เพื่อใช้เป็นข้อได้เปรียบในการทำการตลาด นอกจากนี้แล้วยังช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมรากหญ้า (SMEs) สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน รักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยว ตัวอย่างของข้อตกลงนี้ได้แก่ ข้อตกลงว่าด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ( Geographical Indications: GI ) ซึ่งหมายถึง ชื่อ สัญลักษณ์ หรือสิ่งอื่นใดที่ใช้เรียกหรือใช้แทนแหล่งภูมิศาสตร์ และที่สามารถบ่งบอกว่าสินค้าที่เกิดจากแหล่งภูมิศาสตร์นั้นเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มีชื่อเสียง หรือคุณลักษณะเฉพาะของแหล่งภูมิศาสตร์ดังกล่าว เช่น ไหมไทย ส้มโอนครชัยศรี ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ไข่เค็มไชยา เป็นต้น
- ส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนาสินค้าให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากมีข้อกำหนดด้านมาตรฐานของสินค้าที่จะส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ และมาตรฐานเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็จะมีเกณฑ์ที่สูงกว่ามาตรฐานภายในประเทศ ดังนั้นการที่มีข้อตกลงเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้สามารถตอบสนองความต้องการตามมารตฐานของแต่ละประเทศได้แล้ว ยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มคุณภาพและความน่าเชื่อถือของสินค้าได้อีกด้วย ตัวอย่างของข้อกำหนดมาตรฐานสินค้า ได้แก่ มาตรการสุขอนามัย (Sanitary and Phytosanitary Measures: SPS) มาตรฐานด้านการผลิต (International Organization for Standardization: ISO) และมาตรฐานแรงงาน(Social Accountability: SA) เป็นต้น
- มีข้อตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้า หรือ TRIPs (Trade-Related Intellectual Properties) มีบทบัญญัติที่ให้ความคุ้มครองเทคโนโลยีที่มีการคิดค้นใหม่ผ่านระบบสิทธิบัตร (Patent) ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาสิ่งแวดล้อม (Environmental Friendly Technology) ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาสินค้าหรือบริการใหม่ๆ และความคุ้มครองนี้ก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ผลิตในการที่จะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภคทั่วโลก
ผลกระทบด้านลบ
- สินค้าบางประเภทที่ผลิตในประทศไทย แต่มีการใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เป็นชื่อของ
ประเทศอื่นอาจจะถูกฟ้องร้องได้ ตามข้อตกลงว่าด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ( Geographical Indications: GI ) เช่น ไส้กรอกเวียนนา เป็นต้น
มาตรฐานสินค้าที่สูง อาจถูกนำมาใช้ในการกีดกันทางด้านการค้า เนื่องจาก
มาตรฐานสินค้าที่สูง ต้นทุนในการผลิตสินค้าก็จะสูงตามไปด้วย ส่งผลให้ขาดความได้เปรียบทางด้านต้นทุน (Low Cost Leader)

ราคา (Price)
ผลกระทบด้านบวก
- การได้รับความคุ้มครองด้านการกีดกันทางด้านภาษี (Tariff Barrier) จะสามารถเพิ่มขีดความสามาถในการแข่งขันด้านราคาได้ เมื่อกำแพงภาษีไม่สูงก็สามารถตั้งราคาขายสินค้าได้ในราคาที่ต่ำ ในทางตรงกันข้ามเมื่อกำแพงภาษีสูงก็จะส่งผลให้ราคาขายสินค้าสูงเพิ่มตามไปด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง ดังนั้นการได้รับความคุ้มครองการกีดกันทางด้านภาษีทำให้สามารถตั้งราคาขายสินค้าได้อย่างเหมาะสม ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2548 องค์คณะอุทธรณ์ขององค์การการค้าโลก (WTO Appellate Body: AB) ได้ตัดสินให้ไทยชนะคดีที่ฟ้องร้องสหภาพยุโรปโดยได้กล่าวหาว่าสหภาพยุโรปทำผิดพันธกรณีของการเจรจา รอบอุรุกวัยที่เปลี่ยนพิกัดอัตราภาษีศุลกากรให้สินค้าไก่แช่แข็งหมักเกลือของไทย จากพิกัด 02.10 เป็นพิกัด 02.07 ทำให้ไทยเสียภาษีสูงขึ้นจากเดิมร้อยละ 15 เป็นร้อยละ 53 ด้วยเหตุนี้องค์คณะอุทธรณ์ของ WTO จึงได้เสนอให้องค์กรระงับข้อพิพาท (Dispute Settlement Body : DSB) มีคำสั่งให้สหภาพยุโรปแก้ไขการเก็บภาษีสินค้าไก่แช่แข็งหมักเกลือจากไทยให้สอดคล้องกับพันธกรณีดังกล่าว โดยต้องลดภาษีนำเข้าไก่หมักเกลือจากไทยจากร้อยละ 53 เป็น ร้อยละ 15 ตามเดิม เป็นต้น
- ข้อตกลงขององค์การการค้าระหว่างประเทศหลายประการ ส่งเสริมให้ต้นทุนวัตถุดิบลดลง เนื่องจากตลาดของผู้ขายปัจจัยการผลิตกว้างมากขึ้น ทำผู้ซื้อปัจจัยการผลิตให้สามารถเพิ่มอำนาจการต่อรองได้ทั้งคุณภาพและราคาของวัตถุดิบ ทำให้สามารถเพิ่มขีดความสามาถในการแข่งขันด้านราคาได้
- ข้อตกลงขององค์การการค้าระหว่างประเทศหลายประการ ทำให้ตลาดของ
ผู้บริโภคกว้างมากขึ้น ผู้ผลิตจึงต้องผลิตสินค้าให้มากขึ้นเพื่อสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) ทำให้สามารถเพิ่มขีดความสามาถในการแข่งขันด้านราคาได้
ผลกระทบด้านลบ
- มาตรฐานสินค้าที่สูง อาจส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตสินค้าสูงตามไปด้วย ส่งผลให้
ขาดความได้เปรียบทางด้านต้นทุน (Low Cost Leader) และทำให้ความสามาถในการแข่งขันด้านราคาลดลง
- การเปิดเสรีทางการค้าภายใต้ข้อตกลงขององค์การการค้าโลก ทำให้ทุกคนมีความ
เสมอภาคกันในหลายๆ ด้าน ทำให้ผู้ผลิตรายใหญ่ๆ มีความได้เปรียบผู้ผลิตรายย่อย เช่น การได้เปรียบจากการประหยัดต่อขนาด จะทำให้ผู้ผลิตรายใหญ่มีความได้เปรียบด้านต้นทุนมากกว่า จึงสามารถตั้งราคาได้ถูกกว่า ซึ่งในระยะยาวอาจเกิดสงครามราคา และผู้ผลิตรายย่อยอาจหายไปจากตลาด ในที่สุดอาจเกิดการผูกขาดตลาดของผู้ผลิตรายใหญ่ได้
- ข้อยกเว้นเกี่ยวกับการอุดหนุนสินค้าบางประเภท ส่งผลให้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศมีราคาขายที่ต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง ทำให้เกิดการกีดกันทางการค้า เช่น การอุดหนุนสินค้าเกษตรของประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ส่งผลต่อเกษตรกรของไทย เนื่องจากสินค้าเกษตรที่ไทยส่งออกไปขายยังประเทศเหล่านี้ไม่สามารถแข่งขันด้านราคากับสินค้าที่ผลิตภายในประเทศได้ เนื่องจากเกษตรกรในประเทศเหล่านี้ได้รับการอุดหนุน ทำให้สามารถขายสินค้าได้ในราคาที่ถูกกว่าต้นทุนที่แท้จริงและยังสามารถผลิตออกมาได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย

ช่องทางการจัดจำหน่าย (Place)
ผลกระทบด้านบวก
- การเปิดเสรีทางการค้าภายใต้ข้อตกลงขององค์การการค้าโลก ทำให้ตลาดของผู้บริโภคมีขนาดใหญ่ขึ้น ช่องทางในการจัดจำหน่ายก็เพิ่มมากขึ้นด้วย นอกจากนี้การที่สมาชิกแต่ละประเทศมีพันธกรณีที่จะต้องลดภาษี และลดหรือยกเลิกมาตรการการกีดกันทางการค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร จึงเท่ากับเป็นการลดอุปสรรคและเพิ่มช่องทางในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่างๆ จากเดิมอาจจะเพียงแค่การจำหน่ายภายในประเทศ แต่ภายได้ข้อตกลงการค้าเสรี ทำให้สามารถขยายออกสู่ช่องทางการจำหน่าย

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลิตภัณฑ์ (สินค้า)ผลกระทบด้านบวก-มีข้อตกลงที่ช่วยเพิ่มมูลค่าและความน่าเชื่อถือของสินค้าซึ่งสามารถพัฒนาให้กลายเป็นมาตรฐานและลักษณะเฉพาะตัวของสินค้านั้น ๆ เพื่อใช้เป็นข้อได้เปรียบในการทำการตลาดนอกจากนี้แล้วยังช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมรากหญ้า (SMEs) สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นรวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวตัวอย่างของข้อตกลงนี้ได้แก่ข้อตกลงว่าด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์: GI) ซึ่งหมายถึงชื่อสัญลักษณ์หรือสิ่งอื่นใดที่ใช้เรียกหรือใช้แทนแหล่งภูมิศาสตร์และที่สามารถบ่งบอกว่าสินค้าที่เกิดจากแหล่งภูมิศาสตร์นั้นเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมีชื่อเสียงหรือคุณลักษณะเฉพาะของแหล่งภูมิศาสตร์ดังกล่าวเช่นไหมไทยส้มโอนครชัยศรีข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ไข่เค็มไชยาเป็นต้น-ส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนาสินค้าให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอเนื่องจากมีข้อกำหนดด้านมาตรฐานของสินค้าที่จะส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศและมาตรฐานเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็จะมีเกณฑ์ที่สูงกว่ามาตรฐานภายในประเทศดังนั้นการที่มีข้อตกลงเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้สามารถตอบสนองความต้องการตามมารตฐานของแต่ละประเทศได้แล้วยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มคุณภาพและความน่าเชื่อถือของสินค้าได้อีกด้วยตัวอย่างของข้อกำหนดมาตรฐานสินค้าได้แก่มาตรการสุขอนามัย (สุขาภิบาล และมาตรการสุขอนามัยพืชจาก: SPS) มาตรฐานด้านการผลิต (องค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน: ISO) และมาตรฐานแรงงาน (ความรับผิดชอบต่อสังคม: SA) เป็นต้น-มีข้อตกลงเรื่องกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้าหรือเดินทาง (ที่เกี่ยวข้องกับการค้าทรัพย์สินทางปัญญา) มีบทบัญญัติที่ให้ความคุ้มครองเทคโนโลยีที่มีการคิดค้นใหม่ผ่านระบบสิทธิบัตร (สิทธิบัตร) (เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมเป็นมิตร) ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาสินค้าหรือบริการใหม่ ๆ และความคุ้มครองนี้ก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ผลิตในการที่จะสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับผู้บริโภคทั่วโลกผลกระทบด้านลบ-สินค้าบางประเภทที่ผลิตในประทศไทยแต่มีการใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เป็นชื่อของประเทศอื่นอาจจะถูกฟ้องร้องได้ ตามข้อตกลงว่าด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ( Geographical Indications: GI ) เช่น ไส้กรอกเวียนนา เป็นต้นมาตรฐานสินค้าที่สูง อาจถูกนำมาใช้ในการกีดกันทางด้านการค้า เนื่องจากมาตรฐานสินค้าที่สูง ต้นทุนในการผลิตสินค้าก็จะสูงตามไปด้วย ส่งผลให้ขาดความได้เปรียบทางด้านต้นทุน (Low Cost Leader) ราคา (Price)ผลกระทบด้านบวก- การได้รับความคุ้มครองด้านการกีดกันทางด้านภาษี (Tariff Barrier) จะสามารถเพิ่มขีดความสามาถในการแข่งขันด้านราคาได้ เมื่อกำแพงภาษีไม่สูงก็สามารถตั้งราคาขายสินค้าได้ในราคาที่ต่ำ ในทางตรงกันข้ามเมื่อกำแพงภาษีสูงก็จะส่งผลให้ราคาขายสินค้าสูงเพิ่มตามไปด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง ดังนั้นการได้รับความคุ้มครองการกีดกันทางด้านภาษีทำให้สามารถตั้งราคาขายสินค้าได้อย่างเหมาะสม ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2548 องค์คณะอุทธรณ์ขององค์การการค้าโลก (WTO Appellate Body: AB) ได้ตัดสินให้ไทยชนะคดีที่ฟ้องร้องสหภาพยุโรปโดยได้กล่าวหาว่าสหภาพยุโรปทำผิดพันธกรณีของการเจรจา รอบอุรุกวัยที่เปลี่ยนพิกัดอัตราภาษีศุลกากรให้สินค้าไก่แช่แข็งหมักเกลือของไทย จากพิกัด 02.10 เป็นพิกัด 02.07 ทำให้ไทยเสียภาษีสูงขึ้นจากเดิมร้อยละ 15 เป็นร้อยละ 53 ด้วยเหตุนี้องค์คณะอุทธรณ์ของ WTO จึงได้เสนอให้องค์กรระงับข้อพิพาท (Dispute Settlement Body : DSB) มีคำสั่งให้สหภาพยุโรปแก้ไขการเก็บภาษีสินค้าไก่แช่แข็งหมักเกลือจากไทยให้สอดคล้องกับพันธกรณีดังกล่าว โดยต้องลดภาษีนำเข้าไก่หมักเกลือจากไทยจากร้อยละ 53 เป็น ร้อยละ 15 ตามเดิม เป็นต้น- ข้อตกลงขององค์การการค้าระหว่างประเทศหลายประการ ส่งเสริมให้ต้นทุนวัตถุดิบลดลง เนื่องจากตลาดของผู้ขายปัจจัยการผลิตกว้างมากขึ้น ทำผู้ซื้อปัจจัยการผลิตให้สามารถเพิ่มอำนาจการต่อรองได้ทั้งคุณภาพและราคาของวัตถุดิบ ทำให้สามารถเพิ่มขีดความสามาถในการแข่งขันด้านราคาได้- ข้อตกลงขององค์การการค้าระหว่างประเทศหลายประการ ทำให้ตลาดของผู้บริโภคกว้างมากขึ้น ผู้ผลิตจึงต้องผลิตสินค้าให้มากขึ้นเพื่อสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) ทำให้สามารถเพิ่มขีดความสามาถในการแข่งขันด้านราคาได้ผลกระทบด้านลบ- มาตรฐานสินค้าที่สูง อาจส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตสินค้าสูงตามไปด้วย ส่งผลให้ขาดความได้เปรียบทางด้านต้นทุน (Low Cost Leader) และทำให้ความสามาถในการแข่งขันด้านราคาลดลง- การเปิดเสรีทางการค้าภายใต้ข้อตกลงขององค์การการค้าโลก ทำให้ทุกคนมีความเสมอภาคกันในหลายๆ ด้าน ทำให้ผู้ผลิตรายใหญ่ๆ มีความได้เปรียบผู้ผลิตรายย่อย เช่น การได้เปรียบจากการประหยัดต่อขนาด จะทำให้ผู้ผลิตรายใหญ่มีความได้เปรียบด้านต้นทุนมากกว่า จึงสามารถตั้งราคาได้ถูกกว่า ซึ่งในระยะยาวอาจเกิดสงครามราคา และผู้ผลิตรายย่อยอาจหายไปจากตลาด ในที่สุดอาจเกิดการผูกขาดตลาดของผู้ผลิตรายใหญ่ได้- ข้อยกเว้นเกี่ยวกับการอุดหนุนสินค้าบางประเภท ส่งผลให้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศมีราคาขายที่ต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง ทำให้เกิดการกีดกันทางการค้า เช่น การอุดหนุนสินค้าเกษตรของประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ส่งผลต่อเกษตรกรของไทย เนื่องจากสินค้าเกษตรที่ไทยส่งออกไปขายยังประเทศเหล่านี้ไม่สามารถแข่งขันด้านราคากับสินค้าที่ผลิตภายในประเทศได้ เนื่องจากเกษตรกรในประเทศเหล่านี้ได้รับการอุดหนุน ทำให้สามารถขายสินค้าได้ในราคาที่ถูกกว่าต้นทุนที่แท้จริงและยังสามารถผลิตออกมาได้เป็นจำนวนมากอีกด้วย

ช่องทางการจัดจำหน่าย (Place)
ผลกระทบด้านบวก
- การเปิดเสรีทางการค้าภายใต้ข้อตกลงขององค์การการค้าโลก ทำให้ตลาดของผู้บริโภคมีขนาดใหญ่ขึ้น ช่องทางในการจัดจำหน่ายก็เพิ่มมากขึ้นด้วย นอกจากนี้การที่สมาชิกแต่ละประเทศมีพันธกรณีที่จะต้องลดภาษี และลดหรือยกเลิกมาตรการการกีดกันทางการค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร จึงเท่ากับเป็นการลดอุปสรรคและเพิ่มช่องทางในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่างๆ จากเดิมอาจจะเพียงแค่การจำหน่ายภายในประเทศ แต่ภายได้ข้อตกลงการค้าเสรี ทำให้สามารถขยายออกสู่ช่องทางการจำหน่าย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลิตภัณฑ์ (Product)
ผลกระทบด้านบวก
- ย่อม (SMEs) สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นรวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวตัวอย่างของข้อตกลงนี้ ได้แก่ (บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์: GI) ซึ่งหมายถึงชื่อสัญลักษณ์ มีชื่อเสียง เช่นไหมไทยส้มโอนครชัยศรีข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ไข่เค็มไชยาเป็นต้น
- ตัวอย่างของข้อกำหนดมาตรฐานสินค้า ได้แก่ มาตรการสุขอนามัย (สุขาภิบาลและสุขอนามัยพืชมาตรการ: SPS) มาตรฐานด้านการผลิต (องค์การระหว่างประเทศเพื่อการมาตรฐาน: ISO) และมาตรฐานแรงงาน (ความรับผิดชอบทางสังคม: SA) เป็นต้น
- หรือทริป (การค้าที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญา) (สิทธิบัตร) (เทคโนโลยีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม) สินค้าบางประเภทที่ผลิตในประทศไทย (บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์: GI) ไส้กรอกเวียนนาเช่นเป็นต้นมาตรฐานสินค้าที่สูง เนื่องจากมาตรฐานสินค้าที่สูง (ผู้นำต้นทุนต่ำ) ราคา (Price) ผลกระทบด้านบวก- (Tariff Barrier) ตัวอย่างเช่นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2548 องค์คณะอุทธรณ์ขององค์การการค้าโลก (WTO อุทธรณ์เลือด: AB) จากพิกัด 02,10 02,07 เป็นพิกัด 15 เป็นร้อยละ 53 ด้วยเหตุนี้องค์คณะอุทธรณ์ขององค์การการค้าโลกจึงได้เสนอให้องค์กรระงับข้อพิพาท (ข้อพิพาทร่างกาย Settlement: DSB) 53 เป็นร้อยละ 15 ตามเดิมเป็นต้น- ส่งเสริมให้ต้นทุนวัตถุดิบลดลง ของตลาดทำให้ผู้บริโภคกว้างมากขึ้น ทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) มาตรฐานสินค้าที่สูง (ผู้นำต้นทุนต่ำ) ทุกคนทำให้มีความเสมอภาคกันในหลาย ๆ ด้านทำให้ผู้ผลิตรายใหญ่ ๆ มีความได้เปรียบผู้ผลิตรายย่อยเช่นหัวเรื่อง: การได้เปรียบจากเนชั่หัวเรื่อง: การประหยัดต่อขนาด จึงสามารถตั้งราคาได้ถูกกว่าซึ่งในระยะยาวอาจเกิดสงครามราคาและผู้ผลิตรายย่อยอาจหายไปจากตลาด ทำให้เกิดการกีดกันทางการค้าเช่น ส่งผลต่อเกษตรกรของไทย (สถานที่) ผลกระทบด้านบวก- ที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร แต่ภายได้ข้อตกลงการค้าเสรี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลิตภัณฑ์ ( สินค้า )

ผลกระทบด้านบวก- มีข้อตกลงที่ช่วยเพิ่มมูลค่าและความน่าเชื่อถือของสินค้าซึ่งสามารถพัฒนาให้กลายเป็นมาตรฐานและลักษณะเฉพาะตัวของสินค้านั้นๆเพื่อใช้เป็นข้อได้เปรียบในการทำการตลาด( SMEs ) สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นรวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวตัวอย่างของข้อตกลงนี้ได้แก่ข้อตกลงว่าด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ( สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ :