Starch-based composite foams (SCFs)

Starch-based composite foams (SCFs) were successfully prepared by baking starch-based batters incorporating either jute or flax fibers inside a hot mold. The effect of moisture content on the mechanical properties of SCFs was investigated. Both the flexural strength and the flexural modulus of elasticity appeared to be markedly improved with addition of 5–10% by weight of the fibers. At a fixed fiber content of 10% by weight, both the flexural strength and the flexural modulus of elasticity were found to increase with increasing aspect ratio of the fibers. The improvement in the mechanical properties of SCFs was attributable to the strong interaction between fibers and the starch matrix, as evidenced by a series of scanning electron micrographs being taken on SCF fracture surface. Between jute- and flax-reinforced SCFs, jute fibers had a greater reinforcing effect than flax fibers did. Orientation of fibers was shown to have a strong effect on both the flexural strength and the flexural modulus of elasticity of SCFs, with the highest values being observed on specimens having fibers oriented in the longitudinal direction (fibers oriented perpendicularly to the crack propagation direction).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้แป้งผสมโฟม (SCFs) ได้สำเร็จเตรียม โดยอบปะทะแป้งตามเพจปอหรือลินินเส้นใยภายในแม่พิมพ์ร้อน ผลของความชื้นเนื้อหาคุณสมบัติทางกลของ SCFs ถูกตรวจสอบ Flexural แรงและโมดูลัส flexural ของความยืดหยุ่นปรากฏอย่างเด่นชัดปรับปรุง มีเพิ่ม 5-10% โดยน้ำหนักของเส้นใย ที่เนื้อหาถาวรไฟเบอร์ 10% โดยน้ำหนัก flexural แรงและโมดูลัส flexural ของความยืดหยุ่นพบเพิ่มขึ้น ด้วยการเพิ่มอัตราส่วนกว้างยาวของเส้นใย ปรับปรุงในคุณสมบัติทางกลของ SCFs ถูกรวมอันตรกิริยาอย่างเข้มระหว่างเส้นใยและเมตริกซ์แป้ง เห็นชุดของแกน micrographs อิเล็กตรอนที่ถูกถ่ายบนพื้นผิวของกระดูก SCF ระหว่างปอ - และลินินเสริม SCFs ไหมพรมเส้นใยมีลักษณะพิเศษเสริมสูงกว่าเส้นใยลินินได้ แนวของเส้นใยที่แสดงผลแข็งแรง flexural และโมดูลัส flexural ของความยืดหยุ่นของ SCFs มีค่าสูงสุดที่ถูกสังเกตในไว้เป็นตัวอย่างที่มีเส้นใยที่เน้นทิศทางระยะยาว (perpendicularly เน้นทิศทางการแพร่กระจายแตกเส้นใย)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แป้งที่ใช้โฟมคอมโพสิต (SCFs) ได้จัดทำประสบความสำเร็จโดยการอบแป้งแป้งตามการใช้มาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือเส้นใยปอกระเจาปอภายในแม่พิมพ์ร้อน ผลของความชื้นที่มีต่อสมบัติทางกลของ SCFs ถูกตรวจสอบ ทั้งความแข็งแรงดัดและโมดูลัสของความยืดหยุ่นดัดดูเหมือนจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยการเพิ่ม 5-10% โดยน้ำหนักของเส้นใย ในปริมาณใยคงที่ 10% โดยน้ำหนักทั้งความแข็งแรงดัดดัดและโมดูลัสของความยืดหยุ่นพบว่าเพิ่มขึ้นด้วยอัตราส่วนที่เพิ่มขึ้นของเส้นใย การปรับปรุงสมบัติเชิงกลของ SCFs เป็นส่วนที่เป็นปฏิสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างเส้นใยและเมทริกซ์แป้งเป็นหลักฐานโดยชุดของไมโครอิเล็กตรอนแบบส่องกราดถูกนำมาบนพื้นผิวการแตกหัก SCF ระหว่าง jute- และ SCFs แฟลกซ์เสริมเส้นใยปอกระเจามีผลกระทบมากขึ้นกว่าการเสริมเส้นใยปอได้ การวางแนวของเส้นใยถูกนำมาแสดงจะมีผลอย่างมากต่อทั้งความแข็งแรงดัดและโมดูลัสดัดของความยืดหยุ่นของ SCFs มีค่าสูงสุดถูกพบในตัวอย่างที่มีเส้นใยที่มุ่งเน้นในทิศทางตามยาว (เส้นใยเชิงตั้งฉากกับทิศทางการขยายพันธุ์แตก)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คอมโพสิตจากแป้งโฟม ( scfs ) เรียบร้อยแล้ว เตรียมอบจากแป้งแป้งจึงให้ปอ หรือเส้นใยป่านภายในแม่พิมพ์ร้อน ผลของความชื้นต่อคุณสมบัติเชิงกลของ scfs ถูกตรวจสอบ ทั้งดัด และโมดูลัสของความยืดหยุ่นในการปรากฏเป็นเด่นชัดขึ้นด้วยการเพิ่ม 5 - 10% โดยน้ำหนักของเส้นใยที่คงที่ ปริมาณเส้นใยอาหารร้อยละ 10 โดยน้ำหนัก ทั้งดัด และโมดูลัสของความยืดหยุ่นในการพบเพื่อเพิ่มด้วยการเพิ่มสัดส่วนของเส้นใย การปรับปรุงสมบัติเชิงกลของ scfs ถูก attributable เพื่อปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเส้นใยและแป้งเมทริกซ์เป็นหลักฐานโดยชุดกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบสแกนไปบนพื้นผิวการแตกหักในคอลัมน์ . ระหว่างปอ - ป่าน scfs เสริมเส้นใยปอกระเจามีมากขึ้นซึ่งมีผลกว่าเส้นใยป่านทำ การวางแนวของเส้นใย แสดงให้เห็นผลกระทบที่แข็งแกร่ง ทั้งดัด และโมดูลัสของความยืดหยุ่นของ scfs ดัด ,กับสูงสุดค่าถูกพบในตัวอย่างมีเส้นใยที่มุ่งเน้นไปในทิศทางตามยาว ( ใยเชิงดิ่งให้แตกกระจายทิศทาง )