9.Sukhothai era's famous Buddha ima

9.Sukhothai era's famous Buddha images (cont.) Phra Achana is translated to "He who is not frightened" r (this Buddha image's name is known from "Wat Si Chum's stone inscription"). The right hand of the image is covered with gold leaf, put on there by Buddhists who come to pay their respect to the Buddha. The image was restored by the Thai Fine Arts Department in the 1950s. Phra Achana is also known as "Phra Pood Dai which translates to "the speaking Buddha". During King Naresuan's range (in 2nd half of 16th century) many wars were fought with the Burmese. According to legend at one time before a battle the King wanted to boost the morale of his troops. He ordered one of his soldiers to secretly climb the narrow stairway in the mondop enshrining the Buddha image and delivered a cheering spe to the soldiers troops. The acoustics of the small space and the fact that the speaker could not be seen made the believe it was the image of the Buddha speaking to them.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

9.สุโขทัยยุคชื่อดังพระพุทธรูป (ต่อเนื่อง) พระ Achana แปลเป็น "เขาที่ไม่กลัว" r (พระพุทธรูปนี้ชื่อเรียกจาก "จารึกวัดศรีชุม") ขวามือของภาพถูกปกคลุม ด้วยใบไม้ทอง ใส่นั่น โดยชาวพุทธที่มาของพวกเขาเคารพพระพุทธเจ้า ภาพถูกคืนค่า โดยไทยกรมศิลปากรในปี 1950 พระ Achana จะเรียกว่า "พระ Pood ไดซึ่งแปลว่า"พระพุทธเจ้าพูด" ในช่วงที่สมเด็จพระนเรศวร (ในครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16) หลายสงครามต่อสู้กันกับพม่า ตามตำนานครั้งหนึ่งก่อนการรบ กษัตริย์อยากเพิ่มขวัญกำลังใจทหาร เขาสั่งทหารของเขาจะแอบปีนบันไดแคบในองค์พระ enshrining พระพุทธรูปอย่างใดอย่างหนึ่ง และส่งกองกำลังทหารตรมัก เสียงของพื้นที่ขนาดเล็กและความจริงที่ว่า ลำโพงไม่สามารถเห็นผู้เชื่อที่เป็นพระพุทธรูปพูดกับพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

9.Sukhothai ยุคพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียง (ต่อ). พระ Achana จะแปลให้ "ผู้ที่ไม่ได้กลัว" อาร์ (ชื่อนี้ภาพของพระพุทธเจ้าเป็นที่รู้จักจาก "วัดศรีชุมของศิลาจารึก") พระหัตถ์ขวาของภาพจะถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้สีทองวางบนโดยมีพุทธศาสนิกชนที่มาเคารพของพวกเขาเพื่อพระพุทธเจ้า ภาพที่ได้รับการบูรณะโดยกรมศิลปากรของไทยในปี 1950 พระ Achana ยังเป็นที่รู้จักในฐานะ "พระ Pood Dai ซึ่งแปลว่า" พระพุทธรูปพูด ". ในช่วงสมเด็จพระนเรศวรฯ (ในช่วงครึ่งปีที่ 2 ของศตวรรษที่ 16) สงครามหลายคนต่อสู้กับพม่า. ตามตำนานที่ครั้งหนึ่งก่อนที่จะต่อสู้กษัตริย์ อยากจะเพิ่มขวัญกำลังใจของทหารของเขา. เขาสั่งให้ทหารคนหนึ่งของเขาที่จะแอบปีนขึ้นบันไดแคบ ๆ ในมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปและส่ง SPE เชียร์กับกองกำลังทหาร. อะคูสติกของพื้นที่ขนาดเล็กและความจริงที่ว่าลำโพง ไม่อาจจะเห็นทำให้เชื่อว่ามันเป็นภาพของพระพุทธเจ้าพูดกับพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

9 . พระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงยุคสุโขทัย ( ต่อ ) พระอจนะจะแปลว่า " ผู้ที่ไม่กลัว " R ( ชื่อพระพุทธรูปนี้เป็นที่รู้จักจาก " น้ำชุบของจารึก " ) ขวามือของภาพที่ถูกปกคลุมด้วยใบไม้ทอง , ใส่โดยมีพุทธศาสนิกชนที่เข้ามาให้ความเคารพต่อพระพุทธเจ้า ภาพที่ถูกเรียกคืนโดยศิลปไทยปรับแผนกใน 1950s . พระอจนะเรียกว่า " พระพูดได้ซึ่งแปลว่า " พระพูดได้ " ระหว่างสมเด็จพระนเรศวร ( ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 16 ) สงครามหลายคนต่อสู้กับพม่า ตามตำนานในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่การต่อสู้ พระราชาต้องการเพิ่มขวัญกำลังใจของทหารของเขา เขาสั่งให้ทหารคนหนึ่งของเขาจะแอบปีนบันไดแคบในมณฑป enshrining พระพุทธรูป และส่งเสียงเชียร์เอสพีให้ทหารทหาร บนพื้นที่เล็ก ๆและความจริงที่ว่าผู้พูดไม่อาจจะเห็นได้ว่ามันคือรูปของพระพุทธเจ้าที่พูดกับพวกเขา .