The Johns Hopkins researchers condu

The Johns Hopkins researchers conducted a double-blind trial in which participants who did not regularly eat or drink caffeinated products received either a placebo or a 200-milligram caffeine tablet five minutes after studying a series of images. Salivary samples were taken from the participants before they took the tablets to measure their caffeine levels. Samples were taken again one, three, and 24 hours afterwards.
The next day, both groups were tested on their ability to recognize images from the previous day's study session. On the test, some of the visuals were the same as those from the day before, some were new additions, and some were similar but not the same.
More members of the caffeine group were able to correctly identify the new images as "similar" to previously viewed images rather than erroneously citing them as the same.
The brain's ability to recognize the difference between two similar but not identical items, called pattern separation, reflects a deeper level of memory retention, the researchers said.
"If we used a standard recognition memory task without these tricky similar items, we would have found no effect of caffeine," Yassa said. "However, using these items requires the brain to make a more difficult discrimination—what we call pattern separation, which seems to be the process that is enhanced by caffeine in our case."
The memory center in the human brain is the hippocampus, a seahorse-shaped area in the medial temporal lobe of the brain. The hippocampus is the switchbox for all short- and long-term memories. Most research done on memory—the effects of concussions in athletes, of war-related head injuries, and of dementia in the aging population—focuses on this area of the brain.
Until now, caffeine's effects on long-term memory had not been examined in detail. Of the few studies done, the general consensus was that caffeine has little or no effect on long-term memory retention.
The research is different from prior experiments because the subjects took the caffeine tablets only after they had viewed and attempted to memorize the images.
"Almost all prior studies administered caffeine before the study session, so if there is an enhancement, it's not clear if it's due to caffeine's effects on attention, vigilance, focus, or other factors," Yassa said. "By administering caffeine after the experiment, we rule out all of these effects and make sure that if there is an enhancement, it's due to memory and nothing else."
According to the U.S. Food and Drug Administration, 90 percent of people worldwide consume caffeine in one form or another. In the United States, 80 percent of adults consume caffeine every day. The average adult has an intake of about 200 milligrams—the same amount used in the Yassa study—or roughly one cup of strong coffee per day.
Yassa's team completed the research at Johns Hopkins before his lab moved to the University of California, Irvine, at the start of this year.
"The next step for us is to figure out the brain mechanisms underlying this enhancement," Yassa said. "We can use brain-imaging techniques to address these questions. We also know that caffeine is associated with healthy longevity and may have some protective effects from cognitive decline like Alzheimer's disease. These are certainly important questions for the future."

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักวิจัยจอห์นฮ็อปกินส์ดำเนินคดีคู่คนตาบอดที่ผู้เข้าร่วมที่ได้ไม่กินเป็นประจำหรือดื่ม caffeinated ผลิตภัณฑ์ได้รับยาหลอกหรือแท็บเล็ตคาเฟอีน 200-milligram ห้านาทีหลังจากศึกษาชุดของภาพ ตัวอย่าง salivary ได้มาจากผู้เข้าร่วมก่อนที่พวกเขาเอาเม็ดวัดระดับของคาเฟอีน ตัวอย่างที่ถ่ายอีกครั้งหนึ่ง สาม และ 24 ชั่วโมงหลังจากนั้นในวันถัดไป ทั้งสองได้ทดสอบบนความสามารถในการรับรู้ภาพจากงานศึกษาของวันก่อนหน้า ในการทดสอบ บางภาพก็เหมือนกับจากวันก่อน บางคนใหม่เพิ่ม และบางคนที่คล้ายแต่ไม่เหมือนกันสมาชิกอื่น ๆ ของกลุ่มคาเฟอีนสามารถระบุภาพใหม่เป็น "คล้าย" กับภาพที่แสดงก่อนหน้านี้แทนที่การอ้างถึงให้ผลเช่นเดียวกันอย่างถูกต้องได้ของสมองความสามารถในการจำแนกความแตกต่างระหว่างสองคล้ายแต่ไม่เหมือนกับรายการ เรียกว่าแยกรูปแบบ สะท้อนถึงระดับความลึกของหน่วยความจำ นักวิจัยกล่าวว่าYassa กล่าวว่า "ถ้าเราใช้งานหน่วยความจำมาตรฐาน โดยไม่มีสินค้าเหล่านี้คล้ายยุ่งยาก เราจะได้พบไม่มีผลของคาเฟอีน "อย่างไรก็ตาม โดยใช้รายการเหล่านี้ต้องใช้สมองต้องแบ่งแยกยาก — สิ่งที่เราเรียกรูปแบบแยก ซึ่งน่าจะเป็นกระบวนการที่เพิ่มขึ้นด้วยคาเฟอีนในกรณีของเรา "ฮิพโพแคมปัส ตั้งรูปเหลืองในสมองกลีบขมับด้านใกล้กลางของสมองตัวหน่วยความจำในสมองมนุษย์ได้ ฮิพโพแคมปัสเป็น switchbox สำหรับทั้งหมดสั้น และระยะยาวความทรงจำ งานวิจัยส่วนใหญ่ที่ทำจำ — ผล ของ concussions ในนักกีฬา สงครามใหญ่บาด และ โรคสมองเสื่อมในประชากรอายุซึ่งเน้นพื้นที่นี้ของสมองจนถึงขณะนี้ ผลของคาเฟอีนหน่วยความจำระยะยาวได้ไม่ถูกตรวจสอบในรายละเอียด ศึกษาบางที่ทำ มติทั่วไปไม่ว่า คาเฟอีนมีผลน้อย หรือไม่มีความจำระยะยาวการวิจัยจะแตกต่างจากก่อนทดลองเนื่องจากหัวข้อเอาเม็ดคาเฟอีนหลังจากพวกเขาดู และพยายามจดจำภาพ"ศึกษาเกือบทั้งหมดทราบดูแลคาเฟอีนก่อนรอบศึกษา ดังนั้นถ้ามีการเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ชัดเจนก็เนื่องจากผลของคาเฟอีนเอาใจใส่ ระมัดระวัง โฟกัส หรือ ปัจจัยอื่น ๆ, " Yassa กล่าวว่า "โดยจัดการคาเฟอีนหลังจากทดลอง เราออกทั้งหมดของลักษณะพิเศษเหล่านี้ และทำให้แน่ใจได้ว่า ถ้ามีการปรับปรุง หน่วยความจำและไม่มีอะไรอื่น"ตามสหรัฐอเมริกาอาหารและยา 90 เปอร์เซ็นต์ของคนทั่วโลกบริโภคคาเฟอีนในรูปแบบเดียวหรืออื่น ในสหรัฐอเมริกา ร้อยละ 80 ของผู้ใหญ่บริโภคคาเฟอีนทุกวัน ผู้ใหญ่โดยเฉลี่ยมีการบริโภคประมาณ 200 milligrams – ยอดเงินเดียวกับที่ใช้ในการศึกษา Yassa — หรือประมาณหนึ่งถ้วยกาแฟต่อวันทีมงานของ Yassa เสร็จสมบูรณ์วิจัยที่จอห์นฮ็อปกินส์ก่อนแล็บของเขาย้ายไปมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เออร์วิน ที่เริ่มต้นปีนี้Yassa กล่าวว่า "ขั้นตอนถัดไปเราจะเข้าใจกลไกสมองต้นเพิ่มประสิทธิภาพนี้ "เราสามารถใช้เทคนิคภาพสมองคำถามเหล่านี้ เรายังทราบว่า คาเฟอีนสัมพันธ์กับลักษณะแข็งแรง และอาจมีผลป้องกันบางจากปฏิเสธรับรู้เช่นโรคอัลไซเมอร์ เหล่านี้เป็นคำถามสำคัญแน่นอนในอนาคต"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

The Johns Hopkins นักวิจัยทำการทดลองในแบบที่ผู้เข้าร่วมที่ไม่ได้กินเป็นประจํา หรือผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม caffeinated ได้รับยาหลอกอย่างใดอย่างหนึ่งหรือ 200 มิลลิกรัมของคาเฟอีนเม็ดห้านาทีหลังจากที่ศึกษาชุดของภาพ ตัวอย่างน้ำลาย นำมาจากผู้เข้าร่วมก่อนที่จะหยิบยาเม็ดเพื่อวัดระดับคาเฟอีนของพวกเขา ตัวอย่างถ่ายอีกครั้ง หนึ่ง สามและ 24 ชั่วโมงหลังจากนั้น
วันต่อมา ทั้งสองกลุ่ม ในความสามารถในการรับรู้ภาพจากเซสชั่นการศึกษาก่อนหน้านี้ในวันนั้น การทดสอบในบางส่วนของภาพที่เป็นเหมือนพวกจากวันก่อนบ้างใหม่เพิ่ม และบางส่วนที่คล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกัน
สมาชิกของกลุ่มคาเฟอีนสามารถได้อย่างถูกต้องระบุภาพใหม่เป็น " คล้าย " ก่อนหน้านี้ ดูภาพมากกว่าผลอ้างถึงพวกเขาเป็นเดียวกัน .
สมองของความสามารถในการแยกแยะความแตกต่างระหว่างสองรายการที่คล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกัน เรียกว่าแยกรูปแบบสะท้อนให้เห็นถึงระดับลึกของหน่วยความจำได้ นักวิจัยกล่าวว่า
" ถ้าเราใช้มาตรฐานการรับรู้ความทรงจำงานโดยไม่ยุ่งยากเหล่านี้คล้ายรายการ เราก็ยังไม่พบผลของคาเฟอีน " yassa กล่าว อย่างไรก็ตาม การใช้รายการเหล่านี้ต้องใช้สมองเพื่อให้ยาก เลือกสิ่งที่เราเรียกรูปแบบการแยกซึ่งน่าจะเป็นกระบวนการที่ถูกเพิ่มโดยคาเฟอีนในกรณีของเรา . "
ความทรงจำศูนย์ในสมองของมนุษย์คือสมองส่วนฮิปโปแคมปัสม้าน้ำตัวพื้นที่ในกลีบขมับด้านใกล้กลางของสมอง ฮิปโปแคมปัสเป็น switchbox สำหรับระยะสั้น และความจำระยะยาว งานวิจัยส่วนใหญ่ทำในหน่วยความจำผลของ concussions ในนักกีฬา ของสงครามที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บที่ศีรษะ และสมองเสื่อมในประชากรอายุเน้นบริเวณสมอง
จนถึงตอนนี้ คาเฟอีนมีผลต่อหน่วยความจำระยะยาวไม่ได้รับการตรวจสอบในรายละเอียดของการศึกษาน้อยเสร็จ มติทั่วไปคือว่า คาเฟอีนที่มีผลเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในหน่วยความจำระยะยาว
การวิจัยแตกต่างจากการทดลองก่อน เพราะคนเอาคาเฟอีนเม็ดเท่านั้นหลังจากที่พวกเขาได้ดู และพยายามจดจำภาพ
" การศึกษาก่อนเกือบทั้งหมดใช้คาเฟอีนก่อนการศึกษาเซสชัน ดังนั้นหาก มีการเพิ่มประสิทธิภาพมันไม่ชัดเจนถ้ามันเนื่องจากคาเฟอีนมีผลต่อความสนใจ , ความระมัดระวัง , โฟกัส , หรือปัจจัยอื่น ๆ " yassa กล่าว โดยให้คาเฟอีนหลังการทดลอง เราออกกฎทั้งหมดของลักษณะเหล่านี้และให้แน่ใจว่า หากมีการเพิ่ม มันมาจากความทรงจำและไม่มีอะไรอื่น . "
ตามองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา90 เปอร์เซ็นต์ของคนทั่วโลกบริโภคคาเฟอีนในรูปแบบเดียวหรืออื่น ในสหรัฐอเมริกา , 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใหญ่บริโภคคาเฟอีนทุกวัน ผู้ใหญ่โดยเฉลี่ยมีการบริโภคประมาณ 200 มิลลิกรัมจำนวนเดียวกันที่ใช้ใน yassa การศึกษาหรือประมาณหนึ่งถ้วยของกาแฟที่แข็งแกร่งต่อวัน เสร็จสิ้นแล้ว yassa
ทีมวิจัยที่ Johns Hopkins แต่ก่อนแล็บของเขาย้ายไปที่มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียเออร์ ที่จุดเริ่มต้นของปีนี้ .
" ขั้นตอนต่อไปของเราคือการคิดออกสมองกลไกพื้นฐานเพิ่มนี้ " yassa กล่าว เราสามารถใช้เทคนิคการถ่ายภาพสมองที่อยู่ที่คำถามเหล่านี้ นอกจากนี้เรายังทราบว่า คาเฟอีน เกี่ยวข้องกับอายุการใช้งาน มีสุขภาพดี และอาจจะป้องกันผลจากการลดลง เช่น โรคอัลไซเมอร์เหล่านี้เป็นคำถามที่สำคัญสำหรับอนาคตแน่นอน



"