Pre-harvest dietary enrichment with

Pre-harvest dietary enrichment with α-tocopherol acetate in combination with different post-harvest processing techniques was investigated with regard to quality degradation of farmed barramundi (Lates calcarifer), during chilled storage. Fish were fed commercial rearing diets supplemented with two levels of α-tocopherol acetate (standard level 192 mg kg− 1 and enriched level 628 mg kg− 1). During 5 months of feeding, α-tocopherol content of fish fed the enriched diet increased significantly from an initial concentration of 13.67 to 24.18 mg kg− 1 after 56 days. After this period fish were harvested and subjected to 14 day chilled (2 °C) storage as either fillets or whole ungutted fish. Dietary α-tocopherol enrichment in combination with storing fish whole and ungutted constrained lipid oxidation over 14 days of storage, in comparison lipid oxidation was significantly higher in fish fed the standard diet and filleted prior to storage. Filleting also resulted in significant colour changes with reddening and yellowing of the flesh in conjunction with significantly lower flesh pH compared to barramundi stored whole and ungutted. These results indicate that dietary enrichment with α-tocopherol acetate in combination with storing fish whole and ungutted is the most effective strategy in constraining lipid oxidation and colour fluctuations in barramundi flesh during chilled storage.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เติมเต็มอาหารก่อนการเก็บเกี่ยวพร้อมด้วยกองทัพ-tocopherol acetate ร่วมกับเทคนิคการประมวลผลหลังการเก็บเกี่ยวแตกต่างกันถูกสอบสวนเกี่ยวกับการลดคุณภาพของปลากะพงขาว farmed (ปลากระพงขาว), ระหว่างการเก็บรักษาที่เย็น ปลาที่เลี้ยงพาณิชย์แม่อาหารเสริมระดับสองของ acetate ด้วยกองทัพ-tocopherol (มาตรฐานระดับ 192 มิลลิกรัม kg− 1 และอุดมมิลลิกรัมระดับ 628 kg− 1) ในช่วงเดือน 5 ของอาหาร เนื้อหาด้วยกองทัพ-tocopherol ปลาเลี้ยงอาหารอุดมที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากเข้มข้นเริ่มต้นของ kg− 13.67-24.18 มิลลิกรัม 1 หลัง 56 วัน หลังจากระยะนี้ ปลาถูกเก็บเกี่ยว และต้องเก็บ 14 วันแช่ (2 ° C) เป็นแล่หรือปลา ungutted ทั้งหมด โดดเด่นด้วยกองทัพ-tocopherol อาหารร่วมกับการเก็บปลาที่เกิดออกซิเดชันของไขมันมีข้อจำกัดทั้งหมด และ ungutted กว่า 14 วันของการจัดเก็บ ในออกซิเดชันกระบวนการเปรียบเทียบสูงมากในปลาเลี้ยงอาหารมาตรฐาน และ filleted ก่อนที่จะเก็บ Filleting นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสีอย่างมีนัยสำคัญกับ reddening และเก็บสีเหลืองของเนื้อร่วมกับ pH เนื้อต่ำเมื่อเทียบกับปลากะพงขาวทั้งหมด และ ungutted ผลลัพธ์เหล่านี้บ่งชี้ว่า อาหารโดดเด่นพร้อมด้วยกองทัพ-tocopherol acetate ร่วมกับเก็บปลาทั้งหมด และ ungutted กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในกีดผกผันเกิดออกซิเดชันและสีของไขมันในเนื้อปลากะพงขาวในระหว่างเก็บเย็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพิ่มคุณค่าก่อนการเก็บเกี่ยวการบริโภคอาหารที่มีอะซิเตทαโทโคฟีรอในการรวมกันกับการประมวลผลหลังการเก็บเกี่ยวที่แตกต่างกันเทคนิคการถูกตรวจสอบในเรื่องเกี่ยวกับการย่อยสลายคุณภาพของการทำไร่ไถนา Barramundi (Lates calcarifer) ในระหว่างการเก็บแช่เย็น ได้รับการเลี้ยงดูปลาอาหารเลี้ยงเชิงพาณิชย์เสริมด้วยสองระดับของอะซิเตทαโทโคฟีรอ (ระดับมาตรฐาน 192 มิลลิกรัม kg- ที่ 1 และระดับอุดม 628 มิลลิกรัม kg- 1) ในช่วง 5 เดือนของการให้อาหารเนื้อหาαโทโคฟีรอของปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารที่อุดมด้วยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากความเข้มข้นเริ่มต้นของ 13.67-24.18 มิลลิกรัม kg- 1 หลัง 56 วัน หลังจากนี้ปลาระยะเวลาเก็บเกี่ยวและยัดเยียดให้ภายใน 14 วันเย็น (2 ° C) การจัดเก็บเป็นทั้งเนื้อหรือปลาทั้ง ungutted อาหารการตกแต่งαโทโคฟีรอร่วมกับการจัดเก็บทั้งปลาและ ungutted ออกซิเดชันของไขมัน จำกัด กว่า 14 วันของการจัดเก็บข้อมูลในการเปรียบเทียบออกซิเดชันของไขมันอย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้นในปลาที่ได้รับอาหารมาตรฐานเสาก่อนที่จะมีการจัดเก็บข้อมูล เนื้อยังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญที่มีสีแดงและสีเหลืองของเนื้อร่วมกับพีเอชลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื้อเมื่อเทียบกับ Barramundi ที่เก็บไว้ทั้งหมดและ ungutted ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการเพิ่มคุณค่าในการบริโภคอาหารที่มีอะซิเตทαโทโคฟีรอร่วมกับการจัดเก็บทั้งปลาและ ungutted เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดใน constraining ออกซิเดชันของไขมันและความผันผวนของสีในเนื้อ Barramundi ระหว่างการเก็บรักษาแช่เย็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเก็บเกี่ยวก่อนเสริมอาหารกับแอลฟาวิตามินอีในการรวมกันกับที่แตกต่างกันหลังการเก็บเกี่ยวเทคนิคการประมวลผลที่ถูกตรวจสอบเรื่องคุณภาพการย่อยสลายฟาร์มปลา ( ปลากะพงขาว ) ระหว่างเก็บในที่เย็น . การเลี้ยงปลาเลี้ยงเชิงพาณิชย์ที่ได้รับอาหารที่เสริมด้วยสองระดับของแอลฟาโทโคเฟอรอลอะซิเตท ( มาตรฐานระดับ 192 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมและ− 1 อุดมระดับ 628 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม− 1 )ในช่วง 5 เดือนของการให้อาหาร แอลฟาโทโคเฟอรอล เนื้อหาของปลาที่ได้รับอาหารอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากความเข้มข้นเริ่มต้นของ 13.67 ถึง 24.18 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม− 1 หลัง 56 วัน หลังจากปลาช่วงนี้เก็บแช่เย็นภายใต้ 14 วัน ( 2 องศา C ) กระเป๋าเป็นทั้ง ungutted เนื้อหรือปลาแอลฟาโทโคเฟอรอลในอาหารร่วมกับการเสริมปลาทั้งหมดและ ungutted สะท้อนปฏิกิริยาลิปิดออกซิเดชันของกระเป๋า 14 วัน ในการเปรียบเทียบการออกซิเดชันของไขมันสูงกว่า ในปลาที่เลี้ยงด้วยอาหารมาตรฐานและถลกก่อนการเก็บรักษาfilleting ยังก่อให้เกิดเปลี่ยนสีให้เป็นสีแดงและสีเหลืองของความสัมพันธ์กับเนื้อร่วมกับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปลาเนื้ออเก็บไว้ทั้งหมด และ ungutted .ผลลัพธ์เหล่านี้บ่งชี้ว่า อาหารเสริมกับแอลฟาวิตามินอีในการรวมกันกับการจัดเก็บทั้งปลาและ ungutted เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการจำกัดการออกซิเดชันไขมันและสีในเนื้อของปลาระหว่างเก็บในที่เย็น .