Federal Phase II reformulated gasol

Federal Phase II reformulated gasoline (RFG) has resulted in lower sulfur levels in gasoline, but the rule applies only in selected urban areas in the United States. Reformulated gasoline is gasoline blended to burn more cleanly than conventional gasoline and to reduce ozone and toxic air pollutants. The first phase of the RFG program began in 1995 and the second phase (current) began in 2000. RFG is required in cities with high smog levels and is optional elsewhere. RFG is currently used in 17 states and the District of Columbia, and makes up about 30% of gasoline sold in the U.S. As a result of the National Fuel Policy Act of 1992 and other initiatives, clean fuels have become increasingly available. However, gasoline remains the major fuel product.
On May 1, 2007, EPA finalized the Renewable Fuel Standard (RFS), establishing a comprehensive RFS program for 2007 through 2012 and beyond. In February 2008, EPA amended the RFS to reflect amendment to the Energy Independence and Security Act (EISA) of 2007. EISA increases the overall volume of renewable fuels that must be blended each year, reaching 36 billion gallons in 2022. On March 26, 2010, EPA finalized its RFS-2 regulation for 2010 and beyond. This regulation establishes new specific volume standards for cellulosic biofuel, biomass-based diesel, advanced biofuel, and total renewable fuel that must be used in transportation fuel each year.
Currently, more than 95% of the U.S. gasoline contains up to 10% ethanol to boost octane, meet air quality requirements, or satisfy the RFS. E10 gasoline is sold in every state in the U.S. Recent increases in ethanol usage in gasoline have made E0 and MTBE rare in the U.S. California has moved to require E10 as its LEV III certification fuel, and EPA is considering moving its certification E0 gasoline to E10 or E15, as a part of its Tier 3 proposal. ARB has included both regular and premium certification fuels in their LEV III program, and EPA has indicated that it is planning to do the same as a part of Tier 3.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

II ระยะกลางมีน้ำมัน (RFG) มีผลในระดับที่ต่ำกว่ากำมะถันในน้ำมัน ได้เงินเฉพาะในพื้นที่ที่เลือกเมืองในสหรัฐอเมริกา น้ำมันที่มีเบนซินผสม การเผาอย่างเรียบร้อยยิ่งขึ้นกว่าน้ำมันเบนซินธรรมดา และลดโอโซนและสารมลพิษอากาศที่เป็นพิษได้ โปรแกรม RFG เฟสแรกเริ่มในปี 1995 และระยะที่สอง (ปัจจุบัน) เริ่มในปี 2000 RFG จำเป็นต้องใช้ในเมืองหมอกควันสูงมีระดับ และไม่จำเป็นอื่น ๆ RFG ปัจจุบันใช้ในอเมริกา 17 และดิสตริกต์ออฟโคลัมเบีย และทำให้ค่าประมาณ 30% ของน้ำมันที่ขายในสหรัฐอเมริกา จากการกระทำนโยบายเชื้อชาติของ 1992 และริเริ่มอื่น ๆ เชื้อสะอาดได้กลายเป็นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม น้ำมันยังคง ผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงหลักบน 1 พฤษภาคม 2550, EPA กำหนดขั้นสุดท้ายของการทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐาน (RFS), สร้างโปรแกรม RFS ครอบคลุมสำหรับ 2007 ผ่าน 2012 และเกิน ในเดือน 2551 กุมภาพันธ์ EPA แก้ไข RFS เพื่อสะท้อนการแก้ไขพลังงานอิสระและรักษาความปลอดภัยพระราชบัญญัติ (อีซา) ของปี 2007 อีซาช่วยเพิ่มปริมาณเชื้อเพลิงทดแทนที่ต้องผสมในแต่ละปี รวมถึง 36 ล้านแกลลอนใน 2022 เมื่อ 26 มีนาคม 2010, EPA ขั้นสุดท้ายระเบียบ RFS-2 ของปี 2553 และนอกเหนือจากการ ระเบียบนี้สร้างมาตรฐานใหม่ของปริมาตรจำเพาะสำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพ cellulosic เครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้ชีวมวล เชื้อเพลิงชีวภาพขั้นสูง และเชื้อเพลิงทดแทนทั้งหมดที่ต้องใช้ในการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละปีปัจจุบัน น้ำมันสหรัฐฯ มากกว่า 95% ประกอบด้วยค่ากับเอทานอล 10% ไปเพิ่ม octane ตอบสนองความต้องการคุณภาพอากาศ RFS ตอบสนอง ขายน้ำมัน E10 ทุกรัฐในสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นล่าสุดในการใช้เอทานอลในน้ำมันทำ E0 และหายากในแคลิฟอร์เนียสหรัฐอเมริกา MTBE ได้ย้ายไปใช้ E10 เป็นเชื้อเพลิงของลิฟเย III รับรอง และ EPA จะพิจารณาย้ายการรับรองน้ำมัน E0 E10 หรือ E15 เป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอของชั้น 3 ARB ได้รวมทั้งเชื้อเพลิงปกติ และพรีเมียมรับรองในโปรแกรมลิฟเย III ของพวกเขา และ EPA ได้ระบุว่า มีการวางแผนจะทำเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของชั้น 3

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แห่งชาติระยะที่ 2 เงื่อนไขเบนซิน ( rfg ) มีผลในการลดระดับสารซัลเฟอร์ในน้ำมัน แต่กฎใช้เฉพาะในพื้นที่ที่เลือกเมืองในสหรัฐอเมริกา เงื่อนไขน้ำมันเบนซินผสมที่จะเผาไหม้หมดจดมากขึ้นกว่าน้ำมันเบนซินปกติ และลดมลพิษในอากาศ โอโซน และเป็นพิษ เฟสแรกของโครงการ rfg เริ่มต้นในปี 1995 และระยะที่สอง ( ปัจจุบัน ) เริ่มต้นในปี 2000rfg ที่จําเป็นในเมืองกับระดับหมอกควันสูงและเป็นตัวเลือกที่อื่น rfg เป็นที่ใช้ในปัจจุบันใน 17 รัฐและ District of Columbia และทำให้ขึ้นประมาณ 30 % ของน้ำมันที่ขายในสหรัฐฯ เป็นผลมาจากนโยบายเชื้อเพลิงแห่งชาติพระราชบัญญัติ 1992 และอื่น ๆโครงการเชื้อเพลิงสะอาดได้กลายเป็นใช้ได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เบนซินยังคงผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงหลัก .
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2007สรุปมาตรฐาน EPA เชื้อเพลิงทดแทน ( rfs ) , การสร้างโปรแกรมที่ครอบคลุม rfs 2007 ถึง 2012 และอยู่นอกเหนือ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2008 , EPA ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม rfs สะท้อนให้แก้ไขพลังงานความมั่นคงและความเป็นอิสระ ( บัส ) 2007 บัสเพิ่มระดับเสียงโดยรวมของเชื้อเพลิงทดแทนที่ต้องมีในแต่ละปี ผสมถึง 36 พันล้านแกลลอนในปี 2022 . เดือนมีนาคม 26 , 2010สรุปของ EPA rfs-2 ระเบียบ 2010 และเกิน ระเบียบนี้กำหนดมาตรฐานใหม่โดยเฉพาะปริมาณชีวมวลเชื้อเพลิงชีวภาพ cellulosic , ใช้ ดีเซล ไบโอดีเซล ขั้นสูง และรวมทดแทนเชื้อเพลิงที่ต้องใช้ในการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงในแต่ละปี .
ในปัจจุบัน มากกว่า 95% ของน้ำมันที่สหรัฐมีถึง 10 % เอทานอลเพื่อเพิ่มออกเทน , ตอบสนองความต้องการคุณภาพอากาศ หรือตอบสนอง rfs .น้ำมันขาย PCC7942 ในทุกรัฐในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นล่าสุดในการใช้เอทานอลในน้ำมันเบนซินได้เข้ามามทีบีอีหายากในสหรัฐอเมริกาและแคลิฟอร์เนียได้ย้ายต้องเป็นเลฟ III การรับรอง PCC7942 เชื้อเพลิงและ EPA จะพิจารณาการย้ายของเข้ามารับรอง น้ำมันหรือ e15 PCC7942 เป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอของชั้น 3ARB รวมทั้งภาคปกติและพิเศษใช้ในการรับรองโปรแกรม III เลฟ และ EPA ได้ระบุว่ามันคือการวางแผนที่จะทำแบบเดียวกันเป็นส่วนหนึ่งของชั้น 3