We did not observe an increased inc

We did not observe an increased incidence of congenital malformations or fetal aneuploidy in the women who used ART to conceive. A recent study by Zadori et al6 in 2003 reviewed outcomes of 301 neonates born as a result of IVF in a population of more than 12,900 deliveries and found no significant increase in the number of major birth defects. Additionally, in the United States, the Society for Assisted Reproductive Technology reported a prevalence of congenital malformations of 1.9% among patients undergoing IVF, which was similar to that seen in the general population. Retzloff and Hornstein3 in 2003 performed an analysis of 11 major studies from 1996 to 2002 and concluded that the vast majority showed neither an increase in malformations nor clustering of any single specific major malformation in ICSI pregnancies. This finding is complemented by the work done by Bonduelle et al20 in 2002, who studied 2,840 ICSI children and 2,955 IVF children in Brussels. This study found no significant difference in the malformation rate between ICSI and IVF pregnancies. However, our study contradicts the work of Hansen et al7 in 2002, which found an increased incidence of major birth defects in IVF pregnancies with an overall adjusted odds ratio of 2.0. This study found that infants conceived with ART were more likely to have multiple major defects and were also more likely to have chromosomal abnormalities. However, increased diagnostic vigilance of the study population may have resulted in ascertainment bias given the low-risk nature of the control population.21

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นอกจากนี้เราไม่ได้สังเกตพบมีอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นของ malformations ธาหรือ aneuploidy ครรภ์ในผู้หญิงที่ใช้ศิลปะในการตั้งครรภ์ การศึกษาล่าสุด โดย Zadori et al6 ใน 2003 ผลสรุปของ 301 neonates เกิดจาก IVF ในประชากรจัดส่งมากกว่า 12,900 และพบไม่สำคัญเพิ่มจำนวนหลักเกิดข้อบกพร่อง นอกจากนี้ ในสหรัฐอเมริกา สมาคมเพื่อช่วยสืบพันธุ์เทคโนโลยีรายงานความชุกของ malformations ธา 1.9% ในผู้ป่วยผ่าตัด IVF ซึ่งมีคล้ายกับที่เห็นในประชากรทั่วไป Retzloff และ Hornstein3 ใน 2003 ทำการวิเคราะห์ศึกษา 11 หลักจากปี 1996 ถึง 2002 และสรุปที่ส่วนใหญ่พบว่าไม่เพิ่มใน malformations หรือคลัสเตอร์ของ malformation เฉพาะหลักการเดียวในการตั้งครรภ์ผู้อำนวย ค้นหานี้ที่ครบครัน โดยงานที่ทำ โดย Bonduelle et al20 ใน 2002 ผู้ศึกษาเด็กอำนวย 2,840 และ 2,955 IVF เด็กในบรัสเซลส์ การศึกษานี้พบไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในอัตรา malformation ระหว่างตั้งครรภ์อำนวยและ IVF อย่างไรก็ตาม เราทุกการทำงานของแฮนเซ่น et al7 ใน 2002 ซึ่งพบอุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นการเกิดข้อบกพร่องที่สำคัญในการตั้งครรภ์ IVF มีอัตราส่วนการปรับปรุงราคาโดยรวมของ 2.0 การศึกษานี้พบว่า ทารกรู้สึกกับศิลปะมีแนวโน้มที่จะมีข้อบกพร่องสำคัญหลาย และมีแนวโน้มที่จะมีความผิดปกติของโครโมโซม อย่างไรก็ตาม ระมัดระวังการวินิจฉัยเพิ่มขึ้นของประชากรที่ศึกษาอาจทำให้ความโน้มเอียง ascertainment กำหนดลักษณะความเสี่ยงต่ำของ population.21 ควบคุม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราไม่ได้สังเกตอุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นของการผิดปกติ แต่กำเนิดของทารกในครรภ์หรือ aneuploidy ในผู้หญิงที่ใช้ยาต้านไวรัสที่จะตั้งครรภ์ การศึกษาล่าสุดโดย Zadori et AL6 ในปี 2003 ผลการตรวจสอบของทารกแรกเกิด 301 เกิดเป็นผลมาจากการผสมเทียมในประชากรมากกว่า 12,900 การส่งมอบและพบว่าไม่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในจำนวนของการเกิดข้อบกพร่องที่สำคัญ นอกจากนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา, สมาคมเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์รายงานความชุกของการผิดปกติ แต่กำเนิดของ 1.9% ในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการผสมเทียมซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่เห็นในประชากรทั่วไป Retzloff Hornstein3 และในปี 2003 ดำเนินการวิเคราะห์การศึกษา 11 ที่สำคัญ 1996-2002 และได้ข้อสรุปว่าส่วนใหญ่แสดงให้เห็นว่าไม่มีการเพิ่มขึ้นผิดปกติหรือการจัดกลุ่มความพิการที่สำคัญที่เฉพาะเจาะจงใด ๆ เดียวในการตั้งครรภ์ ICSI การค้นพบนี้จะสมบูรณ์โดยงานที่ทำโดย Bonduelle AL20 และในปี 2002 ที่ศึกษาเด็ก 2840 และ 2955 ICSI ผสมเทียมเด็กในกรุงบรัสเซลส์ การศึกษาครั้งนี้พบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในอัตราไม่สมประกอบระหว่างการตั้งครรภ์และ ICSI ผสมเทียม แต่การศึกษาของเราไปในทางตรงกันข้ามการทำงานของแฮนเซนและ AL7 ในปี 2002 ซึ่งพบว่ามีอุบัติการณ์ที่เพิ่มขึ้นของการเกิดข้อบกพร่องที่สำคัญในการตั้งครรภ์ผสมเทียมด้วยอัตราต่อรองโดยรวมปรับอัตราส่วนของ 2.0 การศึกษาครั้งนี้พบว่าทารกรู้สึกกับศิลปะมีแนวโน้มที่จะมีข้อบกพร่องที่สำคัญหลายคนและก็มีแนวโน้มที่จะมีโครโมโซมผิดปกติ แต่ระมัดระวังการวินิจฉัยที่เพิ่มขึ้นของประชากรที่ศึกษาอาจมีผลในการสอบถามอคติกำหนดลักษณะความเสี่ยงต่ำของ population.21 ควบคุม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราไม่ได้สังเกตอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นของทารกในครรภ์พิกลพิการแต่กำเนิด หรือหญิงโสเภณีในผู้หญิงที่ใช้ศิลปะในการประดิษฐ์ การศึกษาล่าสุดโดย zadori et al6 ในปี 2003 ตรวจทานผล 301 ทารกแรกเกิดเป็นผลของ IVF ในประชากรมากกว่า 900 จัดส่งและพบการเพิ่มจำนวนของข้อบกพร่องเกิดใหญ่ นอกจากนี้ ในสหรัฐอเมริกาสมาคมเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์รายงานความชุกของการพิการแต่กำเนิด 1.9 % ของผู้ป่วยที่ได้รับการปฏิสนธิ ซึ่งคล้ายกับที่พบในประชากรทั่วไปretzloff hornstein3 ในปี 2003 และแสดงการวิเคราะห์ 11 สาขาศึกษาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 และได้ข้อสรุปว่าส่วนใหญ่พบทั้งเพิ่มในหรือการจัดกลุ่มของการตั้งครรภ์เดี่ยวเฉพาะสาขา icsi ผิดปกติในการตั้งครรภ์ การค้นหานี้คือ การเสริมด้วยงานทำโดย BONDUELLE et al20 ในปี 2002 ที่เรียน 840 icsi เด็กและ 2955 เด็กหลอดแก้ว เด็ก ใน บรัสเซลส์การศึกษานี้พบว่าไม่มีความแตกต่างในลักษณะผิดปกติ icsi และ IVF อัตราระหว่างการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม การศึกษาของเราขัดแย้งกับงานของ แฮนเซ่น และ al7 ในปี 2002 ซึ่งพบอุบัติการณ์ของการเกิดข้อบกพร่องที่เพิ่มขึ้นที่สำคัญในการตั้งครรภ์กับ IVF รวม Adjusted Odds Ratio ของ 2.0ผลการศึกษาพบว่า ทารกที่ปฏิสนธิกับศิลปะมีแนวโน้มที่จะมีความบกพร่องที่สำคัญหลายและยังมีแนวโน้มที่จะมีโครโมโซมผิดปกติ อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัย การเพิ่มขึ้นของประชากรอาจมีผลในวิธีการค้นหาอคติให้ธรรมชาติมีความเสี่ยงต่ำของ population.21 ควบคุม