Story-telling seems to follow unive

Story-telling seems to follow universal rules that guide the process of story production. Schütze (1977) describes as the 'inherent demands of narration' (Zugzwaenge des Erzaehlens) what others have called 'story schema', 'narrative convention' or 'story grammar' (Johnson and Mandler, 1980; Kintsch and VanDijk, 1978; Labov, 1972). A schema structures a semi-autonomous process activated by a pre-determined situation. A narration is thus elicited on the basis of particular clues, and, once the informant has started, storytelling will sustain a flow of narration drawing on underlying tacit rules.
Story-telling follows a self-generating schema with three main characteristic as follows.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เล่าเรื่องที่ดูเหมือนว่าจะปฏิบัติตามกฎสากลที่ให้คำแนะนำขั้นตอนการผลิตเรื่อง Schütze (1977) อธิบายว่า 'ความต้องการโดยธรรมชาติของคำบรรยาย (Zugzwaenge des Erzaehlens) สิ่งที่คนอื่น ๆ ได้เรียกว่า' เรื่องคีมา ',' เล่าเรื่องการประชุม 'หรือ' เรื่องไวยากรณ์ (จอห์นสันและ Mandler 1980; Kintsch และ VanDijk 1978; Labov , 1972) โครงสร้างสคีกระบวนการกึ่งอิสระเปิดใช้งานโดยสถานการณ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า คำบรรยายมีการออกมาจึงอยู่บนพื้นฐานของปมโดยเฉพาะอย่างยิ่งและเมื่อแจ้งได้เริ่มต้นการเล่าเรื่องจะรักษาคำบรรยายการไหลของการวาดภาพบนกฎพื้นฐานโดยปริยาย.
เล่าเรื่องดังต่อไปนี้เค้าร่างตัวเองที่ก่อให้เกิดกับสามลักษณะหลักดังต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เรื่องที่บอกจะตามกฎสากลที่คู่มือการผลิตราว Sch üจื้อ ( 1977 ) อธิบายว่า ' แท้จริง ' ความต้องการของการเล่าเรื่อง ( zugzwaenge des erzaehlens ) สิ่งที่คนอื่นเรียกว่า ' เรื่องราวของ ' ' แบบเล่าเรื่องการประชุม ' หรือ ' ' ( ไวยากรณ์ จอห์นสัน และ แมนด์เลอร์ , 1980 ; kintsch และ vandijk , 1978 ; ลาบอฟ , 1972 )schema โครงสร้างกึ่งอัตโนมัติกระบวนการกระตุ้นโดยสถานการณ์ก่อนกำหนด คําบรรยาย จึงได้มาบนพื้นฐานของข้อมูลโดยเฉพาะ และเมื่อข่าวเริ่มมีการจะรักษากระแสของการเล่าเรื่อง การวาดภาพบนพื้นฐานกฏ .
เล่าเรื่องตามตนเองสร้าง schema ด้วยหลัก 3 ลักษณะ ดังนี้