IntroductionNumerous formae special

Introduction
Numerous formae speciales of Fusarium oxysporum (Fo) Schlechtend:
Fr. are important pathogens that cause wilt diseases in many
different host plants. This species is a ubiquitous soil-inhabiting
fungus that is also a normal constituent of fungal communities in
the rhizospheres of plants [1], [2], [3]. Historically, pathogenic Fo
isolates showing high host specificity have been classified into more
than 150 formae speciales based on plant species and cultivars they
infect [4]. Among these formae speciales, F. oxysporum f. sp.
cucumerinum (Foc) is one of the important pathogens that causes
cucumber Fusarium wilt in most production areas, including
North America, Europe and Asia [5]. Currently, several methods
are being employed to control this disease, including breeding for
resistance, fungicide application, crop rotation, soil amendments,
and biological control. However, breeding for resistance and crop
rotation practices are time-consuming, and the use of fungicides
can be environmentally hazardous [6]. Soil amendments are less
hazardous to the environment, but efficacy often depends on soil
structure and pH [7].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำSpeciales formae จำนวนมากของ Fusarium oxysporum (โฟ) Schlechtend:คุณพ่อเป็นโรคสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเหี่ยวในพืชโฮสต์ พันธุ์นี้เป็นแพร่หลายดินอาศัยอยู่เชื้อราที่เป็นวิภาคปกติของชุมชนเชื้อราrhizospheres ของพืช [1], [2], [3] ประวัติ โฟอุบัติแยกแสดง specificity สูงโฮสต์มีการแบ่งเพิ่มเติมกว่า 150 formae speciales ตามชนิดพืชและพันธุ์ที่ติดเชื้อ [4] ในหมู่เหล่านี้ formae speciales, F. oxysporum f. spcucumerinum (Foc) เป็นหนึ่งในโรคสำคัญที่ทำให้แตงกวาเหี่ยว Fusarium ในพื้นที่ผลิตมากที่สุด รวมอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย [5] วิธีการต่าง ๆ ในปัจจุบันพนักงานในการควบคุมโรคนี้ รวมทั้งการปรับปรุงพันธุ์สำหรับต้านทาน สารเคมีประยุกต์ ปลูกพืชหมุนเวียน การ แก้ไขดินและควบคุม อย่างไรก็ตาม พันธุ์ต้านทานและพืชหมุนเวียนปฏิบัติมีเวลา และการใช้ซึ่งเกิดจากเชื้อสามารถเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม [6] แก้ไขดินมีน้อยอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม แต่ประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่กับดินโครงสร้างและค่า pH [7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ
หลาย Speciales formae ของเชื้อรา Fusarium oxysporum (Fo) Schlechtend:
คุณพ่อ เป็นเชื้อก่อโรคที่สำคัญที่ก่อให้เกิดโรคเหี่ยวในหลาย
พืชที่แตกต่างกัน นี่คือสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในดินแพร่หลาย
เชื้อราที่ยังเป็นส่วนประกอบปกติของชุมชนเชื้อราใน
บริเวณรากของพืช [1], [2], [3] ในอดีตที่ทำให้เกิดโรค Fo
แยกแสดงความจำเพาะสูงโฮสต์ได้รับการแบ่งออกเป็นมากขึ้น
กว่า 150 formae Speciales ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์พืชและพันธุ์พวกเขา
ติดเชื้อ [4] กลุ่มคนเหล่านี้ Speciales formae, F. oxysporum ฉ Sp.
cucumerinum (ฟรี) เป็นหนึ่งในเชื้อโรคที่สำคัญที่ทำให้เกิด
เชื้อรา Fusarium แตงกวาเหี่ยวมากที่สุดในพื้นที่การผลิตรวมทั้ง
อเมริกาเหนือยุโรปและเอเชีย [5] ปัจจุบันวิธีการต่างๆ
มีการทำงานในการควบคุมโรคนี้รวมทั้งการเพาะพันธุ์
ต้านทานการประยุกต์ใช้สารกำจัดเชื้อรา, การปลูกพืชหมุนเวียน, การแก้ไขดิน
และการควบคุมทางชีวภาพ อย่างไรก็ตามสำหรับการเพาะพันธุ์ต้านทานและการเพาะปลูก
การปฏิบัติที่หมุนเป็นเวลานานและการใช้สารฆ่าเชื้อรา
สามารถเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม [6] ปรับปรุงดินมีน้อย
อันตรายต่อสิ่งแวดล้อม แต่ประสิทธิภาพมักจะขึ้นอยู่บนพื้นดิน
และโครงสร้างค่า pH [7]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
มากมาย formae speciales ของ Fusarium oxysporum ( FO ) schlechtend :
เเป็นสิ่งสำคัญ เชื้อโรคที่ทำให้เกิดโรคเหี่ยวเขียวในพืชเป็นเจ้าภาพที่แตกต่างกันมากมาย

สายพันธุ์นี้เป็นเชื้อราที่อาศัยอยู่ในดินที่แพร่หลาย
ยังตกเป็นปกติของชุมชน
rhizospheres เชื้อราในพืช [ 1 ] , [ 2 ] , [ 3 ] ในอดีต โรค
.สามารถแสดงความจำเพาะสูงได้ถูกแบ่งเป็นโฮสมากกว่า
กว่า 150 formae speciales ขึ้นอยู่กับชนิดของพืช และพันธุ์พวกเขา
ติดเชื้อ [ 4 ] ระหว่าง speciales formae เหล่านี้ , F . oxysporum F .
cucumerinum ( ไม่คิดค่าบริการ ) เป็นหนึ่งในโรคที่เป็นสาเหตุสำคัญในพื้นที่การผลิตแตงกวาเหี่ยวเฉา Fusarium

ส่วนใหญ่ ได้แก่ อเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย [ 5 ] ในปัจจุบัน หลายวิธี
จะถูกใช้ในการควบคุมโรคนี้ ได้แก่ การปรับปรุงพันธุ์เพื่อต้านทาน
, โปรแกรม , การปลูกพืชหมุนเวียน , แก้ไขเพิ่มเติมดินแห้ง
, และการควบคุมทางชีวภาพ อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงพันธุ์พืชให้ต้านทานและการปฏิบัติการปลูกพืชหมุนเวียน
จะใช้เวลานาน และใช้สารเคมี
สามารถเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม [ 6 ] การปรับปรุงดินมีน้อย
เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม แต่ประสิทธิภาพมักจะขึ้นอยู่กับดิน
โครงสร้างและ pH [ 7 ]