An electronic ballast uses solid st

An electronic ballast uses solid state electronic circuitry to provide the proper starting and operating electrical conditions to power discharge lamps. An electronic ballast can be smaller and lighter than a comparably-rated magnetic one. An electronic ballast is usually quieter than a magnetic one, which produces a line-frequency hum by vibration of the transformer laminations. [1]

Electronic ballasts are often based on the SMPS topology, first rectifying the input power and then chopping it at a high frequency. Advanced electronic ballasts may allow dimming via pulse-width modulation or via changing the frequency to a higher value. Ballasts incorporating a microcontroller (digital ballasts) may offer remote control and monitoring via networks such as LonWorks, DALI, DMX512, DSI or simple analog control using a 0-10 V DC brightness control signal. Systems with remote control of light level via a wireless mesh network have been introduced. [2]


Electronic ballast of a compact fluorescent lamp
Electronic ballasts usually supply power to the lamp at a frequency of 20,000 Hz or higher, rather than the mains frequency of 50 - 60 Hz; this substantially eliminates the stroboscopic effect of flicker, a product of the line frequency associated with fluorescent lighting (see photosensitive epilepsy). The high output frequency of an electronic ballast refreshes the phosphors in a fluorescent lamp so rapidly that there is no perceptible flicker. The flicker index, used for measuring perceptible light modulation, has a range from 0.00 to 1.00, with 0 indicating the lowest possibility of flickering and 1 indicating the highest. Lamps operated on magnetic ballasts have a flicker index between 0.04-0.07 while digital ballasts have a flicker index of below 0.01.[3]

Because more gas remains ionized in the arc stream, the lamp operates at about 9% higher efficacy above approximately 10 kHz. Lamp efficacy increases sharply at about 10 kHz and continues to improve until approximately 20 kHz.[4] Trials are ongoing in some Canadian provinces to assess cost savings potential of digital ballast retrofits to existing street lights.[5]

With the higher efficiency of the ballast itself and the higher lamp efficacy at higher frequency, electronic ballasts offer higher system efficacy for low pressure lamps like the fluorescent lamp. For HID lamps there is no improvement of the lamp efficacy in using higher frequency, but for these lamps the ballast losses are lower at higher frequencies and also the light depreciation is lower, meaning the lamp produces more light over its entire lifespan.[citation needed] Some HID lamp types like the ceramic discharge metal halide lamp have reduced reliability when operated at high frequencies in the range of 20 - 200 kHz; for these lamps a square wave low frequency current drive is mostly used with frequency in the range of 100 - 400 Hz, with the same advantage of lower light depreciation.[citation needed]

Application of electronic ballasts is growing in popularity. Most newer generation electronic ballasts can operate both high pressure sodium (HPS) lamps as well as metal-halide lamps, reducing costs for building managers who use both types of lamps. Electronic ballasts (digital ballasts) also run much cooler and are lighter than their magnetic counterparts.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์สถานะของแข็งเพื่อให้เริ่มต้นที่เหมาะสมและเงื่อนไขไฟฟ้าไฟปล่อยโคมไฟการใช้งาน บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์สามารถเลือกใช้ได้ตั้งแต่ขนาดเล็ก และเบามากกว่าคะแนนปานแม่เหล็ก บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์จะมักจะเงียบมากกว่าแม่เหล็ก ที่ผลิตฮัมบรรทัดความถี่การสั่นสะเทือนของ laminations หม้อแปลง [1]บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์มักจะอิงโลยี SMPS แรก แน่อินพุต และสับที่ความถี่สูง บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงอาจทำให้ลดความกว้างของพัลส์สัญญาณ หรือผ่าน ทางการเปลี่ยนความถี่ที่สูงกว่าค่า บัลลาสต์ที่เว็บไมโครคอนโทรลเลอร์ (บัลลาสต์ดิจิตอล) อาจมีการควบคุมระยะไกลและตรวจสอบผ่านทางเครือข่ายเช่น LonWorks ต้าหลี่ DMX512, DSI หรือควบคุมนะง่ายโดยใช้สัญญาณควบคุมความสว่าง V DC 0-10 มีการใช้ระบบควบคุมระยะไกลของระดับแสงผ่านเครือข่ายไร้ [2]อิเล็กทรอนิกส์บัลลาสต์ของหลอดฟลูออเรสเซนต์มีขนาดกะทัดรัดบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์มักจะจ่ายไฟให้หลอดที่ความถี่ 20,000 Hz หรือสูงก ว่า แทนไฟความถี่ 50-60 เฮิรตซ์ นี้มากขจัดผลยิงของการสั่นไหว ผลิตภัณฑ์ความถี่บรรทัดที่เกี่ยวข้องกับแสงไฟฟลูออเรสเซนต์ (ดูโรคลมชักแสง) ความถี่สูงของบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์การฟื้นฟู phosphors ในหลอดฟลูออเรสเซนต์อย่างรวดเร็วว่า มีกะพริบไม่สำเหนียก ดัชนีการกะพริบ ใช้สำหรับการวัดสัญญาณแสงชัดเจน มีช่วงจาก 0.00 ถึง 1.00, 0 บ่งต่ำสุดของกระพริบและระบุ 1 สูงที่สุด ดำเนินการในบัลลาสต์แม่เหล็กโคมไฟมีดัชนีกะพริบระหว่าง 0.04-0.07 ในขณะที่บัลลาสต์ดิจิตอลมีดัชนีการกะพริบของด้านล่าง 0.01 [3]เนื่องจากก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมยังคงแตกตัวเป็นไอออนในสตรีมอาร์ค โคมไฟทำงานที่ประมาณ 9% ประสิทธิภาพสูงเหนือประมาณ 10 kHz โคมไฟประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่ประมาณ 10 kHz และมีการปรับปรุงจนถึงประมาณ 20 kHz [4] ทดลองใช้มีอย่างต่อเนื่องในบางจังหวัดแคนาดาเพื่อประเมินต้นทุนศักยภาพประหยัดของบัลลาสต์ดิจิตอล retrofits การไฟถนนที่มีอยู่ [5]ด้วยประสิทธิภาพสูงของบัลลาสต์เองและโคมไฟประสิทธิภาพสูงที่ความถี่สูง บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์มีประสิทธิภาพสูงของระบบสำหรับแรงดันหลอดเช่นหลอดฟลูออเรสเซนต์ สำหรับหลอด HID มีการปรับปรุงประสิทธิภาพโคมไฟโดยใช้ความถี่สูง แต่สำหรับหลอดไฟเหล่านี้ สูญเสียบัลลาสต์เป็นต่ำที่ความถี่สูง และยัง เสื่อมแสงต่ำ หมายถึง โคมไฟให้ความสว่างเพิ่มเติมผ่านอายุการใช้งานทั้งหมด [อ้างจำเป็น] บางชนิดหลอด HID เช่นไฟไลด์จำหน่ายเซรามิกมีลดความน่าเชื่อถือเมื่อดำเนินการที่ความถี่สูงในช่วง 20-200 kHz สำหรับหลอดไฟเหล่านี้ เป็นคลื่นสี่เหลี่ยมความถี่ต่ำไดรฟ์ปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้กับความถี่ในช่วง 100-400 Hz มีประโยชน์เดียวกันของเสื่อมแสงต่ำ [อ้างจำเป็น]ใช้บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์มีการเติบโตในความนิยม รุ่นใหม่สุดรุ่น ballasts อิเล็กทรอนิกส์สามารถใช้งานหลอดไฟโซเดียม (HPS) แรงดันสูงเช่นเดียวกับโคมไฟโลหะโฟ ลดต้นทุนสำหรับการสร้างผู้จัดการที่ใช้ทั้งสองประเภทของโคมไฟ อิเล็กทรอนิกส์บัลลาสต์ (บัลลาสต์ดิจิตอล) ยังรันเย็นมาก และมีน้ำหนักเบากว่าคู่ของพวกเขาแม่เหล็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ของรัฐที่มั่นคงใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้เริ่มต้นที่เหมาะสมและสภาวะการทำงานไฟฟ้าโคมไฟปล่อยพลังงาน บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์จะมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบากว่าปานอันดับหนึ่งแม่เหล็ก บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์มักจะเงียบกว่าหนึ่งแม่เหล็กซึ่งเป็นผู้ผลิตครวญเพลงสายความถี่โดยการสั่นสะเทือนของ laminations หม้อแปลง [1] บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์มักจะขึ้นอยู่กับโครงสร้าง SMPS แรกแก้ไขไฟฟ้าเข้าแล้วสับมันที่ความถี่สูง บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงอาจช่วยให้ลดแสงผ่านชีพจรความกว้างหรือผ่านการเปลี่ยนความถี่ให้เป็นค่าที่สูงขึ้น บัลลาสต์ที่ผสมผสานไมโครคอนโทรลเลอร์ (บัลลาสต์ดิจิตอล) อาจมีการควบคุมระยะไกลและการตรวจสอบผ่านทางเครือข่ายเช่น LonWorks ต้าหลี่, DMX512, กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือการควบคุมแบบอะนาล็อกง่ายโดยใช้สัญญาณควบคุม 0-10 V DC สว่าง ระบบที่มีการควบคุมระยะไกลของระดับแสงผ่านเครือข่ายไร้สายตาข่ายได้รับการแนะนำ [2] บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ของหลอดไฟนีออนขนาดกะทัดรัดบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์มักจะจ่ายพลังงานให้กับหลอดไฟที่ความถี่ 20,000 เฮิร์ตซ์หรือสูงกว่ามากกว่าความถี่ของไฟ 50-60 เฮิร์ตซ์; นี้อย่างมีนัยสำคัญจะช่วยลดผลกระทบของการสั่นไหว stroboscopic ผลิตภัณฑ์จากเส้นความถี่ที่เกี่ยวข้องกับแสงไฟนีออน (ดูโรคลมชักแสง) ความถี่ในการส่งออกสูงของบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์รีเฟรชสารเรืองแสงในโคมไฟเรืองแสงอย่างรวดเร็วว่าไม่มีการสั่นไหวสำเหนียก ดัชนีการสั่นไหวที่ใช้สำหรับการวัดแสงเอฟเอ็มสำเหนียกมีช่วง 0.00-1.00 ด้วย 0 บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ต่ำสุดของริบหรี่และ 1 แสดงให้เห็นสูงสุด โคมไฟผ่าตัดบัลลาสต์แม่เหล็กมีดัชนีการสั่นไหวระหว่าง 0.04-0.07 ขณะที่บัลลาสต์ดิจิตอลมีดัชนีสั่นไหวของด้านล่าง 0.01. [3] เพราะก๊าซมากขึ้นยังคงแตกตัวเป็นไอออนในกระแสโค้ง, โคมไฟทำงานที่ประสิทธิภาพสูงประมาณ 9% สูงกว่าประมาณ 10 เฮิร์ทซ์ . โคมไฟประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วประมาณ 10 เฮิร์ทซ์และยังคงดีขึ้นจนเกือบ 20 kHz. [4] การทดลองอย่างต่อเนื่องในบางจังหวัดของประเทศแคนาดาเพื่อประเมินประหยัดค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นของรถยนต์ปอร์เช่บัลลาสต์ดิจิตอลเพื่อไฟถนนที่มีอยู่. [5] ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นของ บัลลาสต์ตัวเองและประสิทธิภาพโคมไฟที่สูงขึ้นในความถี่สูง, บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์มีความรู้ความสามารถของระบบที่สูงขึ้นสำหรับโคมไฟแรงดันต่ำเช่นหลอดไฟนีออน สำหรับโคมไฟ HID มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของหลอดไฟในการใช้ความถี่สูงไม่ แต่สำหรับหลอดไฟเหล่านี้การสูญเสียบัลลาสต์จะลดลงที่ความถี่สูงและค่าเสื่อมราคาเบาต่ำหมายถึงโคมไฟผลิตแสงมากขึ้นในช่วงอายุการใช้งานทั้งหมด. [อ้างจำเป็น ] บางชนิดหลอด HID เช่นปล่อยโคมไฟ halide โลหะเซรามิกที่มีการลดความน่าเชื่อถือเมื่อดำเนินการในความถี่ที่สูงขึ้นในช่วง 20 - 200 เฮิร์ทซ์; สำหรับหลอดเหล่านี้ตารางคลื่นความถี่ต่ำไดรฟ์ปัจจุบันส่วนใหญ่จะใช้ที่มีความถี่อยู่ในช่วง 100 - 400 เฮิร์ตซ์ที่มีประโยชน์เดียวกันของค่าเสื่อมราคาที่ต่ำกว่าแสง [ต้องการอ้างอิง]. การประยุกต์ใช้บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีการเติบโตในความนิยม ส่วนใหญ่รุ่นใหม่กว่าบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์สามารถทำงานได้ทั้งโซเดียมความดันสูง (HPS) โคมไฟเช่นเดียวกับโคมไฟโลหะลิดลดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้บริหารอาคารที่ใช้ทั้งสองประเภทของโคมไฟ บัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ (บัลลาสต์ดิจิตอล) ยังทำงานเย็นมากและมีน้ำหนักเบากว่าคู่แม่เหล็กของพวกเขา