The post–World War II global econom

The post–World War II global economy has experienced its share of crises, from the oil shocks and “stagflation” of the 1970s to the Asian financial crisis and “dot-com” bust of more recent memory. Each time, the economy has rebounded and gone on to bigger and faster global growth. But something changed in the summer of 2008. Global economic and energy trends started changing faster and more worryingly than even most pessimists expected. Framed by an oil price spike to nearly $150 a barrel in July and the beginning of the Wall Street collapse in September, that summer has proved to be a major turning point. Few, however, seem to fully understand its significance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เศรษฐกิจโลกสงครามลง – โลกมีประสบการณ์สัดวิกฤต จากแรงกระแทกน้ำมันและ "stagflation" ของสาว ๆ กับวิกฤตการเงินเอเชียและหน้าอก "สบู่ดอตคอม" หน่วยความจำล่าสุด กัน เศรษฐกิจได้ฟื้นตัว และไปเติบโตใหญ่ และส่วนกลางได้เร็วขึ้น แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในช่วงฤดูร้อน 2008 แนวโน้มเศรษฐกิจและพลังงานของโลกเริ่มเปลี่ยนแปลงเร็ว และ worryingly กว่า pessimists แม้ส่วนใหญ่คาดว่า กรอบ โดยการเก็บชั่วคราวราคาน้ำมันไปเกือบ $150 บาร์เรลในเดือนกรกฎาคมและจุดเริ่มต้นของวอลล์สตรีทยุบในเดือนกันยายน ที่ร้อนได้พิสูจน์ให้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ อย่างไรก็ตาม น้อย ดูเหมือนจะเข้าใจความสำคัญของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังสงครามโลกครั้งที่สองเศรษฐกิจโลกที่มีประสบการณ์ร่วมกันของวิกฤตจากแรงกระแทกน้ำมันและ "stagflation" ของปี 1970 ที่จะเกิดวิกฤตทางการเงินในเอเชียและ "ดอตคอม" หน้าอกของหน่วยความจำมากขึ้นล่าสุด ทุกครั้งที่เศรษฐกิจมีการฟื้นตัวและหายไปในการเจริญเติบโตที่ใหญ่กว่าและทั่วโลกได้เร็วขึ้น แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปในช่วงฤดู​​ร้อนของปี 2008 แนวโน้มเศรษฐกิจและพลังงานทั่วโลกเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้นและไม่แยแสกว่าแม้ pessimists มากที่สุดคาดว่า ล้อมกรอบด้วยเข็มราคาน้ำมันไปเกือบ $ 150 ต่อบาร์เรลในเดือนกรกฎาคมและจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของ Wall Street ในเดือนกันยายนในช่วงฤดู​​ร้อนที่มีการพิสูจน์แล้วว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ไม่กี่ แต่ดูเหมือนจะเข้าใจความหมายของมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โพสต์ - สงครามโลกครั้งที่สองเศรษฐกิจโลกที่มีส่วนแบ่งของวิกฤตการณ์จากน้ำมันกระแทกและ " stagflation " ของปี 1970 กับวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย และ " ดอทคอม " หน้าอกของหน่วยความจำเพิ่มเติมล่าสุด แต่ละเวลาที่เศรษฐกิจมีการฟื้นตัว และไปที่ใหญ่กว่าและเร็วกว่าโลกเจริญเติบโต แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงในฤดูร้อนของปี 2008แนวโน้มเศรษฐกิจและพลังงานทั่วโลกเริ่มมีการเปลี่ยนเร็วขึ้นและมากขึ้นกว่าแม้ที่สุด worryingly pessimists คาด กรอบราคาน้ํามันชั่วคราวไปเกือบ $ 150 บาร์เรลในเดือนกรกฎาคมและจุดเริ่มต้นของกำแพงถนนยุบในเดือนกันยายน , ฤดูร้อนที่ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นจุดเปลี่ยนสําคัญ . น้อย แต่ดูเหมือนจะเข้าใจความสําคัญของ