โลกใบนี้อยู่ได้เพราะมีแรงขับเคลื่อน

โลกใบนี้อยู่ได้เพราะมีแรงขับเคลื่อนซึ่งเรียกว่าความรัก" ความรักพูด "แต่ฉันไม่เห็นด้วย โลกใบนี้มันอยู่ได้ก็เพราะความเกลียดชังต่างหาก จึงทำให้โลกนี้เป็นอยู่ได้ดังในตอนนี้" ความเกลียดชังพูด ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาแข่งกันดีไหม? ว่าสิ่งใดคือสิ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนโลกใบนี้ ทั้งสองคนตกลงแข่งขันกัน จนกระทั่ง...
เหตุการณ์ครั้งที่หนึ่ง มีคู่รักอยู่หนึ่งคู่ พวกเขาสองคนรักกันมากแต่มีปัญหาอยู่อย่างเดียวก็คือ พ่อแม่ของฝ่ายหญิงไม่อยากให้ไปแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นและพ่อแม่ฝ่ายหญิงก็ได้ทำการคลุมถุงชนลูกสาวของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงทำให้คู่รัก2คนนั้นต้องทุกข์และเศร้าเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงพยายามคิดที่จะหาวิธีซึ่งมาแก้ปัญหานี้ได้ แต่ก็ทำให้ทุกข์อีกกว่าเดิมทั้งนั้น "จงเชื่อในความรักสิ" เสียงความรักดังขึ้น
ทั้งสองคนก็ลองเชื่อในความรักของพวกเขา แต่แล้ววันเวลาผ่านไปนับวันก็ยิ่งแย่ลงๆ ขึ้นทุกวันจนทำให้พวกเราเลิกกันแบบไม่มีอะไรดี
"ความเกลียดชังจึงเป็นฝ่ายชนะไป"
เหตุการณ์ครั้งที่สอง มีคู่รักวัยรุ่นอยู่คู่หนึ่ง เป็นคู่รักวัยรุ่นธรรมดาๆ แต่แล้ววันหนึ่งผู้ชายได้เห็นผู้หญิงที่รักของตนไปเดินกับผู้ชายคนอื่น
ทำให้ผู้ชายคนนั้นเศร้าจนมีความคิดเข้ามาในหัวมา อยากฆ่าตัวตาย ทันใดนั้นเขาก็ได้ดำเนินการตามความคิดของเขา เขาเดินขึ้นไปบนด่านฟ้าแห่งหนึ่ง แล้วกำลังจะกระโดดลงมา แต่ในวินาทีนั้น ก็มีมือของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งก็คือผู้หญิงที่รักนั่นเอง เขามากอดจากข้างหลังแล้วก็อธิบายว่า "ผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนที่โรงเรียน เราแค่สนิทกันเฉยๆ" เมื่อผู้ชายได้ยินทั้งสองก็ได้ปรับความเข้าใจกันแล้วจึงได้กลับมารักกันเหมือนเดิม
"ความรักจึงเป็นฝ่ายชนะไป"
เหตุการณ์ครั้งที่สาม มีคู่รักอยู่คู่หนึ่ง ฝ่ายชายได้แอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง แอบชอบมาตั้งแต่ตอนเข้าเรียนใหม่ๆ แล้วดูเหมือนกับว่าฝ่ายหญิงเขาก็น่าจะชอบฝ่ายชายเหมือนกัน พวกเขาทั้งสองก็เริ่มทำความรู้จักกัน เริ่มสนิทกันมาเรื่อยๆ จนในวันหนึ่งฝ่ายชายก็มารู้ทีหลังว่าผู้หญิงคนนั้นมีแฟนแล้ว จึงทำให้ผู้ชายคนนั้นเขาทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก ความรักของเขาเริ่มที่จะหมดหวังลงไป.... ผู้ชายคนนั้นเกลียดชังผู้หญิงคนนั้นมากที่มาหลอกลวง จนวันหนึ่งเขาก็ได้เข้าใจทุกๆสิ่งว่า ความรักนั้นมันไม่ใช่ทุกๆสิ่ง เขาพยายามที่จะลืมผู้หญิงคนนั้นให้ได้ จนวันหนึ่งเขาก็สามารถที่จะลืมผู้หญิงคนนั้นได้ ความเกลียดชังนั้นก็ได้หายไปหมดสิ้น จนทำให้พวกเขากลับมาพูดคุยกันเหมือนเดิมได้ปกติแบบเพื่อน
"ความรักจึงเป็นฝ่ายชนะอีกครั้งหนึ่ง"
เหตุการณ์ครั้งที่สี่ มีผู้หญิงคนหนึ่ง เธอพึ่งจะอกหักมาจากคนรักของเธอ จนครั้งหนึ่งเธอได้ไปเที่ยวกับเพื่อนตามแบบเด็กวัยรุ่นๆ พวกเขาได้ไปเที่ยวกันแล้วได้พบเจอกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นอดีตคนรักของเธอ ซึ่งเขาไม่ได้มาคนเดียวเขามากับคนรักใหม่ของเขาอีกด้วย จนทำให้ผู้หญิงคนนั้นอดกลั้นความโกรธและความเกลียดแค้นชังนั้นไม่ไหว จนมันแทบจะระเบิดออกมา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่คิด แล้วก็ทำเป็นไม่เห็น เก็บความเศร้าและความเกลียดชังเอาไว้ข้างใน......
"ความเกลียดชังเป็นฝ่ายชนะ"
"ฉันว่านะเธอเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆก็จะมีแต่ชนะแพ้ชนะแพ้ เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆแน่เลยนายว่าไหม" ความรักเป็นคนพูด "ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละอย่างไรก็ตามนี่ก็ยังถือว่าพวกเรายังเสมอกันอยู่นะ" ความเกลียดชังพูด
จากบทความเนื้อเรื่องนี้ก็ทำให้รู้ว่าไม่ว่าจะเป็นความรัก ความเกลียดชัง หรืออะไรๆก็ตาม ความเศร้า ความทุกข์ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีการเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตามกาลเวลา ความรักก็เช่นกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โลกใบนี้อยู่ได้เพราะมีแรงขับเคลื่อนซึ่งเรียกว่าความรัก"ความรักพูด"แต่ฉันไม่เห็นด้วยโลกใบนี้มันอยู่ได้ก็เพราะความเกลียดชังต่างหากจึงทำให้โลกนี้เป็นอยู่ได้ดังในตอนนี้"ความเกลียดชังพูดถ้าอย่างนั้นพวกเรามาแข่งกันดีไหม ว่าสิ่งใดคือสิ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนโลกใบนี้ทั้งสองคนตกลงแข่งขันกันจนกระทั่ง...เหตุการณ์ครั้งที่หนึ่งมีคู่รักอยู่หนึ่งคู่พวกเขาสองคนรักกันมากแต่มีปัญหาอยู่อย่างเดียวก็คือพ่อแม่ของฝ่ายหญิงไม่อยากให้ไปแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นและพ่อแม่ฝ่ายหญิงก็ได้ทำการคลุมถุงชนลูกสาวของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงทำให้คู่รัก2คนนั้นต้องทุกข์และเศร้าเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงพยายามคิดที่จะหาวิธีซึ่งมาแก้ปัญหานี้ได้แต่ก็ทำให้ทุกข์อีกกว่าเดิมทั้งนั้น "จงเชื่อในความรักสิ" เสียงความรักดังขึ้นทั้งสองคนก็ลองเชื่อในความรักของพวกเขาแต่แล้ววันเวลาผ่านไปนับวันก็ยิ่งแย่ลง ๆ ขึ้นทุกวันจนทำให้พวกเราเลิกกันแบบไม่มีอะไรดี"ความเกลียดชังจึงเป็นฝ่ายชนะไป"เหตุการณ์ครั้งที่สองมีคู่รักวัยรุ่นอยู่คู่หนึ่งเป็นคู่รักวัยรุ่นธรรมดา ๆ แต่แล้ววันหนึ่งผู้ชายได้เห็นผู้หญิงที่รักของตนไปเดินกับผู้ชายคนอื่นทำให้ผู้ชายคนนั้นเศร้าจนมีความคิดเข้ามาในหัวมาอยากฆ่าตัวตายทันใดนั้นเขาก็ได้ดำเนินการตามความคิดของเขาเขาเดินขึ้นไปบนด่านฟ้าแห่งหนึ่งแล้วกำลังจะกระโดดลงมาแต่ในวินาทีนั้นก็มีมือของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งก็คือผู้หญิงที่รักนั่นเองเขามากอดจากข้างหลังแล้วก็อธิบายว่า "ผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนที่โรงเรียนเราแค่สนิทกันเฉยๆ" เมื่อผู้ชายได้ยินทั้งสองก็ได้ปรับความเข้าใจกันแล้วจึงได้กลับมารักกันเหมือนเดิม"ความรักจึงเป็นฝ่ายชนะไป"เหตุการณ์ครั้งที่สามมีคู่รักอยู่คู่หนึ่งฝ่ายชายได้แอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งแอบชอบมาตั้งแต่ตอนเข้าเรียนใหม่ ๆ แล้วดูเหมือนกับว่าฝ่ายหญิงเขาก็น่าจะชอบฝ่ายชายเหมือนกันพวกเขาทั้งสองก็เริ่มทำความรู้จักกันเริ่มสนิทกันมาเรื่อย ๆ จนในวันหนึ่งฝ่ายชายก็มารู้ทีหลังว่าผู้หญิงคนนั้นมีแฟนแล้วจึงทำให้ผู้ชายคนนั้นเขาทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากความรักของเขาเริ่มที่จะหมดหวังลงไป... ผู้ชายคนนั้นเกลียดชังผู้หญิงคนนั้นมากที่มาหลอกลวงจนวันหนึ่งเขาก็ได้เข้าใจทุกๆสิ่งว่าความรักนั้นมันไม่ใช่ทุกๆสิ่งเขาพยายามที่จะลืมผู้หญิงคนนั้นให้ได้จนวันหนึ่งเขาก็สามารถที่จะลืมผู้หญิงคนนั้นได้ความเกลียดชังนั้นก็ได้หายไปหมดสิ้นจนทำให้พวกเขากลับมาพูดคุยกันเหมือนเดิมได้ปกติแบบเพื่อน"ความรักจึงเป็นฝ่ายชนะอีกครั้งหนึ่ง"เหตุการณ์ครั้งที่สี่ มีผู้หญิงคนหนึ่ง เธอพึ่งจะอกหักมาจากคนรักของเธอ จนครั้งหนึ่งเธอได้ไปเที่ยวกับเพื่อนตามแบบเด็กวัยรุ่นๆ พวกเขาได้ไปเที่ยวกันแล้วได้พบเจอกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นอดีตคนรักของเธอ ซึ่งเขาไม่ได้มาคนเดียวเขามากับคนรักใหม่ของเขาอีกด้วย จนทำให้ผู้หญิงคนนั้นอดกลั้นความโกรธและความเกลียดแค้นชังนั้นไม่ไหว จนมันแทบจะระเบิดออกมา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่คิด แล้วก็ทำเป็นไม่เห็น เก็บความเศร้าและความเกลียดชังเอาไว้ข้างใน......"ความเกลียดชังเป็นฝ่ายชนะ""ฉันว่านะเธอเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆก็จะมีแต่ชนะแพ้ชนะแพ้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆแน่เลยนายว่าไหม" ความเกลียดชังพูดความรักเป็นคนพูด "ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละอย่างไรก็ตามนี่ก็ยังถือว่าพวกเรายังเสมอกันอยู่นะ" จากบทความเนื้อเรื่องนี้ก็ทำให้รู้ว่าไม่ว่าจะเป็นความรักความเกลียดชังหรืออะไรๆก็ตามความเศร้าความทุกข์ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีการเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตามกาลเวลาความรักก็เช่นกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความรักพูด "แต่ฉันไม่เห็นด้วย ความเกลียดชังพูดถ้าอย่างนั้นพวกเรามาแข่งกันดีไหม? ทั้งสองคนตกลงแข่งขันกันจนกระทั่ง ...
เหตุการณ์ครั้งที่หนึ่งมีคู่รักอยู่หนึ่งคู่ "จงเชื่อในความรักสิ" มีคู่รักวัยรุ่นอยู่คู่หนึ่งเป็นคู่รักวัยรุ่นธรรมดา ๆ อยากฆ่าตัวตาย เขาเดินขึ้นไปบนด่านฟ้าแห่งหนึ่งแล้วกำลังจะกระโดดลงมา แต่ในวินาทีนั้น "ผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนที่โรงเรียนเราแค่สนิทกันเฉยๆ" มีคู่รักอยู่คู่หนึ่งฝ่ายชายได้แอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งแอบชอบมาตั้งแต่ตอนเข้าเรียนใหม่ ๆ เริ่มสนิทกันมาเรื่อย ๆ ความรักนั้นมันไม่ใช่ทุกๆสิ่ง มีผู้หญิงคนหนึ่งเธอพึ่งจะอกหักมาจากคนรักของเธอ จนมันแทบจะระเบิดออกมา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ก็ได้ แต่คิดแล้วก็ทำเป็นไม่เห็น ความรักเป็นคนพูด ความเกลียดชังหรืออะไร ๆ ก็ตามความเศร้าความทุกข์ ความรักก็เช่นกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โลกใบนี้อยู่ได้เพราะมีแรงขับเคลื่อนซึ่งเรียกว่าความรัก " ความรักพูด " แต่ฉันไม่เห็นด้วยโลกใบนี้มันอยู่ได้ก็เพราะความเกลียดชังต่างหากจึงทำให้โลกนี้เป็นอยู่ได้ดังในตอนนี้ " ความเกลียดชังพูดว่าสิ่งใดคือสิ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนโลกใบนี้ทั้งสองคนตกลงแข่งขันกันจนกระทั่ง
. . . . . . .เหตุการณ์ครั้งที่หนึ่งมีคู่รักอยู่หนึ่งคู่พวกเขาสองคนรักกันมากแต่มีปัญหาอยู่อย่างเดียวก็คือจึงทำให้คู่รัก 2 คนนั้นต้องทุกข์และเศร้าเป็นอย่างมากพวกเขาจึงพยายามคิดที่จะหาวิธีซึ่งมาแก้ปัญหานี้ได้แต่ก็ทำให้ทุกข์อีกกว่าเดิมทั้งนั้น " จงเชื่อในความรักสิ " เสียงความรักดังขึ้น
ทั้งสองคนก็ลองเชื่อในความรักของพวกเขาแต่แล้ววันเวลาผ่านไปนับวันก็ยิ่งแย่ลงๆขึ้นทุกวันจนทำให้พวกเราเลิกกันแบบไม่มีอะไรดี

" ความเกลียดชังจึงเป็นฝ่ายชนะไป "เหตุการณ์ครั้งที่สองมีคู่รักวัยรุ่นอยู่คู่หนึ่งเป็นคู่รักวัยรุ่นธรรมดาๆแต่แล้ววันหนึ่งผู้ชายได้เห็นผู้หญิงที่รักของตนไปเดินกับผู้ชายคนอื่น
ทำให้ผู้ชายคนนั้นเศร้าจนมีความคิดเข้ามาในหัวมาอยากฆ่าตัวตายทันใดนั้นเขาก็ได้ดำเนินการตามความคิดของเขาเขาเดินขึ้นไปบนด่านฟ้าแห่งหนึ่งแล้วกำลังจะกระโดดลงมาแต่ในวินาทีนั้นเขามากอดจากข้างหลังแล้วก็อธิบายว่า " ผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนที่โรงเรียนเราแค่สนิทกันเฉยๆ " เมื่อผู้ชายได้ยินทั้งสองก็ได้ปรับความเข้าใจกันแล้วจึงได้กลับมารักกันเหมือนเดิม
" ความรักจึงเป็นฝ่ายชนะไป "
เหตุการณ์ครั้งที่สามมีคู่รักอยู่คู่หนึ่งฝ่ายชายได้แอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งแอบชอบมาตั้งแต่ตอนเข้าเรียนใหม่ๆแล้วดูเหมือนกับว่าฝ่ายหญิงเขาก็น่าจะชอบฝ่ายชายเหมือนกันพวกเขาทั้งสองก็เริ่มทำความรู้จักกันจนในวันหนึ่งฝ่ายชายก็มารู้ทีหลังว่าผู้หญิงคนนั้นมีแฟนแล้วจึงทำให้ผู้ชายคนนั้นเขาทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากความรักของเขาเริ่มที่จะหมดหวังลงไป .. . . . . . .ผู้ชายคนนั้นเกลียดชังผู้หญิงคนนั้นมากที่มาหลอกลวงจนวันหนึ่งเขาก็ได้เข้าใจทุกๆสิ่งว่าความรักนั้นมันไม่ใช่ทุกๆสิ่งเขาพยายามที่จะลืมผู้หญิงคนนั้นให้ได้จนวันหนึ่งเขาก็สามารถที่จะลืมผู้หญิงคนนั้นได้จนทำให้พวกเขากลับมาพูดคุยกันเหมือนเดิมได้ปกติแบบเพื่อน
" ความรักจึงเป็นฝ่ายชนะอีกครั้งหนึ่ง "
เหตุการณ์ครั้งที่สี่มีผู้หญิงคนหนึ่งเธอพึ่งจะอกหักมาจากคนรักของเธอจนครั้งหนึ่งเธอได้ไปเที่ยวกับเพื่อนตามแบบเด็กวัยรุ่นๆพวกเขาได้ไปเที่ยวกันแล้วได้พบเจอกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นอดีตคนรักของเธอจนทำให้ผู้หญิงคนนั้นอดกลั้นความโกรธและความเกลียดแค้นชังนั้นไม่ไหวจนมันแทบจะระเบิดออกมาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่คิดแล้วก็ทำเป็นไม่เห็นเก็บความเศร้าและความเกลียดชังเอาไว้ข้างใน .. . . . .

" ความเกลียดชังเป็นฝ่ายชนะ "" ฉันว่านะเธอเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆก็จะมีแต่ชนะแพ้ชนะแพ้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆแน่เลยนายว่าไหม " ความรักเป็นคนพูด " ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละอย่างไรก็ตามนี่ก็ยังถือว่าพวกเรายังเสมอกันอยู่นะ " ความเกลียดชังพูด
จากบทความเนื้อเรื่องนี้ก็ทำให้รู้ว่าไม่ว่าจะเป็นความรักความเกลียดชังหรืออะไรๆก็ตามความเศร้าความทุกข์ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีการเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตามกาลเวลาความรักก็เช่นกัน