The raj pattern was devised by King

The raj pattern was devised by King Chulalongkorn during his visit to British India in 1871, where he hired a Calcutta tailor to make a jacket with a standing collar and buttoned vertical opening. Previously in 1870, the king had had his entourage dress in a combination of chong kraben (a wrap worn with part of the fabric folded back between the legs and tucked behind the waist) and Western suit jacket, socks and shoes during his visit to Singapore and Java. This new jacket replaced the suit jacket, alleviating the need for a separate layer of shirt in the hot climate, and the dress soon became the de facto civil uniform.[1] It was worn both officially and privately and remained popular until the Pibulsonggram era, when the chong kraben was banned by cultural mandate. The name raj pattern, from Pali rājā and English pattern and meaning royal pattern,[2] was coined by Phon Bunnak (later the Chao Phraya Phasakorawong), who was acting as royal secretary during the king's journey.[

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลายราชถูกคิดค้นโดยในช่วงของพระองค์ไปยังบริติชอินเดียใน 1871 ที่เขาจ้างซักเสื้อผ้าทำเสื้อกับคอยืน และ buttoned เปิดแนวตั้ง ก่อนหน้านี้ ในค.ศ. 1870 กษัตริย์มีได้สิ่งของเขาแต่งตัวในชุดของช่อง kraben (ตัดการสวมใส่กับส่วนของผ้าที่พับกลับระหว่างขา และห้องด้านหลังเอว) และเสื้อชุดตะวันตก ถุงเท้า และรองเท้าระหว่างเขาเยือนสิงคโปร์และชวา เสื้อใหม่นี้แทนเสื้อชุด บรรเทาจำเป็นต้องแยกชั้นของเสื้อยืดในสภาพอากาศร้อน และการแต่งกายจนกลายเป็น เครื่องแบบพลเรือนที่เดิม [1] มันถูกสวมใส่อย่างเป็นทาง และเป็นส่วนตัว และยังคงนิยมจนถึงยุค Pibulsonggram เมื่อ kraben จงถูกห้าม โดยข้อบังคับทางวัฒนธรรม ชื่อราชรูปแบบ rājā บาลีภาษาอังกฤษ และความหมายรูป แบบรอยัล, [2] ถูกจังหวะ โดยบุนนากโพน (ภายหลัง Phasakorawong เจ้าพระยา), ซึ่งทำหน้าที่เป็นเลขานุการหลวงในระหว่างการเดินทางของพระมหากษัตริย์ [

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปแบบการปกครองที่ถูกคิดค้นโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าในช่วงที่เขาไปเยือนอินเดียของอังกฤษในปี 1871 ที่เขาจ้างตัดกัลกัตที่จะทำให้แจ็คเก็ตที่มีคอปกติดกระดุมยืนและเปิดแนวตั้ง ก่อนหน้านี้ในปี 1870 กษัตริย์ได้มีการแต่งกายสิ่งแวดล้อมของเขาในการรวมกันของปากช่องกระเบน (ห่อสวมใส่กับส่วนหนึ่งของผ้าพับกลับระหว่างขาและซุกอยู่ด้านหลังเอว) และเสื้อสูทตะวันตกถุงเท้าและรองเท้าในระหว่างที่เขาไปเยือนสิงคโปร์ และ Java นี้แจ็คเก็ตใหม่แทนที่เสื้อสูทที่บรรเทาความจำเป็นในการแยกชั้นของเสื้อในสภาพภูมิอากาศร้อนและการแต่งกายในเร็ว ๆ นี้กลายเป็นพฤตินัยเครื่องแบบพลเรือน. [1] มันถูกสวมใส่ทั้งอย่างเป็นทางการและเอกชนและคงเป็นที่นิยมจนถึงยุคพิบูลสงคราม เมื่อกระเบนปากช่องเป็นสิ่งต้องห้ามโดยอาณัติทางวัฒนธรรม รูปแบบชื่อ raj จากภาษาบาลีราชาและรูปแบบภาษาอังกฤษและความหมายของรูปแบบพระราช [2] ได้รับการประกาศเกียรติคุณจากพลบุญนาค (ต่อมาเจ้าพระยา Phasakorawong) ซึ่งทำหน้าที่เป็นเลขานุการของราชวงศ์ในระหว่างการเดินทางของกษัตริย์. [

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Raj รูปแบบถูก devised โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในระหว่างการเยือนอินเดียในอังกฤษ 1871 ที่เขาจ้างกัลกัตตาช่างตัดเสื้อให้เสื้อที่มีปก buttoned ยืนและเปิดแนวตั้ง ก่อนหน้านี้ใน 1870กษัตริย์มีผู้ติดตาม ในการรวมกันของชุดจงกระเบน ( ห่อใส่เป็นส่วนหนึ่งของผ้าที่พับด้านหลังระหว่างขาและซุกหลังและเอว ) สูท เสื้อ ถุงเท้า และรองเท้า ในระหว่างการเยือนของเขาไปยังสิงคโปร์และชวา เสื้อใหม่นี้แทนที่ชุดเสื้อ การแก้ไขต้องแยกชั้นของเสื้อในสภาพอากาศร้อนและชุดนี้เป็นชุดพลเรือนโดยพฤตินัย [ 1 ] มันสวมใส่ทั้งอย่างเป็นทางการและเป็นการส่วนตัว และยังคงได้รับความนิยมจนถึง ป. พิบูลสงครามยุคเมื่อจงกระเบนถูกห้ามโดยอาณัติทางวัฒนธรรม ชื่อราชปะแตนจากภาษาบาลี R J และอุบาสกอุบาสกภาษาอังกฤษแบบแผนและความหมายรอยัลรูปแบบ [ 2 ] ประกาศเกียรติคุณโดยพรบุนนาค ( ภายหลังเป็นเจ้าพระยา phasakorawong )ที่ทำตัวเป็นราชเลขาในระหว่างการเดินทางของกษัตริย์ .