It is assumed in the numerical anal

It is assumed in the numerical analysis of this study that the MEH devices are installed on the target slabs at observation points No. 1 to 6, as shown earlier in Figure 3. Since the proposed MEH devices can be tuned very sensitively to a certain narrow frequency band of interest, it would be reasonable to assume that the devices harvested the energies from slab vibrations of a single mode. From the eigenvalue analysis (Section 2.4), each pier model’s modal frequencies and mode shapes have been provided. For the following numerical analysis, the slabs are assumed to harmonically vibrate with the modal frequency and mode shape of a specified mode, and the harvested powers are calculated using the equations given in Section 1.4 and taking the harmonic vibrations at the observation points of interest as input. The computation on conversion from FEM results to generated energy from the vibrational MEMS device, using Equations (1)–(4), is followed by expressing sinusoidal vibrational waveform as the relationship between displacement and time in accordance to relative vibration amplitude and frequency provided from FEM analysis at each node of interest.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สันนิษฐานในการวิเคราะห์เชิงตัวเลขของการศึกษานี้ว่าอุปกรณ์ MEH ได้รับการติดตั้งบนแผ่นคอนกรีตเป้าหมายที่จุดสังเกตหมายเลข 1 ถึง 6 ดังที่แสดงไว้ก่อนหน้าในรูปที่ 3 เนื่องจากอุปกรณ์ MEH ที่นำเสนอสามารถปรับได้ไวมากไปยังจุดแคบบางจุด ย่านความถี่ที่น่าสนใจ ก็สมเหตุสมผลที่จะถือว่าอุปกรณ์ดึงพลังงานจากการสั่นสะเทือนของแผ่นพื้นในโหมดเดียว จากการวิเคราะห์ค่าลักษณะเฉพาะ (ส่วนที่ 2.4) ได้มีการจัดเตรียมความถี่โมดอลและรูปร่างของแบบจำลองท่าเรือแต่ละแบบไว้แล้ว สำหรับการวิเคราะห์เชิงตัวเลขต่อไปนี้ ให้สันนิษฐานว่าแผ่นพื้นสั่นสะเทือนฮาร์มอนิกด้วยความถี่โมดัลและรูปร่างโหมดของโหมดที่ระบุ และกำลังที่เก็บเกี่ยวได้คำนวณโดยใช้สมการที่ให้ไว้ในส่วนที่ 1.4 และนำการสั่นสะเทือนฮาร์มอนิกที่จุดสังเกตที่น่าสนใจเป็น ป้อนข้อมูล. การคำนวณการแปลงจากผลลัพธ์ FEM เป็นพลังงานที่สร้างจากอุปกรณ์ MEMS แบบสั่น โดยใช้สมการ (1)–(4) ตามด้วยการแสดงรูปคลื่นการสั่นแบบไซน์ซอยด์เป็นความสัมพันธ์ระหว่างการกระจัดและเวลาตามแอมพลิจูดการสั่นสะเทือนสัมพัทธ์และความถี่ที่ได้มาจาก การวิเคราะห์ FEM ในแต่ละโหนดที่น่าสนใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการวิเคราะห์เชิงตัวเลขของการศึกษานี้สันนิษฐานว่าอุปกรณ์ MEH ติดตั้งบนแผ่นเป้าหมายที่จุดสังเกตการณ์ที่ 1 ถึง 6 ดังแสดงในรูปที่ 3 เนื่องจากอุปกรณ์ MEH ที่เสนอสามารถปรับให้เข้ากับแถบความถี่แคบ ๆ ที่สนใจได้อย่างรวดเร็วจึงสามารถสันนิษฐานได้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้ได้รับพลังงานจากการสั่นสะเทือนแบบแบนในโหมดเดียว ตามการวิเคราะห์ค่าลักษณะ (มาตรา 2.4) ความถี่แบบแยกส่วนและประเภทการสั่นสะเทือนของแต่ละรูปแบบท่าเรือจะได้รับ สำหรับการวิเคราะห์ตัวเลขต่อไปนี้จะสันนิษฐานว่าแผ่นทำการสั่นสะเทือนฮาร์โมนิกที่ความถี่ของรูปแบบและรูปร่างของรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงและคำนวณกำลังเก็บเกี่ยวโดยใช้สมการที่ให้ไว้ในข้อ 1.4 และการสั่นสะเทือนฮาร์โมนิกที่จุดสังเกตที่น่าสนใจจะถูกป้อนข้อมูล ใช้สมการ (1) - (4) เพื่อคำนวณการแปลงพลังงานที่สร้างขึ้นจากผล FEM ไปเป็นการสั่นสะเทือนของอุปกรณ์ MEMS จากนั้นแสดงคลื่นการสั่นสะเทือนไซน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการวิเคราะห์เชิงตัวเลขของการศึกษาครั้งนี้สมมติว่าอุปกรณ์MEHถูกติดตั้งบนบอร์ดเป้าหมายที่จุดสังเกต1ถึง6ดังแสดงในรูปที่3 เนื่องจากอุปกรณ์MEHที่เสนอสามารถปรับแต่งได้อย่างไวต่อแถบความถี่แคบที่น่าสนใจจึงเป็นไปได้ที่จะสันนิษฐานได้ว่าอุปกรณ์ได้รับพลังงานจากการสั่นสะเทือนของบอร์ดในโหมดเดียว ตามการวิเคราะห์ค่าeigenvalue (ส่วน2.4 )ให้ความถี่กิริยาและรูปร่างกิริยาของโมเดลสะพานแต่ละตัว สําหรับการวิเคราะห์เชิงตัวเลขต่อไปนี้สมมติว่าแผงสั่นสะเทือนแบบฮาร์มอนิกในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงและความถี่และรูปแบบของรูปแบบและคํานวณพลังงานที่เก็บรวบรวมโดยใช้สมการที่ระบุไว้ในส่วน1.4และใช้การสั่นสะเทือนของฮาร์มอนิกที่จุดสังเกตที่น่าสนใจเป็นอินพุต ใช้สมการ(1)ถึง(4)เพื่อคํานวณการแปลงพลังงานจากผลการสั่นสะเทือนไปยังอุปกรณ์MEMSการสั่นสะเทือนจากนั้นรูปแบบการสั่นสะเทือนของไซน์จะแสดงเป็นความสัมพันธ์ระหว่างการกระจัดกระจายและเวลาตามความกว้างและความถี่ของการสั่นสะเทือนสัมพัทธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์FEMของแต่ละโหนดที่สนใจ