Application of a random effects neg

Application of a random effects negative binomial model to examine tram-involved crash frequency on route sections in Melbourne, Australia

Safety is a key concern in the design, operation and development of light rail systems including trams or streetcars as they impose crash risks on road users in terms of crash frequency and severity. The aim of this study is to identify key traffic, transit and route factors that influence tram-involved crash frequencies along tram route sections in Melbourne. A random effects negative binomial (RENB) regression model was developed to analyze crash frequency data obtained from Yarra Trams, the tram operator in Melbourne. The RENB modelling approach can account for spatial and temporal variations within observation groups in panel count data structures by assuming that group specific effects are randomly distributed across locations. The results identify many significant factors effecting tram-involved crash frequency including tram service frequency (2.71), tram stop spacing (−0.42), tram route section length (0.31), tram signal priority (−0.25), general traffic volume (0.18), tram lane priority (−0.15) and ratio of platform tram stops (−0.09). Findings provide useful insights on route section level tram-involved crashes in an urban tram or streetcar operating environment. The method described represents a useful planning tool for transit agencies hoping to improve safety performance.


Safety; Tram-involved crash frequency; Random effects negative binomial model

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แอพลิเคชันของแบบทวินามลบผลกระทบแบบสุ่มเพื่อตรวจสอบความถี่ของรถรางที่เกี่ยวข้องกับความผิดพลาดในส่วนเส้นทางในเมลเบิร์น ออสเตรเลียความปลอดภัยเป็นความกังวลที่สำคัญในการออกแบบ การดำเนินการ และพัฒนาระบบรถไฟฟ้ารางเบารวมทั้งรถรางหรือรถรางวิ่งผ่านพวกเขากำหนดความเสี่ยงผิดพลาดผู้ใช้ถนนในแง่ของความผิดพลาดความถี่และความรุนแรง จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการ ระบุคีย์การจราจร การขนส่งและกระบวนการผลิตปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อรถรางที่เกี่ยวข้องกับความผิดพลาดความถี่ตามแนวส่วนของเส้นทางรถรางในเมลเบิร์น ผลสุ่มลบทวินาม (RENB) การถดถอยแบบถูกพัฒนาขึ้นเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลความถี่ความล้มเหลวที่ได้จากรถรางยาร์ ผู้ให้บริการรถรางในเมลเบิร์น RENB วิธีการสร้างแบบจำลองสามารถบัญชีสำหรับการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่ และกาลเวลาภายในกลุ่มสังเกตในโครงสร้างข้อมูลจำนวนแผงโดยสมมติว่าสุ่มกระจายผลกระทบเฉพาะกลุ่มในสถาน ผลการระบุปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความถี่เกิดความผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับรถรางรวมถึงรถรางบริการความถี่ (2.71), ราง (−0.42) ระยะห่าง รถรางยาวส่วนกระบวนการผลิต (0.31), รถรางสัญญาณสำคัญ (−0.25), ปริมาณความทั่วไป (0.18), รถรางเลนสำคัญ (−0.15) และอัตราส่วนของแพลตฟอร์มแข้ง (−0.09) ผลการวิจัยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในส่วนเส้นทางล้มเหลวระดับเกี่ยวข้องกับรถรางในเมืองรถรางหรือรถรางงานบรรยากาศ วิธีการที่อธิบายถึงเครื่องมือการวางแผนมีประโยชน์สำหรับหน่วยงานขนส่งที่หวังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยความปลอดภัย ความถี่การเกิดความผิดพลาดที่เกี่ยวข้องกับรถราง ผลสุ่มทวินามลบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การประยุกต์ใช้รูปแบบทวินามผลกระทบสุ่มเชิงลบเพื่อตรวจสอบความถี่ผิดพลาดรถรางที่เกี่ยวข้องในส่วนเส้นทางในเมลเบิร์น, ออสเตรเลียความปลอดภัยเป็นความกังวลที่สำคัญในการออกแบบการดำเนินงานและการพัฒนาระบบรางไฟรวมทั้งรถรางหรือรถที่พวกเขากำหนดความเสี่ยงผิดพลาดเกี่ยวกับผู้ใช้ถนน ในแง่ของความผิดพลาดของความถี่และความรุนแรง จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการระบุที่สำคัญการจราจรขนส่งและเส้นทางปัจจัยที่มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับรถรางความถี่ผิดพลาดพร้อมส่วนเส้นทางรถรางในเมลเบิร์น ผลกระทบเชิงลบสุ่มรูปแบบทวินาม (RENB) ถดถอยได้รับการพัฒนาในการวิเคราะห์ข้อมูลความถี่ที่ได้รับจากความผิดพลาดใน Yarra รถรางให้ผู้ประกอบการรถรางในเมลเบิร์น วิธีการสร้างแบบจำลอง RENB สามารถบัญชีสำหรับรูปแบบพื้นที่และเวลาภายในกลุ่มสังเกตในโครงสร้างข้อมูลนับแผงโดยสมมติว่าผลกระทบเฉพาะกลุ่มที่มีการกระจายแบบสุ่มในสถานที่ ผลการศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญหลายความถี่ผิดพลาดรถรางที่เกี่ยวข้องรวมถึงความถี่ในการให้บริการรถราง (2.71) ป้ายรถรางระยะห่าง (-0.42) รางยาวส่วนเส้นทาง (0.31) มีความสำคัญสัญญาณรถราง (-0.25) ปริมาณการจราจรทั่วไป (0.18) ลำดับความสำคัญของรถรางเลน (-0.15) และอัตราส่วนของแพลตฟอร์มป้ายรถราง (-0.09) ผลการวิจัยให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์ในระดับส่วนเส้นทางที่เกิดปัญหารถรางมีส่วนร่วมในรางรถรางหรือสภาพแวดล้อมการทำงานในเมือง วิธีการอธิบายหมายถึงเครื่องมือในการวางแผนที่มีประโยชน์สำหรับหน่วยงานขนส่งหวังที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานด้านความปลอดภัย. ความปลอดภัย Tram-เกี่ยวข้องกับความถี่ผิดพลาด; ผลกระทบเชิงลบสุ่มรูปแบบทวินาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การประยุกต์ใช้ผลสุ่มลบแบบรูปแบบเพื่อตรวจสอบความผิดพลาดของความถี่ในส่วนเกี่ยวข้องกับเส้นทางรถรางในเมลเบิร์น , ออสเตรเลียความปลอดภัยเป็นกังวลหลักในการออกแบบการดำเนินงานและการพัฒนาระบบราง รวมทั้งรถราง หรือตามที่พวกเขากำหนดความเสี่ยง Directions ความผิดพลาดบนผู้ใช้ถนนในแง่ของความถี่ล้มเหลว และความรุนแรง จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการระบุคีย์เส้นทางการจราจร ขนส่ง และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความถี่ตามรถรางเกี่ยวข้องชนส่วนเส้นทางรถรางในเมลเบิร์น ผลกระทบแบบสุ่ม ( renb ) การวิเคราะห์การถดถอยที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากความผิดพลาด ความถี่หรือรถราง , รถรางบริการในเมลเบิร์น การ renb วิธีแบบจำลองสามารถบัญชีสำหรับการเปลี่ยนแปลงตามพื้นที่และเวลาภายในกลุ่มสังเกตการณ์ในแผงนับโครงสร้างข้อมูลโดยสมมติว่าผลเฉพาะกลุ่มแบบสุ่มกระจายทั่วบริเวณ การระบุปัจจัยที่มีผลต่ออุบัติเหตุรถรางที่เกี่ยวข้องหลายความถี่รวมทั้งความถี่บริการรถราง ( 2 ) , รถรางหยุดเว้นวรรค ( − 0.42 ) ความยาวส่วนเส้นทางรถราง ( 0.31 ) , ระดับสัญญาณรถราง ( − 3 ) ปริมาณจราจรทั่วไป ( 0.18 ) , ความสําคัญ เลนรถราง ( − 0.15 ) และอัตราส่วนของแพลตฟอร์มหยุด ( รวมรถราง − 0.09 ) ผลให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ในระดับส่วนเส้นทางรถรางที่เกี่ยวข้องกับปัญหาในเมืองหรือรถรางรถรางปฏิบัติการสิ่งแวดล้อม วิธีอธิบายเป็นเครื่องมือการวางแผนที่เป็นประโยชน์สำหรับหน่วยงานพิเศษหวังที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพความปลอดภัยความปลอดภัย รถรางที่เกี่ยวข้องกับความถี่ผิดพลาด ; สุ่มผลลบแบบโมเดล