Abstract: This study was carried ou

Abstract: This study was carried out to evaluate the effects of four nitrogen treatments (50, 100, 150 and 200 Kg urea / ha) on biomass, crude protein, soluble carbohydrates and crude fiber contents in three fodders (corn, sweet sorghum and sweet sorghum bagasse) at the filed experimental station. The results showed the effects of nitrogen treatments and fodders on the above measurements were significant. Treatment of 200 kg/ha urea had the highest biomass (64.80 t/ha) and protein content (8%) and it had the lowest soluble carbohydrates (12.80 %) and fiber contents (31.90%). Between fodders, corn had higher biomass and protein content (72.80 t/ha, 7.10 %) than sweet sorghum (66.50 t/ha, 5.90 %), respectively. Also both carbohydrate and fiber contents of sweet sorghum was higher than corn. Sweet sorghum bagasse had lower crude protein and carbohydrates content and higher crude fiber than both corn and sweet sorghum. In fodders as the nitrogen fertilizer increased, crude protein present increased while crude fiber present decreased which could increase palatability and digestibility of the both species. Thus, base on the results, it is suggested to apply 200 kg/ha urea for corn and sweet sorghum

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อ: การศึกษานี้ดำเนินการเพื่อประเมินผลของการบำบัดไนโตรเจนสี่ (50, 100, 150 และ 200 กิโลกรัมยูเรีย / ฮา) ชีวมวล โปรตีน คาร์โบไฮเดรตที่ละลายน้ำได้ และไฟเบอร์ดิบเนื้อหาในสามอาหาร (ข้าวโพด ข้าวฟ่างหวาน และข้าวฟ่างหวานอ้อย) ที่สถานีทดลองยื่น ผลการศึกษาพบผลกระทบของไนโตรเจนรักษาและอาหารในการวัดข้างต้นได้อย่างมีนัยสำคัญ รักษาโรค 200 กก./ฮา ยูเรียมีสูงสุดชีวมวล (64.80 t/ha) และปริมาณโปรตีน (8%) และมันมีต่ำสุดละลายคาร์โบไฮเดรต (12, 80%) และเนื้อหาไฟเบอร์ (31.90%) ระหว่างอาหาร ข้าวโพดมีชีวมวลสูงและปริมาณโปรตีน (72.80 t/ha, 7.10%) มากกว่าหวานข้าวฟ่าง (66.50 t/ha, 5.90%), ตามลำดับ ยัง หาคาร์โบไฮเดรตและเส้นใยของข้าวฟ่างหวานเป็นสูงกว่าข้าวโพด ข้าวฟ่างหวานอ้อยได้ต่ำกว่าน้ำมันดิบโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเนื้อหา และไฟเบอร์ดิบสูงกว่าทั้งข้าวโพด และข้าวฟ่างหวาน ในอาหารที่เป็นปุ๋ยไนโตรเจน โปรตีนเพิ่มขึ้น น้ำมันดิบปัจจุบันเพิ่มขึ้นในขณะที่กากอยู่ลดลงซึ่งอาจเพิ่มโภชนะและการย่อยทั้งสองชนิด ดังนั้น ฐานข้อมูล แนะนำการใช้ 200 กก./ฮา ยูเรียสำหรับข้าวโพดและข้าวฟ่างหวาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินการในการประเมินผลกระทบของสี่รักษาไนโตรเจน (50, 100, 150 และ 200 กิโลกรัมปุ๋ยยูเรีย / ไร่) บนชีวมวลโปรตีนคาร์โบไฮเดรตที่ละลายน้ำได้และเนื้อหาเยื่อใยในสาม Fodders (ข้าวโพดข้าวฟ่างหวานและหวาน ข้าวฟ่างอ้อย) ที่สถานีทดลองยื่น ผลการศึกษาพบผลกระทบของการรักษาไนโตรเจนและ Fodders วัดดังกล่าวข้างต้นอย่างมีนัยสำคัญ การรักษา 200 กก. / ไร่ปุ๋ยยูเรียมีชีวมวลสูงสุด (64.80 ตัน / เฮกตาร์) และปริมาณโปรตีน (8%) และมีคาร์โบไฮเดรตต่ำสุดที่ละลายน้ำได้ (12.80%) และเนื้อหาไฟเบอร์ (31.90%) ระหว่าง Fodders ข้าวโพดมีชีวมวลที่สูงขึ้นและปริมาณโปรตีน (72.80 ตัน / เฮกตาร์, 7.10%) มากกว่าข้าวฟ่างหวาน (66.50 ตัน / เฮกตาร์, 5.90%) ตามลำดับ นอกจากนี้ทั้งคาร์โบไฮเดรตและเส้นใยเนื้อหาของข้าวฟ่างหวานสูงกว่าข้าวโพด ชานอ้อยข้าวฟ่างหวานมีโปรตีนต่ำกว่าน้ำมันดิบและเนื้อหาคาร์โบไฮเดรตและเยื่อใยสูงกว่าทั้งข้าวโพดและข้าวฟ่างหวาน ใน Fodders เป็นปุ๋ยไนโตรเจนเพิ่มขึ้นน้ำมันดิบปัจจุบันโปรตีนเพิ่มขึ้นในขณะเยื่อใยในปัจจุบันลดลงซึ่งจะเพิ่มความอร่อยและการย่อยได้ของสายพันธุ์ทั้งสอง ดังนั้นฐานในผลก็จะแนะนำให้ใช้ 200 กก. / ไร่ปุ๋ยยูเรียสำหรับข้าวโพดและข้าวฟ่างหวาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อ : การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของไนโตรเจน 4 รักษา ( 50 , 100 , 150 และ 200 กิโลกรัม ปุ๋ยยูเรีย / ฮา ) โปรตีน , คาร์โบไฮเดรตที่ละลายในน้ำและปริมาณเยื่อใยในสาม fodders ( ข้าวโพด ข้าวฟ่างหวาน อ้อยและข้าวฟ่างหวาน ) ที่ยื่นทดลองที่สถานี ผลการวิจัยพบว่า ผลของการรักษาในไนโตรเจนและ fodders วัดข้างต้นเป็นสำคัญ การรักษา 200 กก. / เฮกตาร์ยูเรียมีมวลชีวภาพสูงสุด ( 64.80 T / ฮา ) และโปรตีน ( 8% ) และมีคาร์โบไฮเดรตที่ละลายน้ำได้น้อยที่สุด ( 12.80% ) และเส้นใย ( 31.90 % ) ระหว่าง fodders ข้าวโพดและผลผลิตสูงกว่าโปรตีน 72.80 T / ha 7.10 บาท ) กว่าข้าวฟ่างหวาน ( ปัจจัยที่ T / ha 5.90 ตามลำดับ ทั้งคาร์โบไฮเดรตและเส้นใยของข้าวฟ่างหวานสูงกว่าข้าวโพด อ้อยข้าวฟ่างหวาน มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตต่ำและสูงมากกว่าปริมาณเยื่อใย ทั้งข้าวโพด และข้าวฟ่างหวาน ใน fodders เป็นปุ๋ยไนโตรเจนเพิ่มขึ้น โปรตีนเพิ่มขึ้น ขณะที่ปัจจุบันเยื่อใยปัจจุบันลดลงซึ่งอาจเพิ่มความน่ากินและการย่อยได้ของทั้งสองชนิด ดังนั้น ฐานผล จะแนะนำให้ใช้ 200 กก. / เฮกตาร์ตามลำดับ สำหรับข้าวโพด และข้าวฟ่างหวาน