The vast majority of living organis

The vast majority of living organisms encode their genes in long strands of DNA (deoxyribonucleic acid). DNA consists of a chain made from four types of nucleotide subunits, each composed of: a five-carbon sugar (2'-deoxyribose), a phosphate group, and one of the four bases adenine, cytosine, guanine, and thymine.[2]:2.1

Two chains of DNA twist around each other to form a DNA double helix with the phosphate-sugar backbone spiralling around the outside, and the bases pointing inwards with adenine base pairing to thymine and guanine to cytosine. The specificity of base pairing occurs because adenine and thymine align to form two hydrogen bonds, whereas cytosine and guanine form three hydrogen bonds. The two strands in a double helix must therefore be complementary, with their sequence of bases matching such that the adenines of one strand are paired with the thymines of the other strand, and so on.[2]:4.1

Due to the chemical composition of the pentose residues of the bases, DNA strands have directionality. One end of a DNA polymer contains an exposed hydroxyl group on the deoxyribose; this is known as the 3' end of the molecule. The other end contains an exposed phosphate group; this is the 5' end. The two strands of a double-helix run in opposite directions. Nucleic acid synthesis, including DNA replication and transcription occurs in the 5'→3' direction, because new nucleotides are added via a dehydration reaction that uses the exposed 3' hydroxyl as a nucleophile.[25]:27.2

The expression of genes encoded in DNA begins by transcribing the gene into RNA, a second type of nucleic acid that is very similar to DNA, but whose monomers contain the sugar ribose rather than deoxyribose. RNA also contains the base uracil in place of thymine. RNA molecules are less stable than DNA and are typically single-stranded. Genes that encode proteins are composed of a series of three-nucleotide sequences called codons, which serve as the "words" in the genetic "language". The genetic code specifies the correspondence during protein translation between codons and amino acids. The genetic code is nearly the same for all known organisms.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนใหญ่ของชีวิตเข้ารหัสของยีนในดีเอ็นเอ (ส่วนประกอบของกรด) เส้นยาว ดีเอ็นเอประกอบด้วยสายโซ่ที่ทำจากโปรแกรมนิวคลีโอไทด์ 4 ชนิด แต่ละส่วนประกอบ: น้ำตาลห้าคาร์บอน (2'-deoxyribose), กลุ่มฟอสเฟต และหนึ่งในสี่ฐานคือ อดี นีน และไทมีน :2.1 [2]สองโซ่ของ DNA บิดใกล้เคียงกันในรูปแบบเกลียวคู่ของดีเอ็นเอกับแกนหลักฟอสเฟตน้ำตาล spiralling รอบ ๆ นอก และฐานชี้เข้าไปคือฐานจับคู่กับไทมีนและการอดีนีน ความจำเพาะของการจับคู่ฐานเกิดขึ้นเนื่องจากคือจัดให้ชิดตำแหน่งพันธะแบบฟอร์มสอง ในขณะที่อดีและนีนเป็นพันธะสาม สองเส้นในเกลียวคู่ดังนั้นจึงต้องเสริม กับลำดับของฐานตรงที่ซินเกิดขึ้นของสาระหนึ่งจับคู่กับ thymines ของเดอะสแตรนด์ และอื่น ๆ :4.1 [2]เนื่องจากองค์ประกอบทางเคมีตกค้าง pentose ของฐาน ดีเอ็นเอเส้นมีทิศ ปลายด้านหนึ่งของดีเอ็นเอลิเมอร์ประกอบด้วยกลุ่มไฮดรอกเผยตัวบน deoxyribose นี้เรียกว่าปลาย 3' ของโมเลกุล ส่วนอื่น ๆ ประกอบด้วยการสัมผัสฟอสเฟตกลุ่ม นี่คือปลาย 5' สองเส้นของเกลียวคู่ทำงานในทิศทางตรงข้าม การสังเคราะห์กรดนิวคลีอิก การจำลองดีเอ็นเอและการถอดรหัสเกิดขึ้นใน 5' →3' ทิศทาง เนื่องจากมีเพิ่มนิวคลีโอไทด์ใหม่ผ่านปฏิกิริยาคายที่ใช้ไฮดรอกสัมผัส 3' เป็น nucleophile เป็น :27.2 [25]การแสดงออกของยีนที่เข้ารหัสในดีเอ็นเอเริ่มต้น ด้วยการแปลงยีนเป็น RNA ชนิดสองของกรดนิวคลีอิกที่เป็นคล้ายกับดีเอ็นเอ แต่โมโนเมอร์ประกอบด้วยน้ำตาลน้ำตาลแทนที่เป็น deoxyribose อาร์เอ็นเอยังประกอบด้วย uracil ฐานแทนไทมีน โมเลกุล RNA เสถียรน้อยกว่าดีเอ็นเอ และโดยทั่วไปเดียวที่ควั่น ยีนที่เข้ารหัสโปรตีนประกอบด้วยชุดของลำดับสามนิวคลีโอไทด์เรียกว่า codons ซึ่งเป็น "คำ" พันธุกรรม "ภาษา" รหัสพันธุกรรมระบุจดหมายในระหว่างการแปลระหว่าง codons และกรดอะมิโนโปรตีน รหัสพันธุกรรมคือเกือบเหมือนกันสำหรับสิ่งมีชีวิตที่รู้จักกันทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ส่วนใหญ่ของสิ่งมีชีวิตเข้ารหัสยีนของพวกเขาในเส้นยาวของดีเอ็นเอ (ดีเอ็นเอ) ดีเอ็นเอประกอบด้วยห่วงโซ่ที่ทำจากสี่ประเภทของหน่วยย่อยเบื่อหน่ายแต่ละประกอบด้วย: a. น้ำตาลห้าคาร์บอนไดออกไซด์ (2'-Deoxyribose) กลุ่มฟอสเฟตและหนึ่งในสี่ของฐาน adenine, cytosine, guanine และมีน [2 ]: 2.1 สองโซ่บิดดีเอ็นเอรอบกันและกันในรูปแบบดีเอ็นเอเกลียวคู่กับกระดูกสันหลังฟอสเฟตน้ำตาลวนรอบนอกและฐานที่ชี้เข้ามาจับคู่กับฐาน adenine จะมีนและการ guanine cytosine ความจำเพาะของฐานการจับคู่เกิดขึ้นเนื่องจาก adenine และมีนจัดในรูปแบบสองพันธะไฮโดรเจนขณะ cytosine และ guanine รูปแบบสามพันธะไฮโดรเจน ทั้งสองเส้นในเกลียวคู่ดังนั้นจึงต้องเสริมด้วยลำดับของฐานการจับคู่ดังกล่าวว่า adenines ของเส้นหนึ่งจะถูกจับคู่กับ thymines ของกลุ่มสาระอื่น ๆ และอื่น ๆ [2]:. 4.1 เนื่องจากองค์ประกอบทางเคมีของ ตกค้าง pentose ของฐานดีเอ็นเอมีทิศทาง ปลายด้านหนึ่งของพอลิเมอดีเอ็นเอประกอบด้วยกลุ่มไฮดรอกซิสัมผัสบน Deoxyribose นั้น นี้เป็นที่รู้จักกันปลาย 3 'ของโมเลกุล ส่วนอื่น ๆ ประกอบด้วยกลุ่มฟอสเฟตสัมผัส; นี่คือจุดสิ้นสุด 5 ' ทั้งสองเส้นคู่เกลียวทำงานในทิศทางตรงข้าม การสังเคราะห์กรดนิวคลีอิกรวมทั้งจำลองดีเอ็นเอและการถอดรหัสเกิดขึ้นใน 5 '→ 3' ทิศทางเพราะนิวคลีโอใหม่จะถูกเพิ่มผ่านปฏิกิริยาคายน้ำที่ใช้ในการสัมผัส 3 'ไฮดรอกเป็น nucleophile a [25]:. 27.2 การแสดงออกของยีนในการเข้ารหัส ดีเอ็นเอเริ่มต้นด้วยการถ่ายทอดยีนเข้าไปในอาร์เอ็นเอซึ่งเป็นประเภทที่สองของกรดนิวคลีว่าจะคล้ายกับดีเอ็นเอ แต่มีโมโนเมอร์ประกอบด้วยน้ำตาลน้ำตาลมากกว่า Deoxyribose อาร์เอ็นเอยังมี uracil ฐานในสถานที่ของมีน โมเลกุล RNA มีความเสถียรน้อยกว่า DNA และโดยทั่วไปจะมีเพียงครั้งเดียวควั่น ยีนที่เข้ารหัสโปรตีนประกอบด้วยชุดของลำดับสามเรียกว่าเบื่อหน่าย codons ซึ่งทำหน้าที่เป็น "คำว่า" ใน "ภาษา" ทางพันธุกรรม รหัสพันธุกรรมระบุการติดต่อระหว่างการแปลโปรตีนระหว่าง codons และกรดอะมิโน รหัสพันธุกรรมเกือบจะเหมือนกันสำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่รู้จัก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส่วนใหญ่ของสิ่งมีชีวิตเข้ารหัสยีนของพวกเขายาวเส้นดีเอ็นเอ ( กรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิก ) ดีเอ็นเอประกอบด้วยโซ่ทำจากสี่ประเภทของหน่วยย่อยนิวคลีโอไทด์แต่ละประกอบด้วย : ห้าคาร์บอน ( 2 " - น้ำตาลดีออกซีไรโบส ) กลุ่มฟอสเฟต และหนึ่งในฐานสี่ ไซโทซีนและกวานีนกับไทมีน , , , [ 2 : 1 ]สองกลุ่มของดีเอ็นเอเกลียวรอบแต่ละอื่น ๆ ในรูปแบบดีเอ็นเอเกลียวคู่ที่มีฟอสเฟตน้ำตาลกระดูกสันหลังก้นหอยรอบนอก และฐานที่ชี้เข้ามาด้วยและฐานคู่กับเพลินตากับไซโทซีนและกวานีน . ความจำเพาะของฐานการจับคู่เกิดขึ้นเพราะเพศตรงข้ามเพลินตาและจัดแบบสองไฮโดรเจนพันธบัตร ในขณะที่ไซโตซีนเสียงกรอบแกรบรูปแบบสามและไฮโดรเจนพันธบัตร สองเส้นในเกลียวคู่จึงต้องประกอบกับลำดับของฐานการจับคู่ที่ adenines ของกลุ่มจะจับคู่กับ thymines ของกลุ่มสาระอื่น ๆและอื่น ๆ . [ 2 ] : .เนื่องจากองค์ประกอบทางเคมีของนาครตกค้างของฐาน เส้นดีเอ็นเอมีทิศทาง ปลายด้านหนึ่งของดีเอ็นเอโพลิเมอร์มีสัมผัสหมู่ไฮดรอกซิลบนดีออกซีไรโบส เรียกว่า 3 " ปลายของโมเลกุล ส่วนอื่น ๆ มีการเปิดเผยกลุ่มฟอสเฟต ; นี้เป็นปลาย 5 " สองเส้นของเกลียวคู่วิ่งไปในทิศทางตรงกันข้าม การสังเคราะห์กรดนิวคลีอิก รวมถึงการจำลองตัวเองของดีเอ็นเอการถอดความเกิดขึ้นในทิศทาง 5 " - 3 " → keyboard - key - name เพราะคู่ใหม่จะถูกเพิ่มผ่านการเกิดปฏิกิริยาที่ใช้สัมผัส 3 " ( เป็นนิวคลีโอไฟล์ [ 25 ] : 27.2การแสดงออกของยีนที่เข้ารหัสในดีเอ็นเอเริ่มต้นโดยการถ่ายทอดยีนในอาร์เอ็นเอ ชนิดที่สองของกรดนิวคลีอิกที่คล้ายกับดีเอ็นเอ แต่ที่มีโมโนเมอร์ประกอบด้วยน้ำตาลดีออกซีไรโบสหน้าตัวเมียมากกว่า . RNA มียูราซิล ในฐานที่ 05 . โมเลกุล RNA มีเสถียรภาพน้อยกว่าดีเอ็นเอและมักจะเดียวติด ยีนที่เข้ารหัสโปรตีนจะประกอบด้วยชุดของลำดับนิวคลีโอไทด์สามเรียกว่า ซิส ซึ่งเป็น " คำพูด " พันธุกรรม " ภาษา " รหัสทางพันธุกรรมกำหนดความสอดคล้องระหว่างการแปลระหว่างซิสโปรตีนและกรดอะมิโน รหัสทางพันธุกรรมเป็นเกือบเดียวกันทั้งหมดเรียกว่าสิ่งมีชีวิต