At the 61th JECFA (2003) it was est

At the 61th JECFA (2003) it was estimated that the total intake of cadmium ranged from 2.8 to 4.2 µg/kg bw per week. This was calculated from available data on concentrations and food
consumption taken from the GEMS/Food regional diets and corresponds to approximately 40-60% of the current PTWI of 7 µg/kg bw/week. Regarding major dietary sources of cadmium,
the following foods contributed 10% or more to PTWI in at least one of the GEMS/Food regions: rice, wheat, starchy roots/tubers, and molluscs. Vegetable (excluding leafy vegetables)
contribute >5% to the PTWI in two regions.
The 36th CCFAC (2004) decided to discontinue the work on developing MLs for cadmium in fruits, meat of cattle, pigs, sheep and poultry; horse meat; herbs, fresh; fungi (edible); celeriac;
soya beans (dry); and peanuts as no levels were necessary because these foods were no major contributors to cadmium intake (ALINORM 04/27/12, para. 176).
The 64th JECFA (2005) conducted intake and impact assessment requested by the 36th session of CCFAC for the seven commodity groups; rice, wheat, potatoes, stem and root

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ที่ JECFA 61th (2003) คาดว่า การบริโภครวมของแคดเมียมโจมตีระยะไกลจาก 2.8 การ 4.2 µg/kg bw ต่อสัปดาห์ นี้ถูกคำนวณจากข้อมูลที่มีอยู่ในอาหารและความเข้มข้นปริมาณการใช้วัสดุที่นำมาจากอัญมณีอาหารภูมิภาคอาหาร และสอดคล้องกับประมาณ 40-60% ของ PTWI ปัจจุบัน 7 µg/kg bw/สัปดาห์ เกี่ยวกับแหล่งอาหารสำคัญของแคดเมียมอาหารต่อไปนี้ส่วน 10% หรือมากกว่าเพื่อ PTWI ในภูมิภาคอัญมณี/อาหารอย่างน้อยหนึ่ง: ข้าว ข้าวสาลี แป้งราก/มุด และหอย ผัก (ยกเว้นผักใบ)มีส่วนร่วม > 5% เป็น PTWI ในสองภูมิภาคตัดสินใจยุติการทำงานในการพัฒนา MLs สำหรับแคดเมียมในผลไม้ เนื้อวัว หมู แกะ และสัตว์ ปีก CCFAC 36 (2004) เนื้อม้า สมุนไพร สด เชื้อรา (กินได้); celeriacถั่วเหลือง (แห้ง); และถั่วลิสงเป็นระดับไม่จำเป็นเพราะอาหารเหล่านี้ ไม่มีผู้สนับสนุนหลักการบริโภคแคดเมียม (ALINORM 12/04/27, para. 176)การ 64 JECFA (2005) ดำเนินการบริโภคและผลกระทบประเมินร้องขอเซสชัน CCFAC 36 สำหรับกลุ่มสินค้าเจ็ด ข้าว ข้าวสาลี มันฝรั่ง ลำต้น และราก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่ 61th JECFA (2003) มันเป็นที่คาดว่าการบริโภครวมของแคดเมียมอยู่ในช่วง 2.8-4.2 ไมโครกรัม / กิโลกรัมต่อสัปดาห์ นี้ถูกคำนวณจากข้อมูลที่มีอยู่ในความเข้มข้นและอาหาร
บริโภคที่นำมาจากอัญมณี / อาหารภูมิภาคอาหารและสอดคล้องกับประมาณ 40-60% ของปัจจุบัน PTWI 7 ไมโครกรัม / กิโลกรัม / สัปดาห์ เกี่ยวกับแหล่งอาหารที่สำคัญของแคดเมียม
อาหารต่อไปนี้มีส่วน 10% หรือมากกว่าที่จะ PTWI อย่างน้อยหนึ่งในอัญมณี / ภูมิภาคอาหาร: ข้าวข้าวสาลีแป้งราก / หัวและหอย ผัก (ไม่รวมผักใบ)
มีส่วนร่วมใน> 5% ไป PTWI ในสองภูมิภาค.
CCFAC ที่ 36 (2004) ตัดสินใจที่จะยุติการทำงานในการพัฒนา MLs สำหรับแคดเมียมในผลไม้, เนื้อวัวหมูแกะและสัตว์ปีก; เนื้อม้า; สมุนไพรสด เชื้อรา (กิน); celeriac;
เมล็ดถั่วเหลือง (แห้ง); และถั่วลิสงที่ไม่มีระดับมีความจำเป็นเพราะอาหารเหล่านี้ไม่ให้สำคัญในปริมาณแคดเมียม (ALINORM 04/27/12, Para. 176).
64 JECFA (2005) ดำเนินการบริโภคและการประเมินผลกระทบการร้องขอจากเซสชั่น 36 CCFAC สำหรับ เจ็ดกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์; ข้าวข้าวสาลีมันฝรั่งลำต้นและราก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่ 61th jecfa ( 2003 ) มันประมาณว่า การบริโภครวมของแคดเมียมมีค่าตั้งแต่ 2.8 4.2 µกรัม / น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ซึ่งคำนวณได้จากข้อมูลที่มีความเข้มข้น และอาหารการถ่ายจากอัญมณี / อาหารท้องถิ่น อาหาร และสอดคล้องกับประมาณร้อยละ 40-60 ของ ptwi ปัจจุบัน 7 µกรัม / น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม / สัปดาห์ เกี่ยวกับแหล่งอาหารหลักของแคดเมียมอาหารต่อไปนี้ส่วน 10% หรือมากกว่าที่จะ ptwi อย่างน้อยหนึ่งในอัญมณี / อาหารภูมิภาค : ข้าว , ข้าวสาลี , แป้งราก / หัว และหอย . ผัก ( ยกเว้นผักใบ )สนับสนุน > 5% เพื่อ ptwi ในสองภูมิภาคการ ccfac 36 ( 2547 ) ตัดสินใจยกเลิกงานพัฒนาบน MLS สำหรับแคดเมียมในผลไม้ เนื้อของวัว หมู แกะ และสัตว์ปีก เนื้อม้า ; สมุนไพรสด ( ที่กินได้ ) ซาลารี่ ; เชื้อรา ; ;เมล็ดถั่วเหลือง ( แห้ง ) ; ถั่วลิสงไม่มีระดับความจำเป็น เพราะอาหารเหล่านี้มีปริมาณแคดเมียมไม่มีบุคคลสำคัญ ( alinorm 04 / 27 / 12 พารา 176 )การ jecfa 64 ( 2005 ) เพื่อการบริโภค และการประเมินผลกระทบที่ร้องขอโดย 36 ครั้ง ccfac สำหรับเจ็ดกลุ่มชุด ข้าว ข้าวสาลี มันฝรั่ง ลำต้น และราก