Fall in tea exports is putting pres

Fall in tea exports is putting pressure on the tea industry to enhance product quality amid rapid international integration associated with growing harsh competition.

The Ministry of Industry and Trade said Vietnam was the fifth largest tea exporter in the world, but tea was mainly exported as a raw product with low export price, equal to about half of the world's average price.

Statistics showed that tea exports dropped by 5.6 per cent in volume to touch 79,000 tons and 4.8 per cent in value to reach $134 million in the first eight months of this year, compared with the same period last year.

The ministry said quality was currently the greatest problem that the tea industry encountered, which could lead to loss of export markets to competitors.

There are many factors affecting the Vietnamese tea quality, including scattered cultivation, lack of management of pesticide use, outdated farming techniques and lack of coordination between plantations and processing and distribution.

Nguyen Huu Tai, president of the Viet Nam Tea Association, said there should be an organisation to monitor the use of pesticides in tea cultivation to ensure its quality.

Minister of Agriculture and Rural Development Cao Duc Phat said tea was among the important agricultural exports of Vietnam, adding that attention must be paid to developing tea cultivation, especially improving tea quality and ensuring food hygiene standards.

Phat said the tea farming methods must be improved to meet hygiene standards for domestic consumption as well as exports, including the planning of tea plantation areas for processing firms. The development of a Vietnamese tea brand together with the organisation of trade promotion activities was also indispensable for boosting tea exports.

In addition, the ministry would tighten state management over the use of pesticides and fertilisers, while improve farming techniques for farmers, he said.

Notably, the ministry was planning to grant codes to tea plantation areas to trace the origins of tea as part of efforts to professionalise tea production.

The ministry's statistics showed that Vietnam's tea exports last year reached 133,000 tons, worth $230 million, ranking fifth in the world after China, India, Kenya and Sri Lanka.

The area under tea plantation totalled 130,000ha in the country by the end of 2014. Lam Dong, Thai Nguyen, Ha Giang, Phu Tho and Yen Bai were the provinces with the largest tea plantation areas.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฤดูใบไม้ร่วงในการส่งออกชาแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมชาเพื่อเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ท่ามกลางบูรณาการอย่างรวดเร็วระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของการแข่งขันที่รุนแรง. กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้ากล่าวว่าเวียดนามเป็นผู้ส่งออกชาห้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ชาถูกส่งออกส่วนใหญ่เป็น ผลิตภัณฑ์ดิบกับราคาส่งออกต่ำเท่ากับประมาณครึ่งหนึ่งของราคาเฉลี่ยของโลก. สถิติแสดงให้เห็นว่าการส่งออกชาลดลงร้อยละ 5.6 ในปริมาณที่จะสัมผัส 79,000 ตันและร้อยละ 4.8 ของมูลค่าที่จะไปถึง $ 134,000,000 ในช่วงแปดเดือนแรกของปีนี้ ปีเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา. กระทรวงกล่าวว่าคุณภาพเป็นปัจจุบันปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่อุตสาหกรรมชาพบซึ่งอาจนำไปสู่การสูญเสียตลาดส่งออกให้กับคู่แข่ง. มีหลายปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพของชาเวียดนามรวมทั้งการเพาะปลูกกระจัดกระจาย ขาดการจัดการการใช้สารกำจัดศัตรูพืช, เทคนิคการทำการเกษตรล้าสมัยและขาดการประสานงานระหว่างสวนและการประมวลผลและการจัดจำหน่าย. เหงียน Huu ไทประธานของเวียดนามชาสมาคมกล่าวว่าควรจะมีองค์กรที่จะตรวจสอบการใช้สารกำจัดศัตรูพืชในชาการเพาะปลูกเพื่อให้แน่ใจว่า คุณภาพ. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท Cao Duc Phat กล่าวว่าชาเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกสินค้าเกษตรที่สำคัญของเวียดนามเพิ่มว่าสนใจจะต้องจ่ายให้กับการพัฒนาเพาะปลูกชาโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับปรุงคุณภาพน้ำชาและสร้างความมั่นใจมาตรฐานด้านสุขอนามัยอาหาร. พัฒน์กล่าวว่าชาวิธีการทำการเกษตร ต้องได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นเพื่อตอบสนองมาตรฐานด้านสุขอนามัยสำหรับการบริโภคในประเทศเช่นเดียวกับการส่งออกรวมถึงการวางแผนของพื้นที่ไร่ชาสำหรับ บริษัท ในการประมวลผล การพัฒนาของแบรนด์ชาเวียดนามพร้อมกับจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้ายังเป็นที่ขาดไม่ได้สำหรับการส่งเสริมการส่งออกชา. นอกจากนี้กระทรวงจะกระชับการจัดการของรัฐมากกว่าการใช้สารกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยในขณะที่การปรับปรุงเทคนิคการทำการเกษตรให้กับเกษตรกรที่เขากล่าวว่ายวดกระทรวงกำลังวางแผนที่จะให้รหัสไปยังพื้นที่ไร่ชาที่จะติดตามต้นกำเนิดของชาเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะ professionalise ผลิตชา. สถิติของกระทรวงการศึกษาพบว่าการส่งออกของเวียดนามชาปีที่ผ่านมาถึง 133,000 ตันมูลค่า $ 230,000,000 การจัดอันดับที่ห้าใน โลกหลังจากที่จีน, อินเดีย, เคนยาและศรีลังกา. พื้นที่ใต้ไร่ชารวมทั้งสิ้น 130,000ha ในประเทศโดยในตอนท้ายของปี 2014 ลำดงไทยเหงียนฮา Giang, Phu Tho เยนตากใบและเป็นจังหวัดที่มีไร่ชาที่ใหญ่ที่สุด พื้นที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตกอยู่ในการส่งออกชา เป็นแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมชา เพื่อเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการบูรณาการอย่างรวดเร็วท่ามกลางการแข่งขันรุนแรง

กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมกล่าวว่าเวียดนามเป็นผู้ส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในห้าชาในโลก แต่ชาที่ถูกส่งออกส่วนใหญ่เป็นสินค้าวัตถุดิบ มีราคาส่งออกต่ำ เท่ากับประมาณครึ่งหนึ่งของ ราคาเฉลี่ยของโลก

สถิติแสดงให้เห็นว่าการส่งออกชาลดลงจาก 5.6 ร้อยละของปริมาณการสัมผัส 79 ตัน และ 4.8 ร้อยละในมูลค่าถึง $ 1 ล้านบาทในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

กล่าวว่าคุณภาพเป็นปัจจุบันที่สุดปัญหาที่ชาอุตสาหกรรม พบ ซึ่งสามารถนำ การสูญเสียตลาดส่งออกไปยังคู่แข่ง .

มีหลายปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพชา เวียดนาม รวมถึงการกระจายการขาดการจัดการการใช้แมลง ล้าสมัยเทคนิคการเลี้ยงและการขาดการประสานงานระหว่าง สวนยาง และ การประมวลผล และการกระจาย

Nguyen Huu ใต้ , ประธานาธิบดีของเวียดนามชาสมาคมกล่าวว่าควรจะมีองค์กรเพื่อตรวจสอบการใช้สารกำจัดศัตรูพืชในการปลูกชา เพื่อตรวจสอบคุณภาพ .

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของ Cao Duc Phat บอกว่าชาที่สำคัญส่งออกสินค้าเกษตรของเวียดนาม เพิ่มความสนใจจะต้องจ่ายให้กับการพัฒนาการปลูกชา โดยเฉพาะชา ปรับปรุงคุณภาพและมาตรฐานสุขอนามัยอาหาร
มั่นใจ .
ภัทรบอกว่าชาการเกษตรวิธีการต้องปรับปรุงให้ตรงกับมาตรฐานสุขอนามัยเพื่อการบริโภคภายในประเทศ รวมทั้งการส่งออก รวมถึงการวางแผนของไร่ชา พื้นที่สำหรับ บริษัท การประมวลผล การพัฒนาของเวียดนามชาแบรนด์ร่วมกันกับองค์กรของกิจกรรมส่งเสริมการค้าก็ขาดไม่ได้สำหรับการส่งเสริมการส่งออกชา

นอกจากนี้กระทรวงจะกระชับการจัดการของรัฐมากกว่าการใช้ยาฆ่าแมลงและปุ๋ย ในขณะที่การปรับปรุงเทคนิคสำหรับเกษตรกร ทำไร่ เขาบอกว่า

โดยเฉพาะ กระทรวงมีแผนจะให้รหัสพื้นที่ปลูกชา เพื่อติดตามต้นกำเนิดของชาเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะทำให้เป็นมืออาชีพการผลิตชา

สถิติของกระทรวง พบว่า เวียดนาม ชาส่งออกปีถึง 133000 ตันมูลค่า $ 230 ล้านบาท อันดับ 5 ของโลก หลังจากที่จีน อินเดีย เคนยา และศรีลังกา

พื้นที่ในไร่ชา และ 130000ha ในประเทศ โดยจุดสิ้นสุดของ 2014 ลำดงไทยเหงียนฮาเกียง ภูโท และเยนบ๋ายเป็นจังหวัดที่มีไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดของพื้นที่