Records of dates of harvest and yie

Records of dates of harvest and yield for European viticulture have been kept for nearly a thousand years (Penning- Rowsell, 1989) revealing periods with more beneficial growing season temperatures and greater productivity. During the medieval “Little Optimum” period (roughly 900–1300 AD) vineyards were planted as far north as the coastal zones of the Baltic Sea and southern England, and during the High Middle Ages (12th and 13th cen- turies) harvesting occurred in early September as compared to early to mid October today(Pfister, 1988; Gladstones, 1992). Conversely, dramatic temperature declines during the “Little Ice Age” (14–19th centuries) resulted in most of the northern vineyards dying out and growing seasons that were so short that harvesting grapes in southern Europe was difficult.
Climate change impacts on viticulture have been and are likely to be highly variable, both geographically and varietally. An early analysis suggested that in Europe, growing seasons should lengthen and that precipitation would increase in the North and decrease in the South

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีการเก็บของวันการเก็บเกี่ยวและผลผลิตสำหรับ viticulture ยุโรปเกือบพันปี (Penning - Rowsell, 1989) เปิดเผยเวลา มีประโยชน์มากอุณหภูมิฤดูกาลเจริญเติบโตและผลผลิตมากขึ้น ในระหว่างยุคกลาง "น้อยเหมาะสม" รอบระยะเวลา (ประมาณ 900 – 1300 AD) ไร่องุ่นที่ปลูกเท่าเหนือเป็นเขตชายฝั่งทะเลบอลติกและภาคใต้ของอังกฤษ และใน ระหว่างการเก็บเกี่ยวสูงวัยกลาง (12 และ 13 cen-turies) เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยายนเมื่อเทียบกับช่วงต้นถึงกลางเดือนตุลาคมวันนี้ (Pfister, 1988 Gladstones, 1992) ในทางกลับกัน อุณหภูมิอย่างปฏิเสธระหว่าง "น้อยยุคน้ำแข็ง" (ศตวรรษที่ 14 – 19) ส่งผลให้เป็นไร่องุ่นเหนือตายออก และซีซั่นที่สั้นดังนั้นการเก็บเกี่ยวองุ่นในยุโรปใต้เป็นเรื่องที่ยากที่ การเจริญเติบโตสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อ viticulture ได้ และมีแนวโน้มที่จะสูงตัวแปร กันทางภูมิศาสตร์ และ varietally การวิเคราะห์ต้นแนะนำว่า ในยุโรป ฤดูการเจริญเติบโตควรยืด และว่า ฝนเพิ่มในภาคเหนือ และภาคใต้ลดลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติวันของการเก็บเกี่ยวและผลผลิตการปลูกองุ่นสำหรับยุโรปได้รับการเก็บรักษาไว้เกือบพันปี (Penning- Rowsell, 1989) ระยะเวลาการเปิดเผยมีอุณหภูมิฤดูการเจริญเติบโตที่เป็นประโยชน์มากขึ้นและมีการผลิตมากขึ้น ในช่วงยุคกลาง "เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหมาะสม" งวด (ประมาณ 900-1,300 AD) ไร่องุ่นที่ปลูกเท่าที่เหนือโซนชายฝั่งของทะเลบอลติกและภาคใต้ของอังกฤษและในช่วงยุคกลางสูง (12 และ turies cen- 13) ที่เกิดขึ้นในการเก็บเกี่ยว ช่วงต้นเดือนกันยายนเมื่อเทียบกับช่วงต้นถึงกลางตุลาคมวันนี้ (Pfister 1988; Gladstones, 1992) ตรงกันข้ามอุณหภูมิลดลงอย่างมากในช่วง "ยุคน้ำแข็งน้อย" (ศตวรรษ 14-19th) ส่งผลให้ในส่วนของภาคเหนือไร่องุ่นตายออกและฤดูการเจริญเติบโตที่มีเพื่อให้สั้น ๆ ที่เก็บเกี่ยวองุ่นในภาคใต้ของยุโรปเป็นเรื่องยาก.
ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในการปลูกองุ่นได้รับ และมีแนวโน้มที่จะสูงตัวแปรทั้งทางภูมิศาสตร์และ varietally การวิเคราะห์ช่วงต้นชี้ให้เห็นว่าในยุโรปฤดูกาลที่เพิ่มขึ้นควรจะยาวและฝนที่จะเพิ่มในภาคเหนือและลดลงในภาคใต้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บันทึกวันที่เก็บเกี่ยวและผลผลิตการปลูกองุ่นในยุโรปได้รับการรักษาเป็นเวลาเกือบพันปี ( เพนนิ่ง - rowsell , 1989 ) เปิดเผยช่วงเวลาที่มีประโยชน์มากขึ้น ฤดูปลูก อุณหภูมิและผลผลิตที่มากขึ้น ในช่วงยุคกลางน้อย " ที่เหมาะสม " ระยะเวลา ( ประมาณ 900 - 1300 AD ) ไร่องุ่นที่ปลูกเป็นไกลเหนือเป็นเขตชายฝั่งของทะเลบอลติกและทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษและในช่วงยุคกลางสูง ( 12 และ 13 ศูนย์ turies ) การเก็บเกี่ยวเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยายนเมื่อเทียบกับช่วงต้นถึงกลางตุลาคมวันนี้ ( ฟิสเตอร์ , 1988 ; gladstones , 1992 ) ในทางกลับกันอุณหภูมิที่ลดลงอย่างมากในช่วง " ยุคน้ำแข็งน้อย " ( 14 – 19 ศตวรรษ ) โดยในส่วนของภาคเหนือจะตายออก และฤดูปลูกองุ่นที่สั้นมากเก็บเกี่ยวองุ่นในยุโรปตอนใต้ คือ ยาก
เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศต่อบนองุ่นได้ และมีโอกาสที่จะเป็นตัวแปรอย่างมากทั้งทางภูมิศาสตร์ และอย่างหลากหลาย . การวิเคราะห์ต้นชี้ให้เห็นว่าในยุโรปฤดูปลูก ควรยืดและปริมาณน้ำฝนจะเพิ่มขึ้นในภาคเหนือและลดลงในภาคใต้